ฝากขัง "หนอน" สมุนมือขวาช่วย "เสี่ยแป้ง" หนี หลังเปิดปากสารภาพหมดเปลือก กรมราชทัณฑ์ประสานงานเตรียมส่ง 2 ผู้คุมถูกหมายจับให้พนักงานสอบสวน เพื่อนผู้คุม "งงหมายจับ" ยังไม่แตะคนเปลี่ยนโซ่เสี่ยแป้ง พิรุธถูกวางเกมโยนบาป ปัดความรับผิดชอบ ฆ่าชั้นผู้น้อย แฉมีไอ้โม่งคอยบงการ อยู่เบื้องหลัง

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่จังหวัดนครศรีธรรมราช การติดตามคลี่คลายคดีขบวนการให้ความช่วยเหลือ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษคดีอุกฉกรรจ์หลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ในระหว่างถูกรักษาตัว ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง วานนี้ความคืบหน้าล่าสุดของคดี มีความชัดเจนในการแบ่งหน้าที่กันทำในการช่วยเหลือนายเชาวลิต มีความชัดเจนมากขึ้นจากการให้การและนำชี้ที่เกิดเหตุของนายสุทิวัส หรือหนอน อย่างละเอียด พร้อมทั้งการให้การเชื่อมโยงไปยังนายจีรวุฒิ หรือปอย หรือลูกวัว และนายจักรี หรือบิ๊ก ผู้เป็นกลไกสำคัญ แต่ทั้งคู่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มากนัก รวมทั้งยังปกปิดข้อมูลบางอย่างแต่นายสุทิวัส หรือหนอน ได้ให้การอย่างละเอียด โดยเที่ยงวันนี้นายสุทิวัส หรือหนอน จะถูกพนักงานสอบสวนคุมตัวไปขออำนาจศาลนครศรีธรรมราช ผัดฟ้องฝากขังเป็นผัดแรก

...

ขณะเดียวกันการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จำนวน 2 นาย คือ นายวรินทร ทองประจง และนายเอกลักษณ์ ไชยกาญจน์ สองเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระหว่างช่วงเวลาที่นายเชาวลิตหลบหนี โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ได้ออกหมายจับในช่วงค่ำของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ในฐานความผิด ตามมาตรา 157 และเป็นเจ้าพนักงานผู้มีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังตามอำนาจศาลตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป กระทำการใดๆ ให้ผู้อยู่ระหว่างการควบคุมหลุดพ้นจากการคุมขังไป 

โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทั้ง 2 ราย ขณะนี้ต้องคำสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในกรมราชทัณฑ์ ได้ทราบความตามหมายจับแล้วและอยู่ระหว่างที่ผู้บังคับบัญชาประสานกับ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เพื่อประสานขั้นตอน นำทั้งสองคนมามอบตัวใน 1-2 วัน 

ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานและเปิดเผยข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายหนึ่ง ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยตัวเองและให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ ระบุว่า การออกหมายจับทั้งสองรายเสมือนแพะรับบาป จริงๆ แล้วไอ้โม่งตัวใหญ่อยู่เบื้องหลังและจัดวางให้ทั้งคู่จะต้องรับผิดชอบเหตุการณ์โดยหลีกเลี่ยงไปไหนไม่ได้ หรือเท่ากับฆ่าทั้งสองคนจากหน้าที่ราชการ 

ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ทุกฝ่ายทราบดีมาตั้งแต่แต่ต้น ตั้งแต่คำให้การของประจักษ์พยานและเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้รายแรก คือ นางสาววิลาวัลย์ หรือไหม มีการเปลี่ยนเครื่องพันธนาการแบบหละหลวมให้กับนายเชาวลิต มาตั้งแต่ตอนกลางวัน ก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะมารับช่วงต่อ 

"แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่าคนที่เปลี่ยนเครื่องพันธนาการยังไม่ได้มีผลกระทบใดๆ เช่นเดียวกับคนที่สั่งการให้ทั้งคู่มารับหน้าที่เฉพาะกลางคืนไม่ได้มีผลใดๆ เช่นกัน ต้องถามต่อว่า วานนี้เหตุใดเพิ่งส่งของกลางเป็นเครื่องพันธนาการที่เกิดเหตุ แม้แต่คนในเรือนจำหลายคน ยังไม่เชื่อว่าเครื่องพันธนาการเช่นนั้น เป็นชุดเดียวกันกับชุดที่เกิดเหตุเปลี่ยนช่วงแรก ต้องถามกันตรงๆ ว่าคนที่เปลี่ยนโซ่วันนั้นถูกเรียกสอบหรือยัง วงจรปิดในหอผู้ป่วยยิ่งชัด นั่นคือคำตอบในตัวเอง ผู้ที่เกี่ยวข้องหลักเรื่องนี้กำลังฆ่าเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย เพื่อปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัวใช่หรือไม่ 

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเบาใจ เนื่องจากผู้บังคับบัญชาระดับกรมฯ ทราบดีว่าทั้งคู่ที่ถูกหมายจับมีพฤติกรรมอย่างไร ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นบ้าง และรู้ดีว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้" แหล่งข้อมูลรายนี้เปิดเผย.