"ทวี สอดส่อง-รมว.ยุติธรรม" ประกาศเจตนารมณ์ "ยุติธรรมต้านโกง โปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน" พร้อมยอมรับพอรู้แหล่งกบดาน "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ลั่นจะทำทุกทาง นำตัวกลับมาสู่กระบวนการยุติธรรม ด้วยการจับเป็น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ธันวาคม 2566 ที่กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยธ. พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม คณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และตัวแทนผู้บริหารกรมต่างๆ ร่วมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการอํานวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ด้วยความยุติธรรม โปร่งใส ไร้ทุจริตอย่างเป็นรูปธรรม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ว่า การบริหารประเทศใน 4 ปี ถ้าเราสามารถยกระดับการป้องกันการทุจริตและประพฤติไม่ชอบให้ขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 1 ของภูมิภาคอาเซียนและฟื้นฟูหลักนิติธรรมได้ ตนคิดว่าจะเป็นการวางรากฐานให้ประเทศได้เป็นอย่างดี เพราะการแก้ไขปัญหาการทุจริตโดยหลักนิติธรรมเป็นการลงทุนที่น้อยแต่มั่นใจว่าจะได้ผลมากที่สุด ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมจึงมีความมุ่งมั่นจะทำในส่วนนี้ให้ได้ประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องที่ปัจจุบันนี้มีหลายคดีในความสนใจของประชาชน มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมนั้น ตนมองว่าคดีก็ต้องแก้ปัญหา ต้องพิจารณาว่ามีการกระทำผิดอย่างไร เช่น กรณีคนที่กระทำไม่ชอบ หรือทำผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะตามตัวชี้วัดพบว่ามีการเพิกเฉยต่อผู้กระทำผิด โดยเฉพาะถ้าผู้นั้นเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูง จึงคาดหวังว่าทุกหน่วยงานควรต้องร่วมมือกัน ต้องยึดถือตระหนักถึงหลักนิติธรรม ไม่ใช่แค่ฝ่ายนิติบัญญัติ แต่รวมถึงฝ่ายตุลาการ ฝ่ายองค์กรอิสระ เพราะทุกหน่วยงานถูกชี้วัดหมด อีกทั้งประเทศที่มีหลักนิติธรรมสูง ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องท้าทายที่เราจะทำ ส่วนที่มีการกระทำผิด เราก็ต้องทุ่มเทและเน้นย้ำเรื่องความรับผิดชอบในสังคม ไม่เพิกเฉย เพื่อให้สังคมไม่ขาดความรับผิดชอบระหว่างกัน และประชาชนจะต้องได้รับความยุติธรรม ป้องกันกฎหมายอ่อนแอ
...
พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงเรื่องความคืบหน้า กรณีการหลบหนีจากการคุมขังของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง ว่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย เพราะปกติเรื่องของการสืบสวนไล่ล่าจับกุมมักจะไม่มีการบ่งชี้ เพราะป้องกันการไหวตัวทันของผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้รับทราบว่านายเชาวลิตอยู่ในพื้นที่ใด ก็ต้องเร่งติดตาม แต่ขอให้เป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในฐานะที่กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานสนับสนุน ตนและคณะทำงานก็จะทำทุกวิถีทาง เพื่อติดตามตัวกลับมาให้ได้ด้วยการจับเป็น รวมถึงการหลบหนีของเจ้าตัวก็มองว่าเป็นการท้าทายกระบวนการยุติธรรม เพราะไปลดความเชื่อมั่นของประชาชนในสังคม
ส่วนเรื่องการประสานขอเข้ามอบตัวด้วยการพ่วงเงื่อนไข ตนขอไม่พูดถึง แต่เราจะทำทุกทาง และหวังว่าจะนำตัวกลับมาสู่กระบวนการยุติธรรมได้ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ ก็ได้รับหนังสือร้องเรียนของนายเชาวลิต เรียบร้อยแล้ว ทราบว่าเคยมีการยื่นร้องเรียนตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว แต่เรื่องมาไม่ถึงกระทรวงยุติธรรม ซึ่งในหัวข้อหนังสือร้องเรียนความไม่เป็นธรรมก็เกี่ยวกับเรื่องค่าอาหารแพง คดีเก่าที่เขาอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งการตั้งคณะกรรมการให้เข้าไปตรวจสอบ ไม่ใช่ตั้งแล้วจบ แต่ต้องประเมินข้อมูลต่อเนื่อง เพราะบางทีข้อมูลของตัวเขาก็เป็นประโยชน์ เรารับฟังแต่ไม่เชื่อทั้งหมด ต้องรอดูข้อเท็จจริงก่อน และต้องดูเรื่องขีดจำกัดต่างๆ ของหน่วยงาน ทั้งนี้ นายเชาวลิตจะมอบตัวเองหรือไม่ก็เป็นสิทธิของเขา แต่หน้าที่ของเราคือต้องติดตามตัวกลับมาให้ได้.