ชายเร่ร่อนควงเหล็กขูดชาฟท์เป็นอาวุธ ชิงแหวนทอง 1 สลึง จากร้านทองย่านบางโพงพาง หลังนำทองปลอมมาขาย และขอเงิน 20 บาท จากเจ้าของร้านทองไม่ได้ ทุบกระจกประตูอัตโนมัติวิ่งหนี ถูกเจ้าของร้านกับพลเมืองดีไล่จับตัวไว้ได้ แต่แหวนที่ชิงไปไม่อยู่แล้ว 


เวลา 12.40 น.วันที่ 3 พ.ย. ขณะที่ พ.ต.ต.วิชัย ขอพึ่งกลาง สวป.สน.บางโพงพาง และ ร.ต.ท.มานิตย์ ตรุษดี รอง สวป.สน.บางโพงพาง กำลังปฏิบัติหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายพยายามชิงทรัพย์ร้านทอง ปากซอยสาธุประดิษฐ์ 58 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ประกอบกิจการห้างทองทองมงคล เลขที่ 622/3 พบประตูกระจกหน้าร้านแตกเสียหาย ภายในร้านพบกระจกที่ตู้โชว์แตก ตรวจสอบพบว่าคนร้ายเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมานายสมบัติ อายุ 33 ปี ถืออาวุธเหล็กขูดชาฟท์ สวมเสื้อยืดคอกลมสีเหลือง กางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกแก๊ป สะพายกระเป๋า ทุบกระจกพร้อมชิงแหวนทอง 1 สลึง หลังก่อเหตุวิ่งหลบหนีไปทางถนนพระรามสาม แต่ชาวบ้านและเจ้าของร้านช่วยกันล้อมจับคนร้ายไว้ได้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

...


นายวัชรพล นาควัชระ หลานเจ้าของร้านทอง เปิดเผยว่า เห็นคนร้ายเดินไปมาอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามร้านลักษณะคล้ายคนเร่ร่อน จากนั้นได้ไปนั่งอยู่ที่วินรถจักรยานยนต์ แต่ทางคนขี่รถ จยย. เห็นท่าทางมีพิรุธ จึงได้ไล่ให้ออกไปจากวิน แต่คนร้ายชักอาวุธเหล็กขูดชาฟท์ขึ้นมาขู่ จากนั้นก็ข้ามถนนมาที่ร้านตน ทำทีนำทองมาขาย แต่ทางร้านรู้ว่าทองที่คนร้ายนำมาเป็นของปลอม จึงปฏิเสธไป จึงได้ขอให้คนร้ายออกจากร้าน เนื่องจากขณะนั้นสุนัขที่เลี้ยงไว้เริ่มเห่าเสียงดัง แต่คนร้ายยืนยันว่าจะไม่ออก พร้อมขอเงิน 20 บาท แต่ตนไม่สะดวกที่จะให้ คนร้ายจึงโมโหหยิบอาวุธเหล็กขูดชาฟท์ ยาวประมาณ 1 ฟุต ออกมา จากนั้นก็ใช้ด้ามกระแทกที่ตู้กระจกโชว์สินค้า และหยิบแหวนทอง 1 สลึงไป 1 วง แล้วพยายามจะหลบหนี แต่ประตูกระจกเป็นประตูไฟฟ้า มีการปิดล็อกอัตโนมัติ คนร้ายจึงใช้เหล็กกระแทกประตูกระจกจนแตก จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไปทางถนนพระรามสาม ตนและชาวบ้านจึงได้วิ่งตาม ไปกว่า 1 กิโลเมตร ไปล้อมจับไว้ได้ที่บริเวณหน้าวัดดอกไม้ จากการตรวจสอบไม่พบแหวนวงที่ชิงไปแล้ว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คุมตัวคนร้ายมาสอบปากคำที่ สน.บางโพงพาง แต่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เพราะพูดจาวกวน ให้การไม่รู้เรื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้เพื่อตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป