ตำรวจไซเบอร์รวบสาวหล่อ ลอบขายซิมม้าเย้ย ก.ม. ยึดของกลางเพียบกว่า 1 หมื่นอัน เผยรับมาซิมละ 35 ขาย 43 ได้กำไร 8 บาท
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 66 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกันจับกุม น.ส.ธรรศกร กิจกุลวศิน อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดชุมพร พร้อมของกลางซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ลงทะเบียน จำนวนกว่าหมื่นซิม และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น C2 สีทอง-ดำ จำนวน 1 เครื่อง (ใช้สำหรับเปิดใช้ลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์เครือข่าย เอไอเอส, ทรู, และดีแทค) ซึ่งกระทำความผิดฐาน "ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์ สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้" โดยจับกุมได้ในพื้นที่ อ.เมือง จังหวัดชุมพร
พฤติการณ์ขณะเกิดเหตุ สืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาล สั่งจัดการเด็ดขาด ซิมม้า, บัญชีม้า, และเว็บพนันออนไลน์ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท จึงได้สั่งการให้มีการปราบปรามการลักลอบขายซิมผี บัญชีม้า เพื่อป้องกันพวกมิจฉาชีพนำไปใช้โทร. หลอกลวงประชาชน ในรูปแบบแก็งคอลเซ็นเตอร์ และการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบต่างๆ บก.สอท.4 และเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 66 พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 เป็นหัวหน้าชุดนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 เข้าจับกุมบุคคลที่ได้ลักลอบขายซิมผี จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 ได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมการลักลอบขายซิมโทรศัพท์ ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จนสืบทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มาตรา 11 ได้ลงโพสต์ขายผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 จึงให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อจากผู้โพสต์ดังกล่าว จากนั้นได้ตกลงซื้อขายกับสายลับ และได้ส่งซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งานให้กับสายลับ
...
จากการตรวจสอบซิมที่ได้ล่อซื้อพบว่า มีการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ในชื่อของบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่าจริง จึงทำการสืบสวนจนทราบชื่อบุคคลที่ขายซิมดังกล่าวให้สายลับคือ น.ส.ธรรศกร หรือฝ้าย กิจกุลวศิน อายุ 43 ปี และวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อซิมโทรศัพท์ ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้กับ น.ส.ธรรศกร และตกลงว่าจะส่งซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วให้กับสายลับทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามดูพฤติกรรม จนทราบและแน่ใจว่า น.ส.ธรรศกร จะนำซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้ว ไปส่งให้สายลับที่ร้านส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตาม น.ส.ธรรศกร ไปจนถึงบริเวณถนนสาธารณะหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร และประกอบในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบเห็น น.ส.ธรรศกร ถือกล่องพัสดุลงมาจากรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบมีซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้จำนวนกว่าหมื่นซิมไว้ในการครอบครอง
จาการสอบถาม น.ส.ธรรศกร (ผู้ต้องหา) ให้การว่า ตนเป็นผู้โพสต์ขายซิมโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ในกลุ่มลับแอปพลิเคชันและเฟซบุ๊ก เมื่อมีผู้ที่ติดต่อซื้อซิมโทรศัพท์ ตนจะทำการลงทะเบียนซิมเองแล้วขาย แต่ถ้ามีจำนวนมากก็จะติดต่อซื้อจากบุคคลที่รู้จักในเฟซบุ๊กอีกที่หนึ่ง ซึ่งตนจะรับซื้อซิมมาในราคาซิมละ 35 บาท และนำมาขายในกลุ่มลับในราคา 43 บาท ได้กำไรประมาณ 8 บาทต่อซิม ตนทราบอยู่แล้วว่าการซื้อขายซิมโทรศัพท์ ที่ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้เป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ขายได้กำไรดีจึงยอมเสี่ยงทำ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.ธรรศกร ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมทั้งจะขยายผลจับกุมเครือข่ายนี้ต่อไป