แม่ร้องสื่อขอความเป็นธรรม ลูกชายสอบติด "นักเรียนนายสิบตำรวจ" หน่วย ตชด.ไปฝึกที่ "ค่ายท่านมุก" จ.สงขลา โดนครูฝึกจบใหม่ สั่งวิ่ง 10 กม. แต่เป็นลมหมดสติ หลังวิ่งได้ 6 กม. ครูฝึกสั่งให้เพื่อนหิ้วปีกวิ่งต่อให้ครบ สุดท้ายเสียชีวิต ไร้การเหลียวแล
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นางสาวณัฐริกา ณ สังข์ หรือ พลอย อายุ 26 ปี ว่า แฟนของตนเองชื่อนายปกรณ์ เนียมรัตน์ หรือ ไบท์ อายุ 26 ปี สามารถสอบติด นักเรียนนายสิบตำรวจ หน่วยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (นสต.ตชด.) ได้และเข้ารับการฝึกที่ค่ายท่านมุก หรือ กองกำกับการ 9 กองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายท่านมุก ตำบลเขามีเกียรติ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา (กก.9 บก.กฝ.บช.ตชด.) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ก่อนจะเสียชีวิตในเช้าวันที่ 10 ตุลาคม 2566 สาเหตุมาจากเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ครูฝึกได้มีการสั่งให้กลุ่ม นสต.ตชด. วิ่ง 10 กิโลเมตร โดยมี นายปกรณ์ เนียมรัตน์ หรือ ไบท์ เป็น นสต.ตชด. อยู่ด้วย ระหว่างที่นายปกรณ์วิ่งไปได้ 6 กิโลเมตร ก็ได้เป็นลมหมดสติไป จากนั้นครูฝึกก็ได้สั่งให้เพื่อนหิ้วปีกขึ้นมาทั้ง 2 ข้าง แล้ววิ่งลากขาไปให้ครบ 10 กิโลเมตร ก่อนที่นายปกรณ์จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังทราบข่าวทางญาติได้นำศพนายปกรณ์มาบำเพ็ญกุศลศพที่วัดสระเกษ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ล่าสุดยังไม่มีผู้บังคับบัญชาท่านใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ จึงได้ร้องทุกข์สื่อเข้ามา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ศาลา 3 วัดสระเกษ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ได้พบกับ นางเสาวนีย์ เนียมรัตน์ อายุ 56 ปี (แม่ผู้เสียชีวิต) บ้านเลขที่ 466 หมู่ 2 ตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นางสาวปวิตรา เนียมรัตน์ หรือ ปุย อายุ 32 ปี (พี่สาวผู้เสียชีวิต) และนางสาวณัฐริกา ณ สังข์ หรือ พลอย อายุ 26 ปี (แฟนของผู้เสียชีวิต) ซึ่งกำลังเตรียมงานจัดงานศพให้นายปกรณ์ ก่อนมอบหลักฐานต่างๆ ให้กับผู้สื่อข่าว อาทิ เอกสารการรักษาตัวของ นายปกรณ์ เนียมรัตน์ หรือ ไบท์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งมีโรคประจำตัวและได้รักษาโรคประจำตัวจนหายขาดแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน พร้อมคลิปนายปกรณ์ เนียมรัตน์ หรือ ไบท์ ที่ได้ไลฟ์สดขายของก่อนจะสอบติด นสต.ตชด. และคลิปครูฝึก นสต.ตชด. ซึ่งได้มีการโพสต์คลิปกำลังฝึก นสต.ตชด. ลงใน TikTok ก่อนจะมีการลบคลิปต่างๆ ใน TikTok หลังทราบข่าวว่า นายปกรณ์ เนียมรัตน์ หรือ ไบท์ เสียชีวิต
...
เบื้องต้นทราบชื่อ คือ ส.ต.ท.ปัญญาวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) ครูฝึกนักเรียน ตชด. ค่ายท่านมุก เพิ่งจบหลักสูตรครูฝึกมาใหม่ และเป็นครูฝึกที่สั่งการให้กลุ่ม นสต.ตชด. วิ่ง 10 กิโลเมตร แต่ทางญาติสามารถโหลดคลิปเก็บไว้ได้ทัน จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถาม นางสาวปวิตรา เนียมรัตน์ อายุ 32 ปี หรือ ปุย (พี่สาวผู้เสียชีวิต) ได้เล่าว่า ตนได้ไปส่งน้องเข้าค่ายวันที่ 1 ต.ค. 66 พอส่งเสร็จเราก็ไปทำงานต่อ พอมาเมื่อวานเห็นในไลน์กลุ่มเขาบอกว่า ขอเบอร์ผู้ปกครอง พอเราให้ไปครูฝึกก็ไม่ได้ตอบอะไรกับเรา มีโทรมาหาแม่เราจึงสื่อสารกับแม่เรื่อยๆ ว่าตกลงน้องเป็นอะไร พอรู้ว่าน้องเข้ารพ.และมารู้ทีหลังว่าครูฝึกให้วิ่ง 10 กิโลเมตร น้องตนวิ่งได้ 6 กิโลเมตร หลังจากนั้นจึงล้มลงทันที แล้วให้เพื่อน 2 คนแบกแขนหิ้วปีกลากขาไปให้ครบถึง 10 กิโลเมตร
เราสงสัยว่าทำไมเขาไม่คิดสงสัย หรือตรวจเช็กร่างกายน้องเราหรือเปล่า ว่าหายใจปกติไหม เขามีความรู้มากแค่ไหน ว่าออกกำลังกายหนักมันจะทำให้กล้ามเนื้อสลาย เป็นภาวะไตวาย ในเมื่อเป็นครูฝึก แต่ทำไมไม่มีความรู้เรื่องนี้ แล้วที่สำคัญค่ายที่หนูไปเจอมา ไม่เห็นว่าจะเตรียมความพร้อม จะรับมือยังไง หากเด็กเป็นลมหมดสติ แล้วก็เมื่อเขาฝึกมาทุกปีแล้วในเมื่อเด็กอาการหนักขนาดนั้น ทำไมถึงไปผูกกับ รพ.สะเดา ทั้งๆ ที่ รพ.มอ.อยู่ใกล้นิดเดียว
ที่สำคัญไม่ใช่ส่งตัวกับรถ Ambulance แต่ส่งกับรถตำรวจ ก่อนจะไปส่งที่ค่าย เราอยู่บ้านหลังคาเดียวกัน น้องนั่งสอบนั่งติวจนดึก เราก็อยู่กับน้องตลอด 24 ชม. ก่อนเสียชีวิตเรามีการสัญญาในเรื่องการทำคอนเทนต์ เพราะน้องไลฟ์สดขายขนมในติ๊กต่อกคนดูเยอะมาก ต้องมาหยุดไลฟ์เพราะว่าตั้งใจอ่านหนังสือสอบจะไปเป็น ตชด.
เอาจริงๆ จากใจหนู หนูไม่ได้อยากให้น้องไปเป็น ตชด. เพราะเห็นว่าน้องทำตรงนี้ก็ดีอยู่แล้ว แต่ด้วยเขารัก เขาชอบ เราก็ไม่ได้ห้าม ส่งเสริมแต่สิ่งที่เขาชอบ สุดท้ายอยากให้ทางหน่วยฝึกออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่มาโยนความผิดให้คนตาย
จากการสอบถาม นางสาวณัฐริกา ณ สังข์ หรือ พลอย อายุ 26 ปี (แฟนผู้เสียชีวิต) ได้เล่าว่า ตนได้ฟังเพื่อนไบท์บอกว่า แรกเริ่มไบท์มีไข้ประมาณ 3 วัน มีการกินยาพาราเพื่อบรรเทาอาการ แต่ทางครูฝึกก็ไม่ได้พาไป รพ. ส่วนในช่วง 6 โมงเช้า-7 โมงเช้า มีการวิ่ง 6-10 กิโลเมตร ไบท์ได้ล้มลง มีเพื่อนๆ ช่วยหิ้วปีกและลากพากันวิ่งให้ถึงจุดหมาย
ช่วง 8 โมงครึ่ง ก็มีครูฝึกทักมาในไลน์ ขอเบอร์ผู้ปกครองเราจึงให้ไป
ตอนนั้นมีเบอร์ นสต.เพื่อนของแฟนหนูโทรมาในเฟซบุ๊ก แต่คนพูดสายไม่ใช่ นสต. แต่คนที่โทรมาเป็นครูฝึก ถามเราว่าเป็นอะไรกับผู้ป่วยครับ หนูเลยตอบไปว่าเป็นแฟนค่ะ จากนั้นเขาหัวเราะ และพูดว่า ไม่เป็นไรกำลังใจดีอยู่แบบนี้ หนูจึงรีบมา รพ. จึงไปจับเท้าแฟนดู พบว่าแข็งไปหมดแล้ว คาดว่าแฟนน่าจะเสียชีวิตมาตั้งแต่บนรถ ก่อนนำส่ง รพ.แล้ว แค่ยังมีชีพจร แต่ก้านสมองอาจจะตายไปแล้ว ซึ่งตรงนี้เราฟังมาจากหมอพูดนะคะ
หนูอยากให้ออกมาชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างขณะนั้น มีการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นไหม และนำตัวไปส่ง รพ.สะเดากี่โมง บนรถมีใครไปเป็นเพื่อนบ้าง ทั้งนี้อยากให้ออกมารับผิดชอบให้เต็มที่ อุปกรณ์ต่างๆ ในการฝึกก็ควรมีความพร้อมเช่น ออกซิเจนไว้ตรงจุดเกิดเหตุ
จากการสอบถาม นางเสาวนีย์ เนียมรัตน์ อายุ 56 ปี (แม่ของผู้เสียชีวิต) ได้เล่าว่า เมื่อวานตื่นมา 9 โมง นั่งคิดไปเรื่อยๆ ว่าน้องไปฝึกงานได้หลายวันแล้ว แป๊บนึงก็มีโทรศัพท์เข้ามาว่า แม่น้องไม่สบายอยู่สะเดา เดี๋ยวเจอกันที่ควนลัง แต่พอเราแต่งตัวเสร็จเขาบอกว่าไม่ต้องไปแล้วควนลัง มาหาดใหญ่เลย เจอน้องล่าสุดประมาณตอน 12.00 น. ไปจับเท้าเขาก็แข็ง ตาพลิก เขากำลังปั๊มหัวใจอยู่ เราก็ภาวนาให้น้องฟื้นขึ้นมา คนที่มาด้วยเขาบอกว่า น้องเป็นลม วันนั้นคนที่มาด้วยบอกว่าน้องเป็นลม เราเลยถามว่าเป็นยังไง เขาบอกก็เป็นลมไปเลย โดยหลังหมดสติก็มีการตรวจวัด และพามา รพ.สะเดา แต่ก่อนจะถึงแยกไฟแดง น้องมีอาการมือเกร็ง จิกตาเหลือก หลังจากที่ไป รพ.สะเดา ภาพแรกที่เราเห็น น้องนอนตาปลิ้นเท้าแข็ง เขาก็บอกว่าน้องขาดน้ำอย่างรุนแรง เลือดแห้งไปเลี้ยงสมองไม่พอ และมีอาการกล้ามเนื้อสลาย รวมถึงเลือดเป็นกรด ซึ่งหลายอย่างมาก แม่ออกมาจากห้องใน รพ. ออกมาถึงกับเป็นลม
...
ตอนนี้ยังไม่ได้ร้องไปยังหน่วยฝึก เขาให้คำตอบเรามาว่า เดี๋ยวโทรกลับ ทางเราก็ไม่ได้รอที่จะให้เขาโทรกลับ เพราะรอนานมาก ขนาดเอาศพลูกชายมาตั้งที่วัดแล้ว ก็ไม่มีการโทรมาหาเรา มีเจ้าหน้าที่บางรายเดินทางมาบ้าง แต่คนที่บอกจะโทรกลับ ไม่ได้เดินทางมา
อย่างแรกเลยนะ ตอนที่ไปโรงพยาบาล เขาไม่โทรกลับหาเรา เราก็ใจหายแล้ว ไม่มีถามไถ่ แม่อยากเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะเราถามคนที่มา รพ.กับน้องตอนเกิดเหตุ เขามีจัดการอะไรบ้าง เขาก็บอกว่าก็มีเพียงวัดค่าต่างๆ ของร่างกาย และนำตัวส่ง รพ. แล้วก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ เราจึงแจ้งไปว่าทำไมไม่พาน้องไป รพ.หาดใหญ่ เลย เขาก็แจ้งมาว่ามันเป็นไปตามระบบ
เหมือนเขาจากไปแบบนี้ จากที่เราจะไปเยี่ยมลูก ก็กลายเป็นรับศพแทน แม่รู้สึกช็อกไปเลย อยากให้ทางหน่วยฝึกของค่ายท่านมุก เอาใจใส่คนฝึกให้มากกว่านี้ เตรียมพร้อมที่จะรับคนฝึกแล้วที่เป็มลมอย่างท่วงที ไม่ใช่ลากปีกมาเป็นระยะทางไกล โดยที่ไม่ดูแล