เดี่ยว คนขี่จยย.ไปรับเสี่ยแป้ง หนีในวันลงจากเขาบรรทัด สารภาพพาไปส่งในพื้นที่ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง แล้วมีรถเก๋งวีออสสีดำมารับพาไปต่อ คาดกบดานที่สตูลก่อนลงเรือที่ละงูหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยผู้สันทัดกรณีเชื่อว่าตอนนี้เสี่ยแป้ง อยู่ในความดูแลของพันโทผู้กว้างขวาง ของจ.อาเจะห์ อินโดนีเซีย
วันที่ 1 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีการหลบหนีของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด นักโทษอุกฉกรรจ์ ที่หลบหนีจากรพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ในกลางดึกวันที่ 22 ต.ค. ก่อนปะทะกับกำลังของเจ้าหน้าที่ ที่บ้านในตระ บนเทือกเขาบรรทัดพื้นที่ จ.ตรัง เมื่อ 8 พ.ย. แล้วหนีลงเขา จากการสอบปากคำนายสุเชษฐ์ หรือเดี่ยว จันเขียว อายุ 39 ปี ผู้ที่มารับพาหนีหลังลงจากเขาบรรทัด ซึ่งตำรวจได้จับกุมนายสุเชษฐ์ พร้อมอาวุธปืน เบื้องต้นให้การว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 เวลาประมาณ 23.00 น. ตนได้รับการติดต่อจากบุคคล (ไม่ขอเอ่ยนาม ) ให้ไปรับตัวนายเชาวลิต โดยได้ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟสีดำ คันดังกล่าว ขี่ไปรับนายเชาวลิต หรือ แป้ง ที่บ้านป่าพง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เมื่อไปถึงพบนายเชาวลิตอยู่ริมถนน ตนจึงได้ส่งสัญญาณให้มาขึ้นรถ และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนายเชาวลิตนั่งซ้อนท้าย จนมาถึงหน้าวัดพรุนายขาว ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง จึงส่งต่อให้กับบุคคลอีกบุคคลหนึ่งซึ่งตนไม่รู้จัก แต่จำรถที่มารับได้เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ โดยก่อนเดินไปขึ้นรถยนต์เก๋ง นายเชาวลิตได้สั่งให้ตนไปเอาของ โดยไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ให้เอาไปเก็บให้ด้วย โดยบอกว่าให้ไปเอาที่จุดใด

...
นายสุเชษฐ์ ให้การด้วยว่า เมื่อส่งตัวนายเชาวลิตแล้ว ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดิมกลับบ้านพัก ต่อมาวันที่ 9 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 11.00 น. ได้ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เลขทะเบียน 1460 (จำหมวดอักษรไม่ได้) ออกจากบ้านพักเพื่อไปเอาของดังกล่าวของเสี่ยแป้ง เมื่อไปถึงจุดที่นายเชาวลิตแจ้งไว้ ก็เดินเข้าไปดูพบว่าเป็นสิ่งของห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ จึงได้เดินไปหยิบและนำมาขึ้นรถยนต์เก๋ง และขับกลับมาที่บ้านพัก นำของดังกล่าวไปฝังไว้หลังบ้านพักของตน จนกระทั่งตำรวจนำหมายค้นบ้านเข้ามาค้นบ้านและพบของกลาง
ขณะที่แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือรายหนึ่ง เผยว่า หลังจากนั้นรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ คันดังกล่าว น่าจะพานายเชาวลิตไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.สตูล ภายใต้การดูแลของผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่ง ก่อนไปลงเรือสปีดโบ๊ตที่บริเวณท่าเรือในท้องที่บ้านบากันโต๊ะทิด อ.ละงู จ.สตูล เพื่อมุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคาดว่านายเชาวลิตน่าจะไปหลบซ่อนตัวในจังหวัดแห่งหนึ่งซึ่งเป็นเกาะหนึ่ง ในประเทศเพื่อนบ้าน (อาเจะห์-อินโดนีเซีย) โดยมีกำนันคนดังรายหนึ่งที่อดีตเคยค้าขายทางเรือกับประเทศนักธุรกิจของประเทศเพื่อนบ้าน เป็นผู้ให้ความสะดวกในการหลบหนี มีผู้ประสานงานเป็นอดีตนายทหารยศพันโทของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพันโทรายนี้น่าจะเป็นผู้ให้การดูแลและให้ที่พักในขณะที่นายเชาวลิตหลบหนีซ่อนตัว จนกระทั่งต่อมานายเชาวลิต ได้อัดคลิป 3 คลิป และเชื่อว่าขณะนี้นายเชาวลิตน่าจะยังอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านภายใต้การดูแลของอดีตทหารยศพันโทรายนี้

ทั้งนี้ ในตอนเช้าวันที่ 30 พ.ย. 66 กำลังของตำรวจกองปราบ กก.6 บก.ป ร่วมกับกำลังตำรวจของ กก.สส.ภ.จว.สตูล ได้สนธิกำลังเข้าตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 1 ขข.8010 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่าได้ใช้ในการกระทำความผิด โดยเป็นรถกระบะที่ใช้นำทางพานายเชาวลิตไปลงเรือที่ท่าเรือบ้านบากันโต๊ะทิด อ.ละงูจ.สตูล โดยมี นายอัชฮัร หมัดสาลี อายุ 30 ปี ชาว ต.พิมาน อ.เมืองสตูล เป็นเจ้าของรถกระบะ ชุดจับกุมได้นำตัวนายอัชฮัร พร้อมรถยนต์ส่งให้ พ.ต.ต.ปิยะพงศ์ เต็มนิล สว.(สอบสวน) สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะของนายอัชฮัร ปัสสาวะสีม่วงด้วย
ส่วนนายสุเชษฐ์ หรือเดี่ยว จันเขียว อายุ 39 ปีนั้น เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 เคยถูก พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หน.ชุด ชปส.ภ.จว.พัทลุง พร้อมพวก บุกเข้าจับกุมได้ของกลางทั้งอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมยาบ้า 90 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 3.9 กรัม มีการตรวจยึดทรัพย์สินรถยนต์ 1 คัน ราคาประมาณ 1,500,000 บาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างอุทธรณ์คดี และคาดว่านายสุเชษฐ์ น่าจะรู้จักกับนายเชาวลิตขณะเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำกลางพัทลุง