ปรับแผนล่า "แป้ง นาโหนด" หลังปฏิบัติการครบ 7 วันแต่ยังไร้วี่แวว ขณะที่พัทลุง ส่งตำรวจชุด "เสือดำ" เข้าเสริม เพื่อปิดเส้นทางการหลบหนี หลังพบรอยเท้าบนเทือกเขาบรรทัดบริเวณชุดเชื่อมต่อลงมายังทางหมู่บ้าน
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไล่ล่าตัว "แป้ง นาโหนด" ดำเนินมาครบ 7 วัน เจ้าหน้าที่รัฐยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ในขณะที่ จนท.ฝ่ายต่างๆ ต้องผจญภัยฝนที่ตกหนักในพื้นที่เทือกเขาบรรทัดตลอดคืน ส่งผลให้ตำรวจชุดแดนไทย 54 และ ตชด.ชุดพลร่มค่ายนเรศวร ต้องประสบปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องเดินเท้าลงมาจากเทือกเขาบรรทัด และต้องนอนพักค้างคืน ณ บริเวณน้ำตกท่าช้างอีก 1 คืน เนื่องจากมีน้ำป่าไหลเชี่ยวกราด โดยชุดกำลังดังกล่าวเพิ่งเดินเท้าลงมายังศูนย์ปฏิบัติการพิเศษส่วนหน้า ณ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้างในตอนสายวันนี้ (วันที่ 14 พ.ย.) เพื่อปรับเปลี่ยนกำลังให้ชุดใหม่ของชุดไล่ล่าขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่แทน และมีการจัดวางกำลังชุดไล่ล่ากันใหม่โดยเน้นหนักการเฝ้าระวังจุดสำคัญๆ พื้นที่ในตระที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนีของคนร้าย แต่ไม่มีการเผยรายละเอียดของเส้นทางดังกล่าว

...
อย่างไรก็ตามจากการที่ จนท.พบร่องรอยของ นายเชาวลิต หรือแป้ง นาโหนด ลงมาจากบ้านในตระมายังบ้านป่าพงศ์ ท้องที่หมู่ที่ 9 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง นั้น ทางศูนย์ปฏิบัติส่วนหน้าได้ระดมกำลังตำรวจกองร้อย ตชด.ค่ายนเรศวร ชุดซิงก้า ตชด.43 สงขลา กำลังตำรวจ ภ.จว.พัทลุง รวมทั้งกำลังตำรวจจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมบูรณาการกำลังออกไล่ล่าแล้ว แต่ล่าสุดยังไม่พบตัวแต่อย่างใด

ขณะที่บริเวณเฝ้าระวังเส้นทางขึ้นเทือกเขาบรรทัดในทุกๆ จุด โดยเฉพาะทางเข้าน้ำตกท่าช้าง ตำรวจเฝ้าระวังเข้มงวดขอตรวจค้นชาวบ้านทุกรายที่ผ่านเส้นทางขึ้นรอบๆ เทือกดังกล่าว ซึ่งเป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้านและที่พักของชาวบ้าน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสกัดการส่งเสบียงขึ้นไปให้กับ เสี่ยแป้ง

ซึ่งชาวบ้านรายหนึ่งได้กล่าวว่า ตนเองมีที่พักอยู่บริเวณเชิงเขาจำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้เข้าออกเป็นประจำในแต่ละวัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในป่าบนเขาบรรทัดนั้น ก็ไม่ทำให้เกิดความวิตกกังวลแต่อย่างใด แต่เดือดร้อนเล็กน้อยในเรื่องการทำมาหากินที่ไม่ได้ตัดยางพาราและปลูกพืชอื่นภายในสวน ทำให้ขาดรายได้ แต่ก็อุ่นใจที่มีเจ้าหน้าที่ค่อยดูแลเรื่องความปลอดภัย และพร้อมที่จะแจ้งเบาะแสหากพบตัวบุคคลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุด

สำหรับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของนายนก และนายปลิก ที่เคยให้การช่วยเหลือ "แป้ง นาโหนด" ในพื้นที่บ้านในตระนั้น ยังเป็นเรื่องปริศนาของหลายๆ คน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าบุคคลทั้ง 2 คน ไม่น่าจะอยู่ภายใต้การดูแลของตำรวจบางหน่วยงานที่ออกมาระบุว่านำบุคคลทั้ง 2 คน ไปเก็บกักตัวเพื่อขยายผลไปสู่การจับกุม คนส่วนใหญ่ในพื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัดและพื้นที่ใกล้เคียงยังเชื่อว่าการที่กำลัง จนท.หน่วยต่างๆ ที่ยังค้นไม่พบตัวมี 2 ประเด็นหลัก คือ ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่โดยอาศัยการหลบหนีทางน้ำหลังจากการปะทะกับตำรวจ และหากว่า เสี่ยแป้ง หลบหนีอยู่ในเทือกเขาบรรทัด ก็น่าจะอยู่ภายใต้การดูแลและนำทางของนายนก และนายปลิก ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ยิงปะทะกันแล้วชาวบ้านในตระยังไม่พบตัวบุคคลทั้ง 2 คนแต่อย่างใด ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จริงๆ ก็ยากนักที่ จนท.รัฐจะตามหาตัวเจอ เนื่องจากนายนกและนายปลิกเป็นคนที่ชำนาญเส้นทางของพื้นที่บนเทือกเขาบรรทัดที่หาตัวจับได้ยาก
...

ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดเสือดำ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุงกว่า 30 นาย สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกชุดที่อยู่บนเทือกเขาบรรทัด บริเวณเชิงเขาแถวน้ำตกลานช้าง หลังได้รับรายงานจากชุดไล่ล่าบนเทือกเขาว่า พบรอยเท้าคาดว่าอาจจะเป็นของ แป้ง นาโหนด ทางทิศใต้ของจุดปะทะ เหนืออ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง ซึ่งจุดที่พบเป็นทางที่สามารถเชื่อมต่อลงมายังเชิงเขา แถวน้ำตกท่าช้าง

...
โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเดินเท้า เรียงหน้ากระดาน และโอบล้อมพื้นที่โดยรอบ เพื่อตรวจสอบ แต่ล่าสุดยังไม่เจอสิ่งผิดปกติ