พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ แจงดราม่าทริปน้ำไม่อาบ พบส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แต่ยังมีน้องๆ เยาวชนที่ยังเข้าไม่ถึงช่องทางการสื่อสาร ยันวันนี้ขากลับบังคับใช้กฎหมาย 100%
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เปิดเผยถึงกรณี จากการเรียกหัวหน้ากลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ “ทริปน้ำไม่อาบ” มาพบปะพูดคุย และสร้างกติการ่วมกัน ถ้ามาเที่ยวจะเที่ยวแบบไหน และหัวหน้ากลุ่มได้ตั้งกฎเหล็กขึ้นมา 10 ข้อ ในการขับขี่รถจักรยานยนต์ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และทำบุญทอดกฐินใน จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2566
ซึ่งจากผลการเรียกหัวหน้ากลุ่มต่างๆ มาพบปะพูดคุย ก็พบว่ามีการให้ความร่วมมือที่ดี จากทุกปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีการวางระบบแบบนี้ ซึ่งมีคนมาเที่ยวทุกสารทิศ โดยครั้งนี้ก็มีการจัดระเบียบ มีการตกลงร่วมกัน ซึ่งจากการตรวจสอบ จะแยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือกลุ่มที่ได้รับรู้การสื่อสาร จะอยู่ในกติกา ส่วนกลุ่มที่ 2 อาจเป็นน้องๆ เยาวชน ที่เข้าไม่ถึงช่องทางสื่อสาร ก็ยังใช้วิธีเดินทางแบบเดิม แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่ได้ผ่านเข้าสู่ตัวเมืองชั้นใน ถือว่าอยู่ในกฎระเบียบ ในระดับหนึ่ง
ส่วนการดำเนินคดีรถที่ผิด วันนี้ ทางท่านผู้ว่าฯ ร่วมกับขนส่งจังหวัด และ ภ.จว.เพชรบูรณ์ ได้ร่วมกันตั้งด่าน จับกุมการทำผิดกฎหมาย เช่น แผ่นป้ายทะเบียน การดัดแปลงสภาพรถ ฯลฯ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวานแม้จะมีการทำตามกฎกติกา แต่ก็ยังมีบางส่วน ที่ไม่อยู่ในกติกา และในวันนี้เป็นวันเดินทางกลับ จึงได้มีการดำเนินบังคับใช้กฎหมาย 100% โดยจะมีการตั้งด่าน เพื่อกวดขันจับกุมการกระทำผิด
จึงอยากฝากถึงผู้ที่มาเที่ยวในทริปนี้ควรมีการเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกันบนท้องถนน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจบริบท ทั้งในส่วนกลุ่มเยาวชนและสังคม คือ ตำรวจอยู่ตรงกลาง ระหว่าง 2 ส่วนนี้ ซึ่งสังคมก็คาดหวังในการบังคับใช้กฎหมาย 100% แต่ในขณะเดียวกัน เด็กๆ เยาวชนเขาก็มีวัฒนธรรมของทริปน้ำไม่อาบ ซึ่งหากเข้าไปดูรายละเอียด จะพบว่ามีอยู่ 2 ส่วน กลุ่มหนึ่ง คือคนโต คือทำธุรกิจ การจัดงาน สำนักแต่งรถ เพื่อมาทำธุรกิจ ส่วนกลุ่ม 2 คือกลุ่มลูกค้า ซึ่งคือ เด็ก เยาวชน ที่รักการขับรถแต่ง ก็จะเข้ามาร่วมบรรยากาศกับทริปน้ำไม่อาบ
...
และในปีนี้ พบว่าหลังจากการจัดรูปแบบให้มีการทำอีเวนต์ที่เป็นรูปแบบ พบว่าเด็กหายไปเยอะ จากการประเมินเมื่อวานที่มาเป็นหมื่น เหลือไม่ถึง 3,000 คน พอเข้าไปในงานจริงๆ เหลือไม่ถึง 300 คน สาเหตุสำคัญที่พบ คือมีการเก็บค่าเข้างานบัตรละ 250 บาท จะเห็นได้ชัดเลยว่าเด็กๆ ไม่ได้มีตังค์กัน พอมีการเก็บตังค์ เด็กก็หายไปเยอะ ที่เหลือก็กระจัดกระจายเข้าที่พักตามภูทับเบิกและเขาค้อกัน