ตำรวจกองปราบตามจับหนุ่มเกย์คิง ที่ก่อคดีลักทรัพย์บ้านหนุ่มคู่ขาที่ จ.พัทลุง สูญไปกว่า 5 ล้าน ขณะมากบดานในอพาร์ตเมนต์ที่สงขลา รับสารภาพลงมือลักทรัพย์จริง แต่นำไปขายได้ไม่กี่แสน ไม่ถึง 5 ล้าน โดยมีประวัติเคยถูกจับติดคุกเมื่อปี 57 เพิ่งออกคุกปี 65
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2566 ตำรวจกองปราบปราม กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการขอ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. , พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ, ร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี, ร.ต.ท.พัทธ์ดนย์ พูลพิพัฒน์ รอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป.
เข้าตรวจค้นภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านถนนราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา หรือ เขต 8 และจับกุม นายศุภนรินทร์ สุบินชมพู หรือ วิน อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.พัทลุง ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ขณะเข้าจับกุม นายศุภนรินทร์ กำลังพักอยู่กับชายหนุ่มคู่ขาภายในห้องและ นายศุภนรินทร์ หรือวิน ถึงกับคอตกเอามือกุมหน้าร้องไห้ เพราะรู้ว่าต้องกลับเข้าคุกอีกรอบ และรู้ดีว่าจะต้องไปเจออะไรในคุก
...
จากนั้นจึงควบคุมตัวไปสอบสวนทำบันทึกการจับกุมที่ศูนย์ประสานงานตำรวจกองปราบ จ.สงขลา สำหรับประวัติทางคดี ของ นายศุภนรินทร์ หรือ วิน มีพฤติกรรมเป็นเกย์คิง อยู่ในกลุ่มของชายรักชาย ประวัติไม่ธรรมดา และเป็นบุคคลอันตราย เพราะเคยก่อคดีลักทรัพย์และฉ้อโกงมาอย่างโชกโชนอย่างน้อย 7 คดี โดยอาศัยเข้าไปตีสนิทกับเหยื่อที่เป็นชาวเกย์ด้วยกัน
โดยเฉพาะคดีล่าสุดเคยเป็นข่าวดังออกรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อมีเพื่อนชายคนสนิท ชื่อ นายเบิร์ด อายุ 39 ปี ชาว จ.พัทลุง เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองพัทลุง หลังจากถูก นายวิน หลอกโอนเงิน พร้อมยกเค้าทรัพย์สินมีค่าทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ เครื่องเพชรที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษไปเกลี้ยงบ้าน
นายวิน ซึ่งรู้จักกับ นายเบิร์ดมาก่อน ได้ไปเจอกันที่กรุงเทพฯ อ้างว่าเพิ่งออกจากคุกในคดีพยายามฆ่าพ่อเลี้ยงที่ จ.เชียงราย ไม่มีที่ไปขอมาอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย จึงหลงเชื่อสงสาร พาไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน
นายเบิร์ด บอกว่า ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน นายวิน ทำตัวดีมากชาวดูแลแม่อายุ70 ปี ที่ป่วยและช่วยทั้งงานบ้านและกิจการที่บ้านดีมากจนทุกคนในบ้านรักนายวิน แต่ระยะหลังพฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไปเงินและของในบ้านเริ่มหายจึงเริ่มไม่ไว้ใจที่สุดคือได้แอบมอบยาโอนเงินจากแอบโทรศัพท์มือถือไปกว่า 5 แสนบาท แต่ถึงจะรู้แต่แม่ของตนซึ่งรักนายวิน มากก็ยังเข้าข้าง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นายวินได้ออกจากบ้านและหายไปติดต่อไม่ได้อีกเลย
เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านพบว่าตู้เก็บสิ่งของมีค่า ตู้เซฟ ถูกงัด ทั้งเงินสด เครื่องทอง แหวนเพชร โดยเฉพาะสมบัติของแม่ที่เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ และเครื่องทองเครื่องเพชรในวันแต่งงานของแม่หายไปมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทลุง เพื่อให้ตำรวจติดตามจับกุม นายวิน พร้อมกับออกมาร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนให้ระวัง นายวิน ไว้ให้ดีเพราะอาจจะไปหลอกคนอื่นอีก
นายวิน ก็กล่าวสารภาพว่า ก่อเหตุบ้านชายหนุ่มคู่ขาที่ จ.พัทลุง จริง โดยทรัพย์สินที่ได้มาเอามาขายกินหมดแล้วตั้งแต่เดือนแรกขโมยมา โดยอ้างว่ามูลค่าทรัพย์สินที่ขายได้แค่ไม่กี่แสน ไม่ได้สูงถึง 5 ล้าน และยังบอกอีกว่ารู้สึกผิดที่ทำกับเพื่อนชายคนนี้โดยเฉพาะแม่อายุ 70 ปี ที่ป่วย รักและเป็นห่วงจริงๆ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันดูแลเป็นอย่างดี พร้อมกับอ้างว่าที่มาอาศัยอยู่ที่บ้านเพราะเพื่อนชายคนนี้ชวนมาอยู่ด้วยกัน โดยก่อนหน้านี้ก็เคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์และต้องโทษติดคุกมา 7 ปี เมือปี 59 และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 65
...
หลังจากนี้ตำรวจก็จะส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพัทลุง พื้นที่เกิดเหตุต่อไป.