"ราชทัณฑ์" เตรียมเรียกสอบ 2 ผู้คุมผลัดเช้า แจงเหตุเปลี่ยนโซ่ตรวนข้อเท้า "เสี่ยแป้ง" ก่อนหลบหนีจาก รพ. อ้างโซ่ไม่แน่น ขณะที่ "น.ส.ไหม" คนเฝ้าไข้ ยันโซ่ที่ถูกเปลี่ยนไม่ได้กระชับแน่นหนาขึ้น ขณะที่ผู้คุมผลัดบ่าย บอกปกติดี ด้าน "โฆษกราชทัณฑ์" เผยคำให้การทั้งหมดล้วนขัดแย้งกัน ส่วนเรื่องตรวจสอบเส้นทางการเงิน ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจจัดการ

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีศาลอนุมัติหมายจับ 2 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ว่า สำหรับประเด็นที่ 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ในผลัดเช้า ซึ่งเป็นคนละเวรกับ 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ผลัดบ่ายที่ถูกออกหมายจับ ได้ดำเนินการเปลี่ยนโซ่ตรวนข้อเท้าให้ นายเชาวลิต หรือแป้ง นาโหนด นั้นเบื้องต้นมีการชี้แจงกับคณะกรรมการฯ ว่า ได้ตรวจสอบโซ่ตรวนที่ข้อเท้าของ นายเชาวลิต แล้วพบว่าไม่กระชับและไม่แน่นหนา จึงไปเปลี่ยนตรวนข้อเท้าให้กระชับมั่นคงขึ้น ซึ่งระหว่างคำให้การของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ผลัดเช้า และคำให้การของ น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม คนเฝ้าไข้ นายเชาวลิต ยังคงให้การไม่สอดคล้องกัน เพราะ น.ส.วิลาวัลย์ ให้การว่าโซ่ตรวนข้อเท้าของ นายเชาวลิต เมื่อได้รับการเปลี่ยนโดยผู้คุมในผลัดเช้าแล้วยังคงหลวม ไม่ได้กระชับแน่นหนามั่นคงตามที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์กล่าวอ้าง 

และเมื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่อยู่ในผลัดบ่ายมาตรวจโซ่ตรวนข้อเท้าของ นายเชาวลิต เพราะเข้ารับเวรต่อ ก็พบว่าแน่นกระชับปกติดี จึงพบว่าคำให้การของบุคคลทั้งหมดล้วนขัดแย้งกัน ทำให้หลังจากนี้คณะกรรมการฯ ต้องไปดูคำให้การในสำนวนของตำรวจมาประกอบร่วมด้วย 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ผู้คุมราชทัณฑ์ 2 รายในผลัดเช้า ยังคงปฏิบัติราชการอยู่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังไม่ได้ถูกสั่งพักราชการไว้ก่อน เนื่องมาจากคณะกรรมการฯ ต้องเน้นตรวจสอบไปที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 รายในผลัดบ่ายที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุหลบหนีก่อน แต่หากมองในเรื่องของความบกพร่องก็ต้องมองเหมารวมทั้งชุดเวร ทั้งผลัดเช้าและผลัดบ่ายของวันเกิดเหตุ อย่างไรคณะกรรมการฯ จะต้องเรียกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 รายที่อยู่ในผลัดเช้ามาสอบถามถึงสาเหตุการเปลี่ยนโซ่ตรวนข้อเท้าให้ผู้ต้องขังในช่วงเช้า เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างครอบคลุมที่สุด และคณะกรรมการฯ ต้องรอดูผลการสอบปากคำของตำรวจ สำหรับในส่วนของคำให้การของ 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ที่ถูกออกหมายจับ ขั้นตอนถัดไป เมื่อคณะกรรมการฯ ประสานขอรายละเอียดคำให้การของ 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ที่เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าที่ตำรวจแล้วนั้น ในส่วนของพยานหลักฐานอื่นๆ อาทิ ภาพจากกล้องวงจรปิดของ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราก็จะประสานขอมาเช่นกันเพื่อประกอบการพิจารณา 

...

ส่วนเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีผู้คุมรายใดในผลัดเวรวันเกิดเหตุ มีการรับผลประโยชน์จากการหลบหนีของนายเชาวลิตหรือไม่นั้น จะเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบ ราชทัณฑ์ไม่มีอำนาจในส่วนนี้แต่อย่างใด  

สำหรับประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่า นายเชาวลิต เคยมีพฤติการณ์วางแผนหลบหนี หรือแหกคุก ตั้งแต่สมัยถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางพัทลุงหรือไม่นั้น ในส่วนนี้คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้มีการตรวจสอบรายละเอียดเชิงลึก แต่ได้รับรายงานว่า นายเชาวลิต ไม่เคยมีพฤติการณ์ก่อเหตุหลบหนี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก อีกทั้งที่ผ่านมาก่อนมีการโอนย้าย นายเชาวลิต มาคุมขังไว้ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชแทนเรือนจำกลางพัทลุง ทราบว่าผู้บัญชาการเรือนจำกลางพัทลุงเคยรายงานข้อมูลว่า นายเชาวลิต เป็นผู้ต้องขังในคดีร้ายแรงหลายคดี และล้วนเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง จึงต้องมีการโอนย้ายผู้ต้องขังมาที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชแทน เพราะเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง.