จนมุมแล้ว ม้งขนยาบ้า 6 ล้านเม็ด หลังหลบหนีลงในบึงสีไฟ แช่น้ำนานกว่า 24 ชม. ชาวบ้านไปหาปลาเห็นดำน้ำว่ายและขอความช่วยเหลือ จึงแจ้งตำรวจเข้าจับกุม
จากกรณี 5 ต.ค. 2566 จนท.ป.ป.ส. พร้อมตำรวจ บช.ปส. สนธิกำลังกับ ตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร และทหาร จากกองกำลังนเรศวร ตรวจยึดยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 28 กระสอบ กระสอบละ 120 มัด จำนวน 6 ล้าน 7 แสน 2 หมื่นเม็ด โดยยาเสพติดดังกล่าวถูกซุกซ่อนมากับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ทะเบียน ฆท-9536 กรุงเทพฯ เมื่อขับมาถึงในพื้นที่ใกล้เคียงกับบึงสีไฟ จนท.ได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม แต่คนขับรถยนต์ตามแนวทางการสืบสวนคาดว่าจะเป็นชาวม้งได้ไหวตัวทันและขับรถยนต์หนี ต่อมาคนร้ายได้จอดรถยนต์คันดังกล่าวพร้อมกับยาเสพติดในรถยนต์กระบะทิ้งไว้ บริเวณถนนทางหลวงสายเลี่ยงเมืองหมายเลข 111 ต.ในเมือง อ.เมืองพิจิตร โดยมีชาวบ้านเห็นคนร้ายหลบหนีเข้าไปในอุทยานบัว บริเวณบึงสีไฟ จนท.ได้แกะรอยติดตามนักค้ายาเสพติดตั้งแต่ต้นทาง จ.เชียงราย มาถึงสุโขทัย และผ่านเข้ามาตัวเมืองพิจิตร และสามารถตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าวได้และกำลังสอบสวนขยายผลต่อไป และได้นำของกลางไปที่ กก.1 บก.สกส.บช.ปส.เพื่อจัดดำเนินการจัดทำบันทึกการตรวจยึด
ทั้งนี้การติดตามผู้ต้องหา ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 5 ต.ค. กำลังตำรวจภูธร จ.พิจิตร ร่วมกับ อ.ส.ฝ่ายปกครอง อ.เมืองพิจิตร และตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร กว่า 100 นาย ร่วมกันปิดล้อมทั้งภาคพื้นดิน ลงเรือและใช้โดรนบินค้นหานักค้ายาเสพติดภายในอุทยานบัว บึงสีไฟ ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร ที่มีพื้นที่กว่า 5 พันไร่ เพื่อปิดล้อจับกุม การไล่ล่าเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากภายในบึงสีไฟมีป่าสนุ่นป่าอ้อ และวัชพืชปกคลุมหนาแน่น และมีฝนตกลงมาตลอดเวลา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว
...
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา พลเมืองดีที่ได้ไปหาปลาบริเวณบึงสีไฟ ว่ามองเห็นเหมือนคนดำผุดดำว่ายและขอความช่วยเหลือ บริเวณป่าสนุ่นภายในบึงสีไฟ จึงแจ้ง พ.ต.ท.สราวุธ เป้าเพชร รอง ผกก.เมืองพิจิตรและนายณรงค์ สิทธิเขตกรณ์ นอภ.เมืองพิจิตร ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ภารกิจในครั้งนี้ ได้สั่งกำลัง ใช้เรือ บุกเข้าไป ภายในบึงสีไฟ พบคนร้าย มีอาการหนาวสั่น มีสภาพหมดเรี่ยวหมดแรงลอยคออยู่ในน้ำ เมื่อนำตัวผู้ต้องหา ขึ้นมาจากน้ำ ให้ดื่มน้ำ และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นชาวม้ง ชื่อนายณัฐชนน ภัทรชรกูล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245 หมู่ 6 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน จากนั้นได้ทำตัวไปทำการทำประวัติ เบื้องต้น ตำรวจ ป.ป.ส. จากส่วนกลาง ซึ่งเป็นเจ้าของคดี และผู้ติดตามคนร้ายมาตั้งแต่ต้นทาง และอยู่ร่วมจับกุมในวันเกิดเหตุ ได้ขอ นำคนร้ายและของกลางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำการสอบสวนและขยายผล สำหรับ เส้นทางการลำเลียงยาเสพติดกว่า 6 ล้านเม็ดนี้ ต้นทางนำเข้ามาที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย ผ่านจังหวัดพะเยา แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก และลัดเข้ามาที่ จ.พิจิตร ปลายทาง จ.อยุธยา