ตำรวจตามจับได้แล้วมือปืนยิงสาววัย 29 ดับคาทุ่งนา อ.ละหานทราย บุรีรัมย์ ขณะไปหาหอยหาปลา เป็นลูกชายเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังในอำเภอ สารภาพเมาเอาปืนไปซ้อมยิงขวด หลังรู้มีคนถูกยิงตายรีบเอาปืนไปซ่อน หนีกลับบ้านที่อำนาจเจริญ
วันที่ 23 ก.ย. 66 กรณี น.ส.ฤทัยวรรณ กมลเลิศ หรือบี อายุ 29 ปี เป็นชาว อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ถูกกระสุนขนาด .22 ปริศนายิงเข้าบริเวณราวนม ระหว่างไปหาปลากับสามีและเจ้าของที่นารวม 3 คน ที่บ้านโนนสง่า ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา
เหตุดังกล่าว ตำรวจชุดสืบสวนทำงานด้วยความยากลำบาก เนื่องจากไม่มีหลักฐานชัดเจน สอบสวน นายพรเทพ พาพันธ์ อายุ 25 ปี ชาว อ.ละหานทราย สามีผู้เสียชีวิต และนายพิทยา นะมอญรัมย์ เพื่อนสามี ที่ไปหาปลาด้วยกันรวม 3 คน ก็ไม่พบพิรุธ ไม่สามารถเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ได้
ต่อมา พล.ต.ต. รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ. สาธิต สถิตถาวร ผกก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ. มนัสวุฒิ บรรยงค์ ผกก.สภ.ละหานทราย ให้เร่งหาพยานหลักฐานเพื่อสาวถึงตัวคนร้ายให้ได้ โดยทำงานร่วมกับ ชุดสืบสวน ภ.3 จนสืบทราบว่าคนที่ยิงผู้เสียชีวิต น่าจะเป็นนายโยธิน หรือพร้าว ศิริอนันต์ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ มาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่มาเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงติดตามไปที่จังหวัดอำนาจเจริญ เนื่องจากนายพร้าวหลบหนีไป
...
จากการสอบสวนนายโยธิน หรือพร้าว ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. เวลาประมาณ 21.00 น. ได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนรวม 3 คนบริเวณด้านหลังห้องพักคนงานร้านสำราญเฟอร์นิเจอร์ อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ ประมาณ 200 เมตร นายโยธิน ได้นำอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียน ขนาด .22 ออกมาซ้อมยิงเป้า โดยใช้ขวดแขวนไว้กับเสาไม้ไผ่หันหน้าทิศทางที่ผู้ตายกับพวกกำลังปักเบ็ดและหาหอยอยู่ ประมาณ 5-6 นัด ไม่รู้ว่าทิศทางกระสุนปืนที่นายโยธินยิงจะไปโดนผู้เสียชีวิตขณะกำลังเก็บหอยอยู่กลางทุ่งนา
หลังทราบว่ามีผู้ถูกกระสุนปืนถึงแก่ชีวิตจึงได้นำอาวุธปืน ห่อด้วยถุงพลาสติก และผ้าสแลนสีดำ ไปซุกช่อนไว้ในป่า ข้างทางเข้า กรมทหารพราน 26 ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 1 กม. นำเศษวัสดุ ศาลพระภูมิปิดทับไว้ แล้วหลบหนีไปกบดานอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ บ้านเกิด จนกระทั่งตำรวจตามไปจับกุมตัวดังกล่าว
หลังสอบสวน นำตัวส่ง พ.ต.ท. มานพ ทองพลับพลา พนักงานสอบสวน สภ.ละหานทราย ดำเนินคดี เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา "กระทำโดยประมาท (ยิงปืน) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนโดยใช่เหตุ ในเมือง หรือหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันสมควร"
ด้านนางหนู โชติยา อายุ 79 ปี ยายผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตั้งแต่หลานเสียชีวิตไปไม่เคยฝันเห็น มีเพียงวันก่อนหน้านี้ มีคนมาเคาะประตูห้องเสียงดัง ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นหลานที่เสียชีวิตมาเคาะ จึงไปเล่าให้ลูกหลานฟัง แต่ได้รับคำตอบว่า “ยายเลอะเลือน” แต่เพียงวันเดียวก็ได้ข่าวว่าจับคนร้ายได้แล้ว คาดว่าหลานน่าจะมาแจ้งว่าตำรวจจับคนยิงได้
นายสวรรค์ การสร้าง อายุ 51 ปี พี่เขยผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่ควรจะไปซ้อมยิงปืนบริเวณนั้น เพราะเป็นทุ่งนา และเป็นหน้าฝน มีชาวบ้านออกไปหากินในเวลากลางคืนจำนวนมาก ถือเป็นบทเรียนราคาแพงของคนยิงเพียงแค่ความคึกคะนอง