ทุบหัวฆ่าหนุ่มใหญ่ชาวอิตาลีดับสยองกลางหมู่บ้านย่านคลองสาม ผู้ก่อเหตุเป็นหนุ่มใหญ่อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามเรียก จยย.รับจ้างพาไปมอบตัวที่โรงพัก เผยปมแค้นผู้ตายเป็นตัวต้นเหตุทำให้ลูกชายต้องติดคุก ชนวนบาดหมางจากคู่กรณีชอบเอาขยะมาทิ้งนอกบ้านส่งกลิ่นเหม็นรบกวน ไปตักเตือนจนมีปากเสียงวิวาทชกต่อย ลูกชายเข้ามาห้ามปรามกลับถูกแจ้งความดำเนินคดีจนต้องติดคุกติดตะราง เพิ่งกลับจากเยี่ยมลูก ที่เรือนจำมาเห็นผู้ตายเดินอยู่เลยฟิวส์ขาดคว้าเหล็กแป๊บปรี่เข้าไปหวดไม่ยั้งจนตายคามือ

หนุ่มใหญ่ชาวอิตาลีถูกเพื่อนบ้านทุบหัวฆ่าตายในหมู่บ้านรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 2 ธ.ค. พ.ต.ท.วิรวัฒน์ นิยมทรัพย์ สว. (สอบสวน) สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าตายหน้าบ้านเลขที่ 34/114 ซอย 4 หมู่บ้านภัสสร2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง รายงานให้ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก. พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส. นำกำลังฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1 แพทย์เวร รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพนายมิลาซโซ จานลูกา อายุ 55 ปี ชาวอิตาลี นอนตะแคงจมกองเลือดอยู่ริมถนนใกล้ประตูรั้วบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา มีบาดแผลถูกตีด้วยของเแข็งที่ศีรษะด้านหลัง กะโหลกแตกยุบ ใกล้ศพพบเหล็กแป๊บเปื้อนเลือดยาวประมาณ 80 ซม. วางพิงเสาประตูหน้าบ้าน ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งนิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ให้แพทย์ชันสูตรตามขั้นตอน

สอบถามนายกนกพล เวชสัมพันธ์ อายุ 38ปี กรรมการนิติบุคคลของหมู่บ้าน เผยว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 34/115 ที่อยู่ติดกัน ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กับภรรยา แต่ไม่รู้ว่าภรรยาไปอยู่ที่ไหนนานแล้ว ผู้ตายอยู่คนเดียว ก่อนที่บ้านจะโดนธนาคารยึดและถูกตัดน้ำตัดไฟ แต่ผู้ตายยังคงพักอาศัยอยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้มีปัญหากับเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเรื่องที่ผู้ตายเอาขยะมาทิ้งนอกบ้าน ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนถึงขั้นมีเรื่องชกต่อยกันเป็นคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาแล้ว

...

หลังเกิดเหตุคนร้ายที่ก่อเหตุเดินไปเรียกวิน จยย.รับจ้างขี่พาไปเข้ามอบตัวที่ สภ.คลองหลวง ทราบชื่อนายพงศพัส ฐิตมงคลธรรม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/123 ฝั่งตรงข้ามบ้านของผู้ตาย ให้การรับสารภาพว่า โกรธแค้นผู้ตายที่ทำให้ลูกชายต้องติดคุก ชนวนเหตุบาดหมางกันมานานหลายปี ผู้ตายชอบเอาขยะออกมาทิ้งนอกบ้าน ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนไปว่ากล่าวตักเตือนจนมีปากเสียงทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน ลูกชายตนเข้ามาช่วยห้ามปรามกลับถูกผู้ตายไปแจ้งความดำเนินคดีทำให้ลูกชายตนถึงกับติดคุก ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก่อนเกิดเหตุตนปั่นจักรยานออกจากบ้านเห็นผู้ตายเดินออกมาจากบ้านพอดี ด้วยความแค้นสุมอก ประกอบกับเพิ่งกลับมาจากเยี่ยมลูกชายที่เรือนจำ เห็นความทุกข์ของลูกแล้วทนไม่ได้ เลยคว้าเอาเหล็กแป๊บที่วางอยู่ตรงกระถางต้นไม้วิ่งออกไปกระหน่ำตีศีรษะผู้ตายไม่ยั้งมือจนล้มทรุดเสียชีวิตคาที่

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่