"กองปราบฯ" เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้อง "กำนันนก" จ้างวานฆ่า "สว.ศิว" พร้อมสั่งฟ้องกลุ่มตำรวจร่วมงานเลี้ยงทั้งหมด ผิด 157
จากกรณีเหตุการณ์ที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ หรือสารวัตรศิว สว.กก.2 บก.ทล. ถูก นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ "หน่อง หมั่นมาก" ยิงเสียชีวิต ภายในงานเลี้ยงบ้าน "กำนันนก" เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา ก่อนมีการโอนคดีมาให้กองปราบดำเนินการ รวมทั้งยังมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่ร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวอีกหลายคน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 14 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนกองปราบปราม พิจารณาแล้วมีความเห็นสั่งฟ้อง นายธนัญชัย หรือ "หน่อง หมั่นมาก" ผู้ต้องหาที่ 1 ในคดี "ฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยพลาด, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีเหตุจําเป็นเร่งด่วนตามพฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน" แต่ผู้ต้องหาถูกตํารวจวิสามัญถึงแก่ความตายไปแล้ว จึงระงับฟ้องไป
ส่วน นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" ผู้ต้องหาที่ 2 คณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องในข้อหา "เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทําความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น" จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รวมทั้งขณะนี้ผู้ต้องหายังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะครบกําหนดฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 19 พ.ย. นี้ ดังนั้นพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องในวันที่ 16 พ.ย. นี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยไม่ต้องนำตัวผู้ต้องหามาส่งให้อัยการ เพราะผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำแล้ว
...
ส่วนสำนวนคดีที่ 2 คณะพนักงานสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้อง กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 นาย ที่ให้ความช่วยเหลือกำนันนกหลบหนีหลังจากเกิดเหตุ คือ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข, ร.ต.ต.ประสาร รอดผล, ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล, ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ แตงอําไพ, ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร, และ ร.ต.ท.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ โดยทั้งหมดยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำฯ รวมทั้งตำรวจอีก 15 นาย ที่อยู่ร่วมในงานเลี้ยงด้วยในความผิดฐาน "ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่"
นอกจากนี้ยังมีความเห็นสั่งฟ้องกลุ่มลูกน้องของกำนันนกอีก 7 คน ที่ร่วมกันทำลายและซุกซ่อนหลักฐานในที่เกิดเหตุ ในข้อหา "เป็นผู้สนับสนุนเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด"