รอง ผกก.สส.สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง แจงดราม่าคลิป สารวัตร สั่งลูกน้องหัวปักพื้น ยันไม่ได้เป็นคนสั่งการและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเรื่องจริงจังถึงขั้นลงโทษ แค่เล่นกันในลักษณะเชิงฝึก ยอมรับแค่บ่นระบายพูดคุยหยอกล้อ หลังได้รับบาดเจ็บในสนามฟุตบอล ไม่ใช่เป็นการชิงแชมป์ หรือเอาถ้วยรางวัล ถึงขั้นต้องเล่นแบบจริงจัง หรือเอาเป็นเอาตาย 

สืบเนื่องจากกรณีที่ทางเพจ "พระจันทร์ ลายกระต่าย V2" ได้โพสต์คลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกลงโทษในสนามฟุตบอล พร้อมเขียนข้อความ ระบุว่า เตะฟุตบอลด้วยกันไม่พอใจสั่งให้หัวปัก ในสนามฟุตบอลมันมีแต่นักกีฬา ไม่มีคำว่าผู้บังคับบัญชาไม่มีคำว่าลูกน้อง น้ำใจนักกีฬายังไม่มี ถ้ายศและตำแหน่งสูงกว่านี้ต่อไปในภายหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาลำบาก แน่ๆ สนามฟุตบอลไม่ใช่ศูนย์ฝึกนะครับสารวัตร แถมยังใช้วาจาพาดพิงไปถึงหน่วยอื่น #เป็นหน้าห้องรองผู้บัญชาการแล้วไงครับใหญ่นักเหรอ 

ต่อมาเพจดังกล่าว โพสต์ข้อความอีกว่า ที่มาของเรื่องคือการแข่งขันกีฬาฟุตบอลกระชับมิตร เล่นกีฬาฟุตบอลมันมีปะทะกันบ้างมีเจ็บกันบ้างเป็นธรรมดา แต่น้องๆ นปพ.เดินไปขอโทษแล้ว แล้วทำไม มี รอง ผกก.รายหนึ่ง ไม่พอใจพูดออกมาว่าถ้าเป็นลูกน้องผมสั่งขัง 3 วัน (เอาอำนาจอะไรไปสั่งขังครับ) โกรธที่ทีมตัวเองแพ้และเจ็บจากการเล่นฟุตบอล

ย้ำนะครับว่าน้องๆ ได้ขอโทษแล้วก็พากันเดินกลับออกมา แล้วก็พากันมานั่ง แต่สารวัตรกลับออกฤทธิ์ออกเดช เหมือนในคลิปที่เห็น ในกลุ่มตำรวจ นปพ.ไม่มีใครรับเคสนี้ได้ แม้กระทั่งตัวผู้กำกับการ นปพ.เอง ฟุตบอลกระชับมิตรแต่ไหงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ 

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 จากกรณีดังกล่าวทางทีมข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.นิคมพัฒนา ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นในส่วนของรองผู้กำกับสืบสวน สภ.นิคมพัฒนา ที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องว่าเป็นคนสั่งการและพูดในลักษณะทำนองไม่พอใจกับทางกลุ่ม นปพ. และเป็นที่มาของการสั่งลงโทษผ่าน "สารวัตรป๊อป" สารวัตรสอบสวน สภ.จันทบุรี (ชายชุดน้ำเงินในคลิป) ให้มีการลงโทษลักษณะคล้ายฝึกวินัยหัวโหม่งพื้น   

...

ทั้งนี้ทางทีมข่าวได้มีการเดินทางไปพูดคุยกับทางผู้กำกับ สภ.นิคมพัฒนา ซึ่งในส่วนของทางผู้กำกับเอง เบื้องต้นยังไม่ทราบเรื่องและยังมีการพูดคุยถึงประเด็นและเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในคลิป ฝั่งด้านทางผู้เสียหายเองก็ยังไม่ได้มีใครเข้ามาร้องเรียนตามหลักการและขั้นตอนของกฎหมาย 

อีกทั้ง ส่วนตัวยังได้รับการแจ้งรายงานมาจากผู้บังคับบัญชาของทางฝั่งเจ้าหน้าที่ นปพ. ที่ปรากฏในคลิป ทางนี้ในส่วนของข้อมูลเบื้องต้น หลังจากที่ตนได้รับทราบข้อมูลก็จะต้องมีการตรวจสอบ หรือเรียกในส่วนของผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีการกล่าวถึงในข้อความมาสอบถามถึงเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามจากที่ทีมข่าวได้ดูในส่วนของคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าบุคคลที่ปรากฏในคลิปไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.นิคมพัฒนา แต่ในส่วนของรายละเอียดตนไม่ทราบว่าในส่วนของรองผู้กำกับสืบสวน สภ.นิคมพัฒนา จะไปเป็นการส่วนตัวหรือไม่  อีกทั้งในส่วนของสนามฟุตบอลที่มีการเตะนั้น คาดว่าเป็นการเตะกันนอกรอบที่บริเวณพื้นที่อื่นไม่ใช่ในส่วนของนิคมพัฒนา 

ขณะที่ต่อมาทางทีมข่าวได้เดินทางไปยังห้องสืบสวน เพื่อพูดคุยกับทางรองผู้กำกับสืบสวน สภ.นิคมพัฒนา ซึ่งในส่วนของทางเจ้าตัวเองยังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ เนื่องจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีบางส่วนยังมีข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นไปตามเหตุการณ์ที่มีการโพสต์ลงไปในโซเชียล แต่สามารถเล่าให้เป็นข้อมูลประกอบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น 

โดยยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุการณ์เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาของคืนวันที่ 16 ต.ค. ซึ่งในคลิปดังกล่าวไม่ได้ปรากฏตนอยู่ในคลิป แต่ตนเองได้เดินทางไปเตะฟุตบอลกับทางสารวัตรป๊อบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏคลิปลักษณะคล้ายว่าโดนทำโทษนั้น ก็เป็นในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.สังกัดภาค 2  

ยืนยันว่าเรื่องราวดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการลงโทษ อีกทั้งตนเองไม่ได้เป็นคนสั่งการ เพียงแค่ว่าก่อนหน้านี้ตนเองได้เดินทางไปเล่นฟุตบอลร่วมกับกลุ่มรุ่นน้องนายตำรวจดังกล่าว ซึ่งระหว่างเล่นนั้น ปรากฏว่าตนเองได้รับบาดเจ็บจนทำให้ขาฟกช้ำและบวม ซึ่งหลังจากที่มีการเล่นฟุตบอลเสร็จ ตนก็ได้ไปพูดกับทางกลุ่มตำรวจดังกล่าวที่เป็นรุ่นน้อง รวมไปถึงสารวัตรป๊อบ ซึ่งเป็นคนรู้จักของตน เนื่องจากเคยทำงานร่วมกันตอนที่อยู่สังกัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองชลบุรี ซึ่งเป็นการพูดคุยลักษณะหยอกล้อ และแนะนำว่า การเล่นฟุตบอลที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการชิงแชมป์ หรือเอาถ้วยรางวัล ถึงขั้นต้องเล่นแบบจริงจัง หรือเอาเป็นเอาตาย เพราะบางครั้งหากได้รับบาดเจ็บ ต่อให้ไม่ใช่ตน หรือเป็นคนอื่นมันก็ไม่คุ้ม อยากให้เล่นแบบนักกีฬาที่มีน้ำใจ ไม่ใช่เล่นแบบนักกีฬาที่เดินสาย เพื่อเอารางวัล 

ซึ่งหลังจากที่ตนพูดดังกล่าวไป ปรากฏว่าในส่วนของสารวัตรป๊อบที่เป็นคนรู้จักและเป็นรุ่นน้องของตน อาจจะไม่พอใจและคิดว่าตนรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้น เลยมีการสั่งการในลักษณะดังกล่าว แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเรื่องราวจริงจังถึงขั้นลงโทษ แต่เป็นการเล่นกันในลักษณะเชิงฝึก เพราะว่าในเหตุการณ์ก็จะเห็นว่ามีในส่วนของกลุ่มเพื่อนหรือคนรู้จักของฝั่งตำรวจ นปพ. ยังมีการขำและสนุกสนานกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

ตนเองอยากให้โซเชียลเข้าใจในบริบทที่เกิดขึ้น แต่อีกมุมนึงก็อยากให้เขาเข้าใจในส่วนของตำรวจบางรายที่อาจจะไม่เข้าใจเจตนาที่เกิดขึ้น จนทำให้เรื่องราวดังกล่าวมีการสื่อสารออกไปภายนอกที่มีทั้งจริงและไม่จริง ทั้งนี้ที่มีการกล่าวหาว่าตนเองได้มีการพูดลักษณะว่า "ถ้าเป็นลูกน้องตนจะสั่งขัง" ตนอยากจะจะย้อนถามว่า ถ้ามีการสั่งขังจริง ตนจะมีอำนาจอะไร เพราะการสั่งขังลงโทษก็ต้องมีหลักเกณฑ์และการชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับบทลงโทษ  

...

"จะไปทำแบบพละการคงไม่ได้ และเรื่องแค่นี้ตนเองคงไม่ทำ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการด่าทอ เป็นการแค่บ่นระบายในฐานะพี่สอนน้อง"

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนเองในฐานะผู้ถูกพาดพิง ก็อยากจะออกมาชี้แจง แต่โดยต้องรอสถานการณ์ในส่วนของผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วเสร็จก่อนถึงจะมีการออกมาชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นได้