ผู้การสุราษฎร์ ฟาดไม่เลี้ยง สั่งสอบ รอง สวป.สังกัด สภ.เวียงสระ เซ่นคลิปเสพควันจากการเผาไหม้เข้าสู่ร่างกาย โดยให้มีการสืบสวนถึงบุคคลอื่นที่ร่วมด้วย รวมถึงผู้ที่นำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีคลิปภาพบุคคลแต่งกายชุดเครื่องแบบตำรวจสีกากี ได้กระทำการเสพควันจากการเผาไหม้เข้าสู่ร่างกาย (สูบกัญชา) โดยปรากฏมีการบันทึกภาพเคลื่อนไหวและนำเผยแพร่ในโซเชียล ซึ่งสวมใส่เครื่องแบบยศ ร.ต.ท.มีตำแหน่งเป็น รอง สวป.สภ.แห่งหนึ่งในสังกัด บช.ภ.8 มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ต่อมาเวลา 08.00 น. พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ. 8 ได้สั่งการให้ตรวจสอบทันที โดยได้รับรายงานตรวจสอบเบื้องต้นเป็นตำรวจยศ ร.ต.ท. สังกัด สภ.เวียงสระ ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยบันทึกภาพบริเวณบ้านพักข้าราชการตำรวจ สภ.เวียงสระ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 โดยสั่งการให้ ผกก.สภ.เวียงสระ ออกคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของข้าราชการตำรวจ อีกทั้งกฎ ก.ตร.ว่าด้วยจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ.2566 ลง 25 พ.ค.66 ข้อ 3 (2) ข้าราชการตำรวจพึงหลีกเลี่ยงและละเว้นการกระทำการอื่นใด ที่อาจจะนำไปสู่ความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของข้าราชการตำรวจ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ กระจะจ่าง ผกก.สภ.เวียงสระ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย พ.ต.ต.วิรัตน์ เพชรรัตน์ สวป.สภ.เวียงสระ เป็นประธานกรรมการ ร.ต.อ.สุเมศ ทองอ่อน รอง สว.(สส.)สภ.เวียงสระ เป็นกรรมการ และ ร.ต.อ.โสภณ นาคเล่ง รอง สว.(อก.) สภ.เวียงสระ เป็นกรรมการและเลขานุการ ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
ด้าน พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.เวียงสระ ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดให้ทราบแล้ว รวมถึงทราบตัวตำรวจที่ปรากฏอยู่ในคลิป โดยตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ณัฐชนน เกิดก่อ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ที่รับผิดชอบงานจเรตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสืบสวนข้อเท็จจริงทันที โดยให้การทำงานเป็นอิสระจากกันกับการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สภ.เวียงสระ ซึ่งจเรตำรวจสุราษฎร์ธานี ให้มีการสืบสวนถึงบุคคลอื่นที่ร่วมด้วย รวมถึงผู้ที่นำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่
...
“ให้มีการสอบสวนถึงวัตถุประสงค์ของการนำคลิปดังกล่าวไปเผย เพราะการกระทำดังกล่าวเคยมีคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องของการกระทำที่ไม่เหมาะสมสร้างความเสื่อมเสียให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำในเครื่องแบบ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างแน่นอน แต่จะเป็นความผิดระดับไหนขึ้นอยู่กับความเห็นของจเรตำรวจสุราษฎร์ธานี” พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ กล่าว