"ผู้การเต่า รรท.ผบก.ทล." เผยได้รับรายงาน หมายจับ 4 ตำรวจ มีส่วนช่วยเหลือ พาผู้ต้องหาคดีฆ่า "สารวัตรศิว" หลบหนี หากเป็นตำรวจทางหลวง พร้อมเซ็นให้ออกทันที ย้ำอีกครั้งปมสังหารไม่เกี่ยวส่วยสติกเกอร์ แต่ "กำนันนก" หลงตัวเอง หลงอำนาจ เลยทำอะไรตามใจ ไม่มีความยั้งคิด
ความคืบหน้าคดี นายธนัญชัย หรือหน่อง หมั่นมาก อายุ 45 ปี ลูกน้องกำนันนก คนดังเมืองนครปฐม มือปืนสังหารโหด “สารวัตรศิว หรือสารวัตรแบงค์” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว อายุ 31 ปี สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. นายตำรวจหนุ่มตงฉินคางานเลี้ยงบ้านตัวเอง
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 กันยายน 2566 ที่ศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุฯ มีการสวดอภิธรรมศพ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เป็นคืนที่ 3 มีเพื่อนสนิท และผู้บังคับบัญชาเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา ถึงกรณีการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมแล้ว แต่ยังไม่เห็นเอกสารเป็นทางการ จึงไม่ขอยืนยันในกรณีนี้ แต่เบื้องต้นทราบว่า เป็นตำรวจ ชั้นประทวน จำนวน 4 นาย ในส่วนข้อหาเกี่ยวกับการช่วยเหลือและพาผู้ต้องหาหนี และหากเป็นตำรวจทางหลวงจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด โดยจะต้องตรวจสอบว่า ทาง บก.ทล. สามารถเซ็นคำสั่งได้ทันทีหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีถูกย้ายให้เข้าไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ทั้งหมด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องอาวุธปืน ขณะนี้ทราบว่าชื่อผู้ซื้อ คือตำรวจ แต่ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าเกี่ยวข้องกับตำรวจทางหลวงหรือไม่ หากมีความเกี่ยวข้องจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน ยืนยันว่าคดีนี้จะไม่มีการปกป้องคนผิด และจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดไม่มีการละเว้น เบื้องต้นคาดว่าปืนดังกล่าวเป็นของตำรวจทางหลวง
...
ส่วนกระแสการวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสังเกตของอดีตนายตำรวจ ที่ไปออกรายการชื่อดัง โดยใจความระบุว่า กรณีที่เกิดเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกรนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องการขอย้ายตำแหน่งเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของส่วยทางหลวงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า การวิจารณ์เป็นเพียงความคิดของบุคคลนั้นๆ แต่จะต้องทำคดีตามข้อเท็จจริง อย่าหลงทาง ใครจะพูดอะไร ก็สามารถพูดได้ทั้งสิ้น แต่ตนและตำรวจทั้งหมด เดินตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการตั้งข้อสังเกตเรื่องวันเกิดเหตุ มีการพูดคุยเรื่องส่วยสติกเกอร์ หรือผลประโยชน์อื่นนั้น ตนยืนยันว่าไม่มี ไม่มีการพูดคุยเรื่องส่วยสติกเกอร์ ไม่มีเรื่องการเคลียร์ตำแหน่งหน้าที่ หรือใดๆ ก็ตาม แต่เป็นเรื่องวุฒิภาวะของกำนันนก ที่หลงตัวเอง หลงในอำนาจ ทำอะไรตามใจไม่มีความยั้งคิด จึงทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา
"ในส่วนของเรื่องการทำลายหลักฐาน หรือกล้องวงจรปิด ตนไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเป็นการสืบสวนของทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แต่ได้มีการพูดคุยอยู่ตลอดเวลา โดยทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จะให้ตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกคน ทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น และจะไม่มีการช่วยเหลือ เพราะหน่วยงานได้สูญเสียข้าราชการตำรวจที่มีคุณภาพและเป็นคนดี จึงไม่จำเป็นต้องไปดูตำรวจที่ออกนอกแถว หรือไปช่วยเหลือคนอื่น ตอนนี้ได้ถูกเงิน หรืออำนาจ กลืนไป คนเหล่านี้กรีดเลือดออกมาก็ไม่ใช่สีเลือดหมู เพราะฉะนั้นก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว