"อธิการบดีเทคโนฯปทุมวัน" ยันแก๊งอาชญากรรมขนาดเล็กแอบอ้างชื่อ แจงสถาบันไม่มีนโยบายส่งเสริมให้ก่อเหตุ หรือให้เงินสนับสนุน เผย นศ.ที่ถูกจับกุมพ้นสภาพไปแล้ว เตรียมดำเนินคดีคนแอบอ้างชื่อให้ถึงที่สุด

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 พ.ย. 66 ที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน รองศาสตราจารย์ ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พร้อมด้วย ผศ.วีนัส ทัดเรียมรองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวขบวนการนักศึกษาที่ก่อเหตุยิง "น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ" เสียชีวิต หลังมีแก๊งนำโลโก้สถาบัน และชื่อสถาบันไปตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดเล็ก

โดย นายเสถียร กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องหยอดและครูเจี๊ยบ รู้สึกไม่สบายใจที่มีกลุ่มคนนำชื่อสถาบันไปกระทำการในลักษณะดังกล่าว ทำให้สถาบันสถานศึกษาเก่าแก่ 91 ปี เสียชื่อเสียง ยืนยันว่าสถาบันไม่มีนโยบาย หรือส่งเสริมให้กระทำการในลักษณะดังกล่าว รวมทั้งไม่มีบุคลากรของสถาบัน ให้การช่วยเหลือหรือให้เงินสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน เพราะต้องขออนุญาตจากอธิการบดีเท่านั้น ใครฝ่าฝืนต้องได้รับบทลงโทษตามกฎระเบียบของสถาบัน

ด้าน นายวีนัส กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาในคดีน้องหยอดและครูเจี๊ยบทั้ง 9 คน ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ 8 คน เป็นบุคคลที่พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาไปแล้ว พร้อมกับนักศึกษาคนอื่นๆ จำนวน 140 คน ส่วนอีก 1 คน รอตรวจสอบ

นายวีนัส กล่าวต่อว่า ส่วนรายชื่ออีก 84 คน ที่อยู่ภายในกลุ่มแก๊ง "เสรีชนคนปทุมวัน" ที่มีการบูชารูปอดีตนักศึกษาปทุมวันที่เสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายชื่อมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ยังคงมีสภาพเป็นนักศึกษาหรือไม่ หากได้รายชื่อดังกล่าวมาแล้ว จะทำการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบมีความผิดเกี่ยวข้องกับองค์กรดังกล่าว ก็ต้องถูกลงโทษตามกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ

...

"ที่ผ่านมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ทางสถาบันไม่อนุญาตให้มีการรับน้อง ซึ่งหากฝ่าฝืนก็ต้องได้รับบทลงโทษตามขั้นตอน คือ พักการเรียน 1 ภาคการศึกษา และไม่อนุญาตให้นักศึกษาเข้ามาทำกิจกรรมภายในสถาบันหลังเวลา 21.00 น. ส่วนที่พบมีการปั๊มสัญลักษณ์ฟันเฟืองบนร่างกายผู้ต้องหา 4 ราย จะเกี่ยวข้องกับสถาบันหรือไม่นั้น ยืนยันว่าสัญลักษณ์ของสถาบันเป็นดอกบัว ไม่ใช่ฟันเฟือง แต่ฟันเฟืองคือสัญลักษณ์ของวิศวะ" นายวีนัส กล่าว

นายวีนัส กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการป้องกันการก่อเหตุในลักษณะนี้ ทั้งปทุมวันและอุเทนถวายได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด มีการตรวจสอบนักศึกษาโดยแลกเปลี่ยนข้อมูล มีการตั้งกลุ่มไลน์ร่วมกัน ทุกเย็นหลังเลิกเรียนจะมีอาจารย์ไปส่งนักศึกษาหน้าสถาบัน เพื่อขึ้นรถและกลับบ้านโดยเร็ว แจ้งผู้ปกครองผ่านกลุ่มไลน์ว่า ส่งที่จุดไหนและประสานตำรวจท้องที่รับช่วงต่อ

"หลังจากนี้จะให้ฝ่ายนิติกรของสถาบัน เข้าไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับทุกคนที่แอบอ้างชื่อสถาบัน เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุ และแอบอ้างชื่อของสถาบัน" นายวีนัส กล่าว