ผบช.ก.เรียกทีมกองปราบฯประชุมเครียดคลี่คดีฆ่า “สว.ศิว” ชี้พยานหลักฐานยันชัด “กำนันนก” สั่งยิงสารวัตรทางหลวงตงฉินคางานเลี้ยง แจงเหตุโอนคดีจาก ภาค 7 ให้สอบสวนกลางทำ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ชี้ผลสอบเอาผิด ม.157 ตำรวจที่เหลือในคืนสังหารต้องทำรอบคอบและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ลั่นใครผิดไม่ว่ายศไหนตำแหน่งไหนฟันไม่เลี้ยง ลุยสอบ ขยายต่อเส้นทางการเงิน-ฮั้วประมูล ดีเอสไอเรียกสอบ 20 บริษัทที่ถอนตัวไม่ยื่นซองแข่งกำนันนก
กลายเป็นคดีที่สังคมเฝ้าจับตามอง กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สอบเอาผิดตำรวจ 14 นายที่อยู่ในคืนสังหาร พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สว.ศิว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. คางานเลี้ยงบ้านกำนันนก หรือนายประวีณ จันทร์คล้าย อายุ 35 ปี อดีตกำนันตำบลตาก้อง อ.เมืองนครปฐม หลังไม่ช่วยเหลือผู้ตาย และจับกุมมือปืนที่ก่อเหตุซึ่งหน้า อีกทั้งยังให้การขัดแย้งกับภาพวงจรปิดที่กู้ได้จากเซิร์ฟเวอร์ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 กระทั่งพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งโอนให้คดีทั้งหมดจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) มาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ให้กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดทั้งหมด
...
ผบช.ก.ถกเครียดคดี สว.ศิว
ความคืบหน้าในการสอบสวนตำรวจที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ยิงสารวัตรศิว เช้าวันที่ 18 ก.ย.ที่ บก.ป. ตำรวจชุดคลี่คลายคดีของกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ร่วมประชุมกับทีมสืบสวนสอบสวนเพื่อสรุปเหตุการณ์ต่างๆก่อนจะนำเข้ารายงาน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ที่จะเรียกประชุมใหญ่อีกครั้งในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.เอนกให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงบ้านกำนันนกว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดเข้าข่ายกระทำความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตาม ม.157 หรือให้การเท็จหรือไม่ เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบและต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน คาดว่าวันนี้จะมีความชัดเจนเรื่องของตำรวจที่จะถูกดำเนินคดี
ชี้รับโอนคดีเพราะอิทธิพล
ภายหลังประชุม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป และ พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป.ร่วมกันแถลงถึงคดีดังกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุตำรวจสอบสวนกลางร่วมสืบสวนคดีมาตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน ขณะนี้รับโอนคดีมาทำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 2 คดี คือคดียิงสารวัตรศิวและคดีส่วนที่ต้องดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้องในความผิดตามมาตรา 157 สำหรับการโอนคดีมาที่ บช.ก. เพราะคดีที่เกิดขึ้นมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นคดีอุกอาจรุนแรง มีความซับซ้อน เนื่องจากถ้าให้ตำรวจในพื้นที่ดำเนินการอาจจะเจออิทธิพลในพื้นที่จำเป็นต้องโอนคดีมาให้ บช.ก.
ยังระบุไม่ได้ ตร.คนใดผิด
พล.ต.ท.จิรภพกล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหลือที่อยู่ในงานเลี้ยงในความผิดตามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าตำรวจนายไหนมีความผิดบ้าง ต้องพิจารณาอีกครั้ง อีกทั้งตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดและการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากการนำมาตรา 157 มาดำเนินคดีกับตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงเป็นความละเอียดอ่อน ต้องพูดคุยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายว่าพฤติกรรมแค่ไหนจะเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 157 ยืนยันว่าหากสอบสวนแล้วใครผิดจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะยศใด ตำแหน่งใด
ขอเวลา-ไม่อยากด่วนสรุป
ผบช.ก.กล่าวว่า เรื่องการแจ้งข้อหากับกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงตามมาตรา 157 นั้นมีการดำเนินคดีกับกลุ่มที่ให้การช่วยเหลือผู้กระทำผิดไปแล้ว 6 นาย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัด อาจต้องใช้เวลาสักระยะ แต่จะเร่งทำให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ต้องยึดหลักข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานเป็นที่ตั้งเพราะกฎหมายมาตรา 157 มีคำนิยามหรือมีเจตนาพิเศษ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องหารือกันพอสมควรว่าพฤติกรรมแค่ไหนถึงเรียกว่าผิด 157 อาทิ บางคนอาจพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล บางคนอาจโทร.แจ้ง 191 หรือบางคนอาจไม่ทำอะไรเลย ต้องขอเวลาหารือกับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายให้ตกผลึกก่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่อยากด่วนสรุป
ยันกำนันนกสั่งยิงสารวัตรศิว
ผบช.ก.กล่าวอีกว่า สำหรับกล้องวงจรปิดภายในบริเวณบ้านนายประวีณ หรือกำนันนก ที่ไม่สามารถเปิดได้ในจุดที่เกิดเหตุยิงสารวัตรศิวมีการตรวจสอบพบว่ากล้องวงจรปิดหยุดไปตั้งแต่ 10.00 น.วันเกิดเหตุ คาดว่าไม่น่าจะมาจากสาเหตุเพื่อเตรียมการจะยิง พ.ต.ต.ศิวกร เพราะช่วงงานเลี้ยงมีการทักทาย สวัสดีกันตามปกติ แต่เหตุที่เกิด0มาจากความมึนเมาและศักดิ์ศรีมากกว่า ส่วนลูกน้องกำนันนกยืนยันว่าคืนเกิดเหตุพกอาวุธปืนกันทุกคน จากการสอบปากคำพยานให้การสอดคล้องกันและยืนยันตรงกันชัดเจนว่ากำนันนกสั่งยิงสารวัตรศิว คำให้การพยานบุคคล พยานแวดล้อม มูลเหตุจูงใจ และอื่นๆอีกมากมาย เพียงพอที่จะดำเนินคดีกำนันนกให้ถึงที่สุดได้
ลุยต่อฮั้วประมูล-เส้นทางเงิน
ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ส่วนข้อสงสัยที่กระแสสังคมเชื่อว่ามีการเตรียมการลวงผู้ตายมาก่อเหตุนั้น จากข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่เชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ ส่วนแนวทางดำเนินการต่อจากนี้ เบื้องต้นวางกรอบการทำงานออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ 1.การขยายผลแก๊งคนร้าย เส้นทางการเงิน ข้อมูลออนไลน์ และสิ่งผิดกฎหมาย 2.ดูเรื่องการฮั้วประมูล เพื่อพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าเพราะเหตุใดทำไมกำนันนกถึงชนะการประมูลได้รับงานโครงการต่างๆจำนวนมาก ในส่วนนี้เราพบความผิดปกติหลายอย่าง อาทิ ชนะการประมูลงานมากกว่าร้อยละ 80 และอื่นๆอีกมากมาย และ 3.เร่งปราบปรามผู้มีอิทธิพล เราจะไม่ใช่แค่ระดมกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายแล้วเลิก แต่ต้องตัดวงจรทั้งเครือข่าย ยึดทรัพย์ เป็นแนวทางที่กองปราบฯทำมาโดยตลอด
...
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะประสานงานร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และกรมสอบสวนคดีพิเศษในคดีนี้ด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่ายินดีและพร้อมประสานงานร่วมกัน อย่างที่บอกพร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ขอให้ยึดข้อเท็จจริงตรงไปตรงมาเป็นหลัก ดำเนินการไปในสิ่งที่ควรจะเป็นก็พอ
...
ขอความเป็นธรรม ผกก.เบิ้ม
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. กล่าวว่า สำหรับเรื่องการพิจารณาความผิดมาตรา 157 ในส่วนนี้ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายเน้นที่ข้อเท็จจริง ต้องมาไล่ตามไทม์ไลน์ทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างจึงเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เช่น ในกรณีของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือผู้กำกับเบิ้ม ผกก.2 บก.ทล. ที่ยิงตัวตาย อยากวิงวอนในส่วนนี้ว่าคนก็เสียชีวิตไปแล้ว ไม่สามารถออกมาพูดชี้แจงอะไรได้ แต่จากการพูดคุยกับพยานกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์หลายคน เชื่อว่า ผกก.เบิ้ม ไม่ได้หนีไปไหน และยังเป็นคนที่เข้าไปช่วยประคอง พ.ต.ต.ศิวกรในช่วงแรก ก่อนมีกลุ่มลูกน้องเข้ามาช่วยประคองต่อ ก่อนที่ตัวเองช่วยพา พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 ทล. ไป รพ. ตนไม่ได้แก้ตัวให้ ผกก.เบิ้ม แต่สิ่งที่ตนเห็นแขนของ ผกก.เบิ้ม ยังมีคราบเลือดคนตายและคนเจ็บติดอยู่ ส่วนเรื่องส่วยรถบรรทุกยืนยันว่ายังคงกวาดล้างต่อเนื่องจนลดน้อยลง หากพบเจออีกก็จะเร่งจับกุมให้หมดไป
ผบ.ตร.แจงเหตุผลสั่งโอนคดี
ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีการโอนคดีสารวัตรศิวไปให้กองปราบปรามทำคดีว่า คดีนี้จุดเริ่มต้นคือนายธนัญชัย หรือหน่อง หมั่นมาก ยิงสารวัตรศิว ภาค 7 ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับทั้งนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก และนายหน่อง มือปืน ต่อมามีการวิสามัญฆาตกรรมมือปืนที่ก่อเหตุ บช.ก.เสนอมายังตนว่าคดีนี้เกี่ยวเนื่องกับผู้มีอิทธิพลและเป็นคดีสำคัญ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและรอบคอบในการทำคดี เพราะเมื่อใดที่ในพื้นที่นั้นมีคดีเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลจะไม่ได้รับความไว้ใจในกระบวนการยุติธรรม เห็นชอบให้โอนคดีมาที่กองปราบปราม
...
มีตำรวจ-พลเรือนร่วมทำผิด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า การทำคดีของกองปราบปรามนอกจากจะมีทั้งในส่วนของหมายจับกำนันนก และนายหน่องแล้วก็พิจารณาว่ามีคนงานในบ้านกำนันนกช่วยเหลือและทำลายหลักฐานวันเกิดเหตุ ถือเป็นความผิดและดำเนินคดีอาญาไปแล้ว ต่อมาสำนวนที่ บช.ภ.7 สอบสวนพบว่า มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดี 6 คน ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 คดีนี้ยังไม่ได้รับการประกันตัว บช.ภ.7 เห็นว่าเป็นคดีเดียวกัน เสนอให้ ผบ.ตร.ขอโอนสำนวนคดีมาให้กองปราบปรามทำคดีเมื่อวันที่ 13 กันยายน ตนก็เห็นชอบและอนุมัติการโอนสำนวนไปกองปราบปรามทำคดีเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้งหมดมีเพียงเท่านี้ ทั้งตำรวจและพลเรือนมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีเดียวกัน ทั้งการช่วยเหลือและการทำลายหลักฐาน
ปัดไม่เกี่ยวขัดแย้งกันทำคดี
“กองปราบปรามมีอำนาจและศักยภาพปฏิบัติงานทั่วประเทศ คดีนี้มีเพียงแค่จุดเดียวไม่ได้ยุ่งยากอะไร และพนักงานสอบสวนของกองปราบปรามมีมาก ให้โอนคดีไป หลังโอนคดีแรกไปแล้ว ผบช.ก.ให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้า ผมมั่นใจว่าจะทำคดีออกมาได้ดี” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวและว่า ยืนยันว่าการโอนคดีกำนันนกไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในการทำคดี สิ่งจำเป็นที่สุดคือการรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมผู้กระทำความผิดได้เร็ว ได้สั่งการไปว่าตำรวจที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีให้ได้ ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับ ม.157 พนักงานสอบสวนจะทำงานร่วมกับ ป.ป.ช. จะนำสำนวนส่ง ป.ป.ช.พิจารณาว่าจะส่งสำนวนกลับมาให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่
ล้อมคอกคัดคนเป็น กต.ตร.
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีกำนันนกเป็น กต.ตร.ภ.จ.นครปฐม ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ยอมรับว่าบางจังหวัดยังมีอยู่ในเรื่องของเครือข่ายผู้มีอำนาจในการเงิน เรื่องของผู้มีอิทธิพล หากมีอีกผู้บังคับการอาจต้องรับผิดชอบ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน กต.ตร.ในตำแหน่งอยู่แล้ว หากมีการประชุมแล้วพบว่า มีคนไม่ดีเข้ามาเป็น กต.ตร. ก็ต้องพิจารณาให้บุคคลนั้นออกจากตำแหน่ง อย่างไร ก็ตามหลังจากนี้จะต้องพิจารณาและเข้มงวดเรื่องการลงสมัคร กต.ตร. รวมถึงเรื่องอาวุธปืนต้องประสานกระทรวงมหาดไทย เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกัน เพราะตำรวจไม่ได้ทำเรื่องอนุญาตอาวุธปืน ปัจจุบันตำรวจไม่รู้ว่ามีใครครอบครองปืนกี่กระบอก ควรเชื่อมข้อมูลร่วมกันในองค์ประกอบภาพรวม
สอบ 20 บริษัทโยงฮั้วประมูล
ด้าน ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีฮั้วประมูล กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า กรณีดีเอสไอออกหมายเรียกพยานนัดหมายให้บริษัทกว่า 58 แห่งที่เคยยื่นซื้อซองเสนอราคาในโครงการประกวด ราคาจ้างเหมาก่อสร้างทางหลวงเข้าให้ปากคำเพื่อชี้แจงถึงการถอนตัวไม่เข้าร่วมการประมูล e-bidding ว่ามีการถูกข่มขู่หรือมีการสมยอมในเรื่องราคากันหรือไม่ วันนี้ออกหมายเรียกพยาน 20 บริษัท แบ่งเป็นสองโครงการ โครงการละ 10 บริษัท โดยจะเรียกสอบทั้ง 3 วันคือ 18-20 ก.ย. ไม่มีการออกหมายเรียกรายชื่อของบริษัทคู่เทียบ แต่ออกหมายเรียกเพียงในส่วนของบริษัทที่เคยยื่นซื้อซองเสนอราคาเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสอบปากคำตัวแทนบริษัทต่างๆที่เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ กองคดีฮั้วประมูล ต่างปฏิเสธตอบคำถามถึงบริษัทกำนันนกอ้างว่าไม่รู้จักบริษัทกำนันนกและไม่ได้ถูกข่มขู่แต่อย่างใด ทุกอย่างให้การกับเจ้าหน้าที่หมดแล้ว
คุกยันขังกำนันนกตัวจริง
ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณีกระแสโซเชียลวิจารณ์และตั้งข้อสังเกตว่า กำนันนกที่ถูกจับไม่ใช่ตัวจริง เกรงจะจับตัวปลอมว่ากรมราชทัณ์ได้รับการยืนยันจากนายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครในกรณีดังกล่าวแล้ว แจ้งว่า เรือนจำได้รับตัวนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ฐานความผิดเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2566 ขอยืนยันว่าก่อนรับตัวนายประวีณได้ตรวจสอบหมายขังระหว่างสอบสวน ใบส่งตัว และรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของศาลอาญา ตรงกับรายงานทะเบียนราษฎร จากฐานข้อมูลการทะเบียน สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง ระบบข้อมูลผู้ต้องขังกรมราชทัณฑ์ถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อย