คลี่ปม ด.ญ.วัย 14 ปี คิดสั้นกระโดดสะพานกรุงเทพ เครียดถูกตาเขยล่วงละเมิดตั้งแต่ 6 ขวบ ถูกใช้ทำงานอย่างหนักขณะอยู่กับครอบครัวฝ่ายแม่ที่ชุมพร ส่วนผู้ต้องหาได้ประกันตัวหลังฝากขัง คดีอยู่ระหว่างสรุปสำนวนส่งอัยการ ด้านพ่อเข้ารับศพลูกนำไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.แพร่ เผยพลัดพรากกันตั้งแต่ 2 ขวบ ตามเจอในโซเชียล ลูกสาวถามคำถามสุดสะเทือนใจ "หนูถูกข่มขืน พ่อจะรับได้ไหม"


จากเหตุสลด ด.ญ.วัย 14 ปี นักเรียนโรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ คิดสั้นกระโดดสะพานกรุงเทพเสียชีวิต เขตพื้นที่ สน.บางคอแหลม กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น. วันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา


จากการสอบสวนพบปมเหตุเด็กมีปัญหาเครียดหลายเรื่องที่เกิดจากปัญหาความแตกแยกในครอบครัว ผู้เป็นพ่อ และแม่เลิกรากัน ด.ญ.ได้อาศัยอยู่กับแม่ที่ จ.ชุมพร ส่วนพ่อได้ไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีภรรยาใหม่ และได้ถูกตายเขย (สามีของพี่สาวตา) ล่วงละเมิดมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จนถึงอายุ 14 ปี และยังใช้แรงงานให้ทำสวนทำไร่อย่างหนัก ข้าวปลาอาหารต้องหากินเอง ขนาดแม่แท้ๆ ยังไม่สนใจ ได้แต่ดื่มแต่สุราอย่างหนัก ปล่อยปะละเลยให้ลูกสาวถูกกระทำ จนผู้เป็นพ่อที่เลิกกับผู้เป็นแม่ แล้วรู้ข่าวจึงพาลูกสาวไปแจ้งความที่ สภ.เมืองชุมพร และรับไปอยู่ด้วย ขณะที่ตาเขยผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัว

ในส่วนของคดีที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชุมพร วันที่ 7 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าของคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.จ.ชุมพร ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามที่ปรากฏตามข่าวทางสื่อมวลชน ด.ญ.อายุ 14 ปี กระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่าก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกันยายน 66 ผู้เสียชีวิตพร้อมบิดาได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองชุมพร ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอายุ 73 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาเขยของผู้เสียชีวิต ทางด้านพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ก็ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ ซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

...


จากการสอบสวนเด็กหญิงวัย 14 ปี ผู้เสียหายได้ให้การยืนยันว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศมานาน โดยมีการสอบสวนร่วมกับนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา สหวิชาชีพ และได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหา หลังจากนั้นได้นำตัวฝากขังศาลจังหวัดชุมพร และผู้ต้องหายื่นคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว และศาลกรุณาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว


ในระหว่างดำเนินคดีดังกล่าว บิดาผู้เสียหายได้ยื่นคำร้องขอคัดค้านประกันตัวชั่วคราว โดยนำหลักฐานคลิปเสียงในขณะเจรจาระหว่างผู้ต้องหากับบิดา แต่เมื่อศาลได้พิจารณาแล้วปรากฏว่ายังไม่เป็นเหตุให้ถอนประกัน แต่ได้เพิ่มหลักทรัพย์ซึ่งคดีมีการสอบสวนมีความคืบหน้ามาโดยตลอด และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางพนักงานสอบสวนได้ติดต่อรับผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จาก รพ.มอ. หลังจากนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ก็จะสรุปสำนวนการสอบสวนส่งเสนอความเห็นไปยังพนักงานอัยการ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ในสำนวนทั้งหมดแล้ว

เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่อาคารภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช นายสุทัศน์ อายุ 40 ปี และ น.ส.นวลพรรณ อายุ 49 ปี พ่อและแม่เลี้ยงของเด็กหญิงวัย 14 ปี ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านน้ำพุสูง ต.ห้อยโรง อ.ล้อมกวาง จ.แพร่ ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวฝั่งพ่อ และจะสวดอภิธรรม 2 คืน ฌาปนกิจศพในวันที่ 9 พ.ย.นี้ โดยจะมีพิธีสวดอภิธรรมศพวันนี้เป็นคืนแรก


น.ส.นวลพรรณ เปิดเผยว่า น้องอยู่กับตนได้ประมาณ 3 เดือน ลูกสาวไม่เคยเล่าเรื่องที่ทุกข์ใจให้ฟัง เป็นเด็กสดใส ร่าเริง ใช้ชีวิตตามประสาเด็กตามปกติ ซึ่งช่วงที่อยู่กับตนก็พยายามเยียวยาจิตใจ ไม่พูดถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น จึงไม่มีลางบอกเหตุ และไม่คาดคิดว่าน้องจะตัดสินใจทำแบบนี้ แต่ก็เชื่อว่าสาเหตุเป็นเพราะเรื่องนี้ที่น้องเก็บสะสมมานานหลายปี เพราะน้องไม่มีเรื่องเครียดเรื่องอื่น มาอยู่กับตนก็สุขสบายดี ซึ่งขอให้ลูกสาวไปเกิดในภพภูมิที่ดี มีแต่คนรัก เจอคนดีๆ


ด้านนายสุทัศน์ กล่าวว่า ตนเองขาดการติดต่อกับลูกสาวไปตั้งแต่ลูกสาวอายุ 2 ขวบ ที่ผ่านมาได้พยายามตามหาตลอด โดยโพสต์รูปลูกสาวทางโซเชียล เพราะเชื่อว่าต้องมีคนเห็น จนเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมาลูกสาวก็เจอกับตนในเฟซบุ๊ก และพูดคุยกัน พอรู้ชัดเจนว่าเป็นพ่อลูกกัน ลูกสาวก็เล่าให้ฟังว่าถูกข่มขืนมานาน พ่อจะรับได้ไหม และขอความช่วยเหลือ ตนกับภรรยาจึงประสานมูลนิธิปวีณารวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี และช่วยพาลูกสาวออกมา 


โดยตอนนี้เรื่องคดีความ ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวในชั้นตำรวจ ซึ่งตนมองว่าคดีแบบนี้ไม่สมควรได้รับการประกันตัว และผู้ก่อเหตุยังเคยโทรมาเจรจาขอไม่ให้ดำเนินคดี แต่ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุดและให้ไปคุยกันที่ชั้นศาลเท่านั้น เพราะตนตามหาลูกสาวมานานมาก แต่สุดท้ายได้อยู่ด้วยกันแค่ไม่นาน ทั้งนี้อยากบอกลูกว่าพ่อรักลูก และขอให้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี.