แม่ชมพู่ บอกครอบครัวรอวันนี้มานานกว่า 3 ปี หลังศาลตัดสินจำคุกลุงพล 20 ปี ฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพรากเด็กไปจากบิดามารดา เผยผู้พิพากษาหัวหน้าคณะได้อ่านความเห็นแย้งของอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 และผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ที่ตรวจสำนวนแล้วเห็นว่าควรยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์มีข้อสงสัย ด้านเอฟซีลุงพล ยันยังคงติดตามให้กำลังใจลุงเหมือนเดิม
วันที่ 20 ธันวาคม ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ภายหลังศาลมีคำพิพากษาจำคุกนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล จำเลยที่ 1 ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 292, 317 วรรคแรก ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี ข้อหาอื่นสำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยก และยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 กับให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งให้แก่โจทก์ร่วมทั้งสอง
โดยขณะที่ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีได้ออกนั่งบัลลังก์และอ่านคำพิพากษา ได้ระบุด้วยว่า คดีนี้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร ตรวจสำนวนและทำความเห็นแย้งว่า พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองมีข้อสงสัยตามสมควร ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 1 เห็นควรพิพากษายกฟ้อง จึงให้รวมไว้ในสำนวน ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 11 (1)
หลังจากที่ศาลตัดสิน นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ พร้อมกับพ่อน้องชมพู่และทีมทนาย ซึ่งเป็นโจทก์ร่วม ได้เดินทางออกจากศาลด้วยรถส่วนตัว พร้อมกับเปิดกระจกทักทายกับผู้สื่อข่าวและเหล่าชาวกกกอก รวมถึงยูทูบเบอร์ที่เดินทางมาติดตามการตัดสินคดีในครั้งนี้ ซึ่งระหว่างนั้นแม่น้องชมพู่ นางสาวิตรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า น้องได้รับความเป็นธรรมแล้ว และวันนี้เป็นวันที่ตนเองและครอบครัวรอคอยมาเป็นเวลากว่า 3 ปี
...
ขณะที่นายวัชรินทร์ กงแก่นท้าว หรือพ่อแบม พยานปากเอก บอกว่า ต้องขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรมกับชมพู่ในครั้งนี้ โดยพ่อแบมยังบอกด้วยว่า ที่ต้องออกมาพูดความจริง เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นกับตัวเอง เพราะเขาเคยจะเข้ามาทำร้ายเรา แต่ดีที่มีคนอื่นอยู่ด้วย ซึ่งเราก็บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปว่าเจออะไรบ้าง พบพิรุธอะไร รวมถึงเขามาขอให้ตนช่วยเปลี่ยนเวลาที่เจอเขาด้วย และบอกว่าหากลุงพลได้รับการประกันตัวออกมา ก็ยอมรับว่ากลัวจะไม่ปลอดภัย เพราะก่อนหน้านี้เขาก็มีท่าทีที่จะเข้ามาคุกคาม
ขณะที่เอฟซีลุงพลบางส่วนยังยืนยันว่าจะยังคงติดตามและให้กำลังใจลุงพลต่อไป เพราะยังรักและเป็นห่วงลุงพลอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะถูกศาลสั่งลงโทษก็ยังให้กำลังใจลุงพลเช่นเดิม และในเวลา 15.00 น. ศาลจังหวัดมุกดาหารได้ให้ประกันตัวลุงพล ด้วยหลักทรัพย์เท่าเดิม จำนวน 5 แสนบาท