สุรินทร์ สาวโวย กลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจ บุกบ้านไม่มีหมายค้น มาจับคดี พ.ร.บ.การพนัน ปมขายเบอร์เงิน-เบอร์ทอง บอกให้ไปคุยที่โรงพัก แต่ไม่ต้องขึ้นโรงพัก

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้มีชายวัยฉกรรจ์อ้างตนว่าเป็นตำรวจ เข้ามาที่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 7 บ้านนาโพธิ์ ตำบลบ้านแร่ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยที่ไม่มีหมายค้นแต่อย่างใด มาถามหาคนที่อยู่ในบ้าน ว่ามีความผิดเรื่องการจำหน่ายเบอร์เงิน-เบอร์ทองทางออนไลน์ แต่ทางเจ้าของบ้านบอกว่าไม่ได้ขาย และไม่ได้มีความผิดอะไร แต่ทำไมเขาถึงมายัดเยียดข้อหา พร้อมจะเรียกรับเงิน จึงได้ร้องสื่อมวลชน

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ได้มีชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน นั่งรถกระบะสีดำมาที่บริเวณหน้าบ้านในช่วงเวลาเที่ยง แล้วก็บุกเข้าไปในบ้าน โดยที่ไม่มีหมายค้นอะไรเลย ถามหาคนในบ้านว่ามีใครอยู่ไหม เพราะว่ามีคนเกี่ยวข้องความผิดข้อหาขายเบอร์เงิน-เบอร์ทองในออนไลน์ จากนั้นเขาก็กลับไป แล้ววันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ได้มีชายฉกรรจ์จำนวน 4 ราย กลับเข้ามาหาอีกครั้ง และเข้ามาถึงในบริเวณหน้าบ้าน พร้อมทั้งบอกว่าลูกสาวมีความผิด และเกี่ยวข้องกับการขายเบอร์เงิน-เบอร์ทองในออนไลน์ พร้อมบอกว่าให้ไปคุยกันที่โรงพัก แต่ไม่ต้องขึ้นไปโรงพัก ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น ให้ไปบริเวณด้านข้างของโรงพัก แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยเหลือเอง แต่เจ้าของบ้านไม่ได้ไป 

หลังจากนั้นวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 16.00 น ก็มีชายฉกรรจ์ 1 คนเข้ามาในบ้านอีก บอกว่าให้เซ็นชื่อรับข้อหานี้ เจ้าของบ้านไม่กล้าเซ็น เพราะว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมต้องบังคับให้มีการเซ็นรับข้อกล่าวหาด้วย 

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยัง สภ.เขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับทาง ผกก.สภ.เขวาสินรินทร์ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง สภ.เขวาสินรินทร์ จึงได้ไปสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ข้างใน สภ.เขวาสินรินทร์ ว่า ผกก.อยู่หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าให้คุยกันก่อน แล้วก็พิจารณาดูก่อน แต่ไม่ตอบว่าผู้กำกับฯ อยู่ที่ไหน ผู้สื่อข่าวจึงได้ออกมา

...

นางดวงจิต สุขต้น อายุ 50 ปี เจ้าของบ้าน อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 7 บ้านนาโพธิ์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มีคนมาถามหาลูกสาว แล้วอ้างตนว่าเป็นตำรวจ ตนก็เลยงงว่าไม่ได้ผิดอะไร ทำไมถึงเข้ามาถามหาแบบนี้ พอวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 มาอีก 4 คน มาถามหาลูกสาวว่ามีความผิด ก็หาขายเบอร์เงิน-เบอร์ทอง ทั้งๆ ที่ลูกสาวไม่ได้ขายนานแล้ว 

ตอนแรกบอกว่าให้ไปจ่าย 5,000 บาท ทั้งๆ ที่ลูกไม่ได้ขาย จะให้ไปจ่ายเงินได้ยังไง แล้วก็ยังงงๆ อยู่ว่าให้ไปจ่ายที่สถานีตำรวจ แต่บอกว่าไม่ให้พูดอะไร ทำไมถึงไม่ให้ขึ้นไปที่สถานีตำรวจ มันมีอะไรหรือเปล่า เขาบอกให้ไปข้างๆ เขาบอกไม่ให้พูดอะไร เขาสั่งไม่ให้พูดอะไร ก็เลยยังงงๆ อยู่ ไม่รู้ว่ามีอะไรหรือเปล่า ให้ไปข้างๆ โรงพักแล้วก็ไม่ให้พูดอะไรอีก ตอนช่วง 16.00 น. มาอีก มาคนเดียว ถือเอกสารมาให้เรา บอกให้เซ็นยินยอม แล้วเราจะเซ็นยินยอมเรื่องอะไร ในเมื่อเราไม่ได้ทำผิดอะไร นางดวงจิตกล่าว 

ด้าน นางสาวนฤชา สุขต้น อายุ 27 ปี (เสื้อสีขาว) ลูกสาวนางดวงจิต บุคคลที่ถูกกล่าวหา กล่าวว่า เขาบอกให้ไปที่โรงพัก แต่ไม่ต้องขึ้นไปที่โรงพัก ให้ไปด้านข้างๆ โรงพัก ก็เลยโทรขอคำปรึกษาจากน้าคนที่รู้จัก คนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ แล้วเขาก็บอกให้รอก่อน ยังไม่ได้ไปที่โรงพัก เพราะว่าตนเองก็ยังงงกับเหตุการณ์นี้อยู่ เพราะว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมจะต้องไป แล้วเขาก็กลับมาอีกครั้งหนึ่งมาเจอแม่ เขามาหาประมาณตอน 4 โมงเย็น แล้วเขาก็เอาเอกสารมาให้ตนเองยินยอมเซ็นรับข้อกล่าวหา ว่ามีความผิดจริงๆ เช่น ขายเบอร์เงินหรือเบอร์ทอง แต่ว่าตนเองไม่ได้ทำ.