พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เผยตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา ไอ้เอ็ม เพิ่ม 5 ข้อหา ในส่วนคดีการเสียชีวิตของลูกชาย 2 คน ในท้องที่ สน.บางซื่อ เมื่อ ปี 2559 และปี 2561 ส่วนพฤติการณ์ เข้าข่ายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องหรือไม่ ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบหลักฐานทางคดี
ความคืบหน้าคดีพ่อโหดฆ่าลูก เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2566 ที่ สน.บางเขน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน และพ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม พร้อมพนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน สน.บางเขน และกก.สส.บก.น.2 ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีการเสียชีวิตของเด็ก 5 ศพ ที่ นายส่องศักดิ์ ส่งแสง น.ส.สุนัน และ น.ส.เจษฎา เป็นผู้ต้องหา
ภายหลังการประชุมนาน 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวานหลัง รับแจ้งจากนิติเวชว่ากระดูกที่ขุดพบ ในท้องที่ สน.สายไหม ไม่ใช่กระดูกมนุษย์ จึงต้องมาวางแนวทางการสืบสวนกันใหม่ โดยให้ฝ่ายสืบสวน ซักถาม น.ส.เจษฎา ว่าจำจุดทิ้งศพทั้ง 4 คน ได้หรือไม่ โดย 2 จุดแรกที่ไปทิ้งในที่ ท้องที่ สน.บางซื่อ น.ส.เจษฎา สามารถชี้ได้ตรงจุด บันทึกของ สน.บางซื่อ ต่อมาจุดที่ 3 และ 4 ที่ได้มีการตรวจสอบพบกระดูก แต่หลังจากตรวจแล้วไม่ใช่กระดูกมนุษย์ จึงต้องให้ทางผู้ต้องหายืนยันจุดที่ทิ้งให้แน่นอน เนื่องจากสภาพทางกายภาพได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว ซึ่งจากเดิมที่ผู้ต้องหาให้การว่าจำได้ว่ามีศาลพระภูมิและเป็นป่ากก แต่เมื่อเทียบกับแผนที่ของ Google ก็พบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นปั๊ม ปตท.
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ในส่วนแรกคือ ต้องทำการตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.สายไหม คือ โรงบาลภูมิพลและนิติเวช รพ.ตำรวจ ว่ามีผู้พบศพนิรนามหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นจากการที่เราได้ตั้งฐาน ข้อมูล DNA ของนายส่องศักดิ์และน.ส.เจษฎา เพื่อหา ความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก พบว่ามีตรงกันเพียง 2 ศพ คือของพื้น สน.บางซื่อ จากนั้น จึงตรวจสอบไปยังฐานข้อมูลของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แต่ไม่พบฐานข้อมูลความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก ของนายส่องศักดิ์และน.ส.เจษฎา เฉพาะนั้น จึงต้องขอประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือไปยังภาคประชาชนที่พบเห็นเหตุในช่วงเวลานั้น คือ ปี 2559 กับ 2561 ว่ามีประชาชนได้พบเจอและได้นำไปทิ้งในถังขยะบ้างไม่ เนื่องจากการสืบสวนทราบว่ารถขยะที่มาเก็บตรงพื้นที่นั้นจะต้องไปส่งคัดแยกที่ท่าแร้งพื้นที่ สน.คันนายาว แล้วจึงคัดแยกขยะไปที่อำเภอกำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งสองจุดนี้ฝ่ายสืบสวนได้มีการลงพื้นที่แล้ว
...
รอง ผบช.น. กล่าวว่า ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ได้สอบถามลูกสาววัย 12 ปี ของ น.ส.เจษฎา ให้การว่า ได้เดินทางไปกับนายส่องศักดิ์และน.ส.เจษฎา ตอนไปทิ้งศพด้วยทุกครั้ง ลักษณะเป็นการนำใส่กล่องพลาสติกสีดำไปวางไว้ ไม่ได้ฝัง แต่ลูกสาวของ น.ส.เจษฎา ให้การจุดที่ทิ้งไม่ตรงกัน โดยบอกว่าอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ ชุดสืบสวนก็จะไปตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าจะตามหาศพของเด็กทั้ง 2 คนอย่างเต็มที่
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ชุดสืบสวนสอบสวน ยังได้ลงพื้นที่ไปสอบถามประวัติของนายส่องศักดิ์กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบิดาของนายส่องศักดิ์ ให้การยืนยันว่า ในช่วงปี 2540-2546 ลูกชายได้มีพฤติกรรมบังคับน้องสาวให้กินสารพิษ ถ้าไม่กินก็จะถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อตนผู้เป็นพ่อทราบ ก็ได้เข้าไปตักเตือนว่ากล่าว กลับถูกลูกชายใช้มีดไล่แทง จึงมีการไปแจ้งความ และตัดพ่อตัดลูกกันตั้งแต่ตอนนั้น
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า การสอบสวนภรรยาคนที่ 1 ให้การว่า ช่วงคบหากัน ปี 2545-2549 ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ ภรรยาคนที่ 2 คบหากันปี 2552 แต่ไม่มีลูกด้วยกัน ให้การว่า ได้ถูกนายส่องศักดิ์ใช้มีดจี้บังคับให้ไปจดทะเบียนสมรส และยังมีพฤติกรรมเตะ ต่อย ตี จนเจ้าตัวต้องแกล้งสลบ เพื่อไม่ให้ถึงแก่ชีวิต และปัจจุบันก็ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่ากัน ส่วนภรรยาคนที่ 3 ให้การว่า ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า กระทั่งนายส่องศักดิ์มาคบหากับภรรยาคนที่ 4 คือ น.ส.เจษฎา มีลูก 5 คน เสียชีวิต 4 คน และภรรยาคนที่ 5 คือ น.ส.สุนัน มีลูก 3 คน โดยจากการสอบถามมารดาของ น.ส.สุนัน ให้การว่า นายส่องศักดิ์และน.ส.สุนัน ได้นำน้องโตโต้ ลูกชายคนสุดท้องมาฝากตนเลี้ยงไว้ โดยตอนพามาก็มีร่องรอยบาดแผล ทราบว่าถูกนายส่องศักดิ์ทำร้าย เพราะโมโหง่าย และนายส่องศักดิ์ ยังเคยพูดกับ น.ส.สุนันว่า “กูไม่ชอบ ไม่สนเด็กผู้ชาย” โดยนายส่องศักดิ์ไม่เคยมาเยี่ยมหรือส่งเสียค่าเลี้ยงดูเลย คำให้การนี้สอดคล้องกับมูลเหตุว่า ทำไมเด็กชายถึงเสียชีวิต
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการค้ามนุษย์ พนักงานสอบสวนได้ประสานกับ กระทรวง พม. แล้ว โดยเด็กยังอยู่ความดูแลของกระทรวง พม. และไม่พร้อมให้ปากคำ พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานว่า ตั้งแต่แรกเกิดมาว่า เด็กมีลักษณะเป็นอย่างไร โดยจากการสอบปากคำ น.ส.เจษฎา ยืนยันว่า ช่วงปี 2564-2565 ที่นายส่องศักดิ์นำเด็กมาให้เลี้ยงดู เด็กยังปกติ แต่มีเชื้อราที่ปาก ซึ่ง น.ส.เจษฎายังสงสัยว่าทำไมอาการเยอะ และหายาม่วงมารักษาให้ ขณะที่นายส่องศักดิ์และน.ส.สุนัน ยังไม่เปิดปากตอบเรื่องนี้ โดยพนักงานสอบสวน จะเข้าไปสอบปากคำในเรือนจำเพิ่มเติม หลังได้ผลตรวจจากแพทย์นิติเวชว่าสาเหตุเกิดจากอะไร หากพบว่ามีการทำร้ายเด็กจนมีอาการปากแหว่งและอาศัยความพิการไปแสวงหาผลประโยชน์ จะประสานกับเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ทำการคัดแยกเหยื่อ หากเข้าองค์ประกอบความผิดค้ามนุษย์ ก็จะดำเนินคดีถึงที่สุด โดย น.ส.เจษฎาจะมีความผิดด้วย เพราะเป็นผู้เปิดเฟซบุ๊กโพสต์ขอรับบริจาค
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า วันจันทร์ที่ 25 ก.ย.นี้ พนักงานสอบสวน สน.บางเขน จะเดินทางเข้าพบนายส่องศักดิ์ ส่งแสง ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนคดีการเสียชีวิตของลูกชาย 2 คน ในท้องที่ สน.บางซื่อ เมื่อปี 2559 และปี 2561 ประกอบด้วยข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นให้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย, ซ่อนเร้น ทำลายศพ, ช่วยเหลือผู้อื่นให้มิต้องรับโทษ และทำลายศพที่ต้องชันสูตรพลิกศพ ส่วนพฤติการณ์ของนายส่องศักดิ์ เข้าข่ายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องหรือไม่ ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบหลักฐานทางคดี เพื่อแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่น" ต่อไป.