วิน จยย.หัวร้อน ท้าสาวคู่กรณี “ไปเรียกใครมาก็ได้ที่เจ๋งที่สุด” หลังมีปากเสียงปมขับรถตัดหน้า ล่าสุดตำรวจ สน.ดอนเมือง จับดำเนินคดีแล้ว 2 ข้อหา สารภาพวันเกิดเหตุกินยาบ้าไป 1 เม็ด
กรณีเพจสายไหมต้องรอดโพสต์คลิป 2 คลิป คลิปแรกเห็นวินรถ จยย.เบอร์ 3 โวยวายด่าทอคนขับรถเป็นหญิง ส่วนคลิปสอง คนขับรถ จยย.คนเดิม ตามไปด่าทอคนถ่ายคลิปถึงหน้าบ้าน และท้าทายอยากเจอคนที่เจ๋งที่สุด เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อม น.ส.ศรัญญา เงินปาน อายุ 27 ปี น.ส.พัชรกัญภัค ภาณุพงศ์กุลนิต อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส คปอ. ถนนพหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. พื้นที่ สน.ดอนเมือง เพื่อชี้จุดเกิดเหตุและจุดที่เป็นที่ตั้งวิน จยย.
น.ส.ศรัญญา กล่าวว่า วันเกิดเหตุกำลังขับรถไปส่งพี่สาวที่สถานีรถไฟฟ้า คปอ. จังหวะจะเข้าซ้ายเพื่อจะมาที่ใต้บีทีเอส แต่มองไม่เห็นรถเขา แต่พี่สาวบอกระวัง มีรถตัดหน้า เห็นอีกทีรถถึงหน้ารถเราแล้ว ตอนนั้นเบรกแต่ไม่ได้ชน จากนั้นเขาก็ขับออกไปลักษณะซ้ายทีขวาที ลักษณะไม่พอใจ ตัวเองไม่ได้บีบแตรหรือทำอะไรที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ
จากนั้นเราขับมาทางเดียวกัน เขาก็จอดที่วิน อยู่ใกล้จุดที่ตนจอดจะต้องลงไปส่งพี่สาว ตนยังคิดว่าเขาจะคิดว่าเราไปหาเรื่องเขาหรือเปล่า พอจอดรถเขาเดินมาโวยวายตามคลิป เรายกมือไหว้เขาแล้วแต่ไม่จบ ท้าทายต่างๆ นานา ก่อนจะมีวินอีกคนมาดึงเขาออกไป พร้อมยกมือไหว้ขอโทษพี่สาว ก่อนแยกย้ายกันกลับ
ตอนนั้นคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรแล้ว แต่มาเจออีกทีตอนที่ตนกลับมาจอดรถหน้าบ้าน พอเขาเห็น เขามาจอดโวยวาย แล้วเป็นตามคลิป ตอนนั้นตกใจ ไม่คิดว่าจะเข้ามาถึงบ้าน เป็นห่วงแม่และลูก หลังเกิดเหตุไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ให้เบอร์มา หากเกิดเหตุอีกให้รีบโทรแจ้ง
...
ด้านนายเอกภพ เผยว่า วันนี้มาลงพื้นที่เพื่อจะมาดูจุดเกิดเหตุและตามวินที่อยู่ในคลิป แต่ไม่เจอใคร
ส่วนการขับปาดหน้ากันเป็นเรื่องความผิดจราจร มันน่าจะจบไป แต่ที่ติดใจคือหลังเกิดเหตุยังตามไปคุกคามถึงบ้านเขา มีเจตนาอะไร ซ้ำยังท้าทายใครเจ๋งให้มา ตอนนี้ผมมาหาแล้ว ทำไมไม่โผล่หน้ามาหน่อย จะไปเก่งอะไรกับผู้หญิง 2 คน ไปไหนหมด ถ้าขี่วินแล้วปกครองดูแลกันไม่ได้ ไม่ต้องขี่ ฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบเรื่องการตั้งวิน รวมถึงคนขี่วินว่าได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง
ต่อมา นายเอกภพเดินทางไปที่บ้านผู้เสียหาย ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กม. พูดคุยกับ นางมนัชญา เงินปาน อายุ 59 ปี แม่ผู้เสียหาย กล่าวว่า ปกติที่บ้านมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ เป็นผู้หญิงทั้งหมด ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลให้กับครอบครัวอย่างมาก โดยเกิดเหตุวิน จยย.ที่ก่อเหตุ มีการพูดจาท้าทายว่าให้แจ้งตำรวจได้เลย พร้อมกับข่มขู่ว่า “ในนี้มีคนเจ๋งบ้างหรือเปล่า ใครเจ๋งไปเรียกมาเลย” อยากให้เจ้าหน้าที่ตามตัวมาตักเตือน อย่าไปทำแบบนี้อีก
ด้าน พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมฝ่ายสืบสวน ติดตามตัวหนุ่มวินรายนี้มาได้แล้ว ทราบชื่อคือ นายธวัชชัย อุ่นใจเพื่อน อายุ 43 ปี จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบสารเสพติดในร่างกายผู้ก่อเหตุ นายธวัชชัย ยอมรับว่า วันเกิดเหตุตัวเองกินยาบ้าไป 1 เม็ด ตอนเกิดเหตุตนไม่ได้ตั้งใจขี่รถตัดหน้า แต่วันนั้นรีบขี่รถไปเข้าวิน ตัดสินใจขี่รถปีนเกาะกลางถนน อีกทั้งตนไม่ได้ตามไปที่บ้านผู้เสียหาย แต่ไปส่งผู้โดยสารที่ท้ายซอยนั้นพอดี แล้วผู้เสียหายมายืนรอ
ยอมรับว่าตนไม่ได้ขึ้นทะเบียนขี่ จยย.กับกรมการขนส่งทางบก แต่ไปเช่าเสื้อวินมาราคาวันละ 50 บาท และรถยังเป็นป้ายทะเบียนขาว ไม่ได้เป็นป้ายเหลือง
จากนั้นทั้ง 2 ฝ่าย พบกันที่โรงพัก นายธวัชชัยยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย
พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สน.ดอนเมือง ระบุว่า เรื่องที่ตรวจพบสารเสพติดในร่างกายของนายธวัชชัย ตำรวจต้องดำเนินคดีอยู่แล้ว ส่วนในคลิปที่มีการใช้คำพูดข่มขู่ จะดำเนินคดีข้อหาทำให้ตกใจกลัวโดยการขู่เข็ญ นอกจากนี้ตำรวจต้องตรวจสอบรถ จยย.นายธวัชชัย รวมทั้งการมาขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างกับสำนักงานเขตดอนเมืองด้วย ว่ามีการขอขี่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินคดี
...
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ทำให้ตกใจกลัวโดยการขู่เข็ญ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และหากพบการกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจร จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป.