ผกก.ทองหล่อ ยันเอาผิด หนุ่มขับเบนซ์ปาดหน้า จยย.กับเพื่อนรวม 6 คนเต็มที่ หลังเจอฉี่ม่วง ค้นรถพบปืนและไอซ์ ขณะที่รถติดป้ายทะเบียนปลอมด้วย ด้านเจ้าตัวปัดรู้จักนายตำรวจ และอ้างเป็นตำรวจ เตรียมส่งศาลฝากขังพรุ่งนี้

กรณีเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 ส.ค. 2566 ขณะที่ พ.ต.ท.สาโรจน์ สมหารวงศ์ สวป.สน.ทองหล่อ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทองหล่อ ออกตรวจในพื้นที่ผ่านมาถึงหน้าโรงแรมนิกโก ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทเกรงจะเกิดเหตุบานปลาย จึงไปตรวจสอบ พบกลุ่ม จยย.รับจ้างกำลังโต้เถียงกับคนขับรถเก๋งอย่างรุนแรง จึงรีบเข้าระงับเหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายขวัญชัย อายุ 39 ปี ได้ขี่รถ จยย.มาในซอยสุขุมวิท 55 มุ่งหน้าทางด้านปากซอยทองหล่อ 55 เมื่อมาถึงบริเวณปากซอยทองหล่อ 2 ได้มีรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น CLA-250 สีเทา-ดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ซึ่งมี นายหน่อง (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้ขับรถปาดหน้า จยย.จนรถเสียหลัก จึงได้ลงรถไปต่อว่าจนเกิดปัญหาขึ้น ต่อมา นายหน่อง ได้เดินลงจากรถมาพร้อมกับแสดงตัวว่ามีอาวุธปืน จากนั้นก็ได้ทำร้ายร่างกายโดยการชกที่ใบหน้าของ นายขวัญชัย 1 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเพื่อนของ นายขวัญชัย จึงเข้ารุมล้อมหวิดเกิดเรื่องบานปลาย แต่เจ้าหน้าสายตรวจมาทันเวลา จึงนำตัวทั้งคู่ไปสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ

...

จากการตรวจสอบภายในรถเบนซ์ของ นายหน่อง พบสารคล้ายยาไอซ์ จำนวน 200 กรัม ซุกซ่อนในกระโปรงด้านท้าย อาวุธปืน ขนาด .25 มม. ใต้เบาะที่นั่งคนขับ จึงได้ส่งตัวเพื่อนที่นั่งโดยสารมาในรถเบนซ์ 5 คนนำตัวตรวจหาสารเสพติด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้มีเพื่อนของผู้เสียหาย เข้าไปไกลเกลี่ยจนเกิดมีปากเสียงกับ นายหน่องแทน โดยได้มีการจอดรถขวางหน้ากัน ซึ่งนายหน่องได้ชักอาวุธปืนขนาดเล็กขึ้นลำจ่อใส่คู่กรณี แล้วพูดว่า “มึงรู้ไหมกูเป็นใคร กูเป็นน้องต่อนะ มึงจะต่อยกับกูไหม เดี๋ยวมึงได้เจอกัน”

พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มต้นจากการที่กลุ่มรถเบนซ์กำลังเดินทางกลับมาจากการปาร์ตี้เพื่อไปส่งเพื่อน ปรากฏมาถึงจุดเกิดเหตุมีวิน จยย.3 คันที่กำลังขี่ไปรับลูกค้า โดยขี่มาในเลนซ้ายด้วยความเร่งรีบ แต่ถูกรถเบนซ์พยายามขับปาดหน้าเพื่อแซงรถ จยย.กลุ่มดังกล่าวด้วยความเร็ว จึงทำให้วิน จยย.บีบแตรเตือน ทางคนขับรถเบนซ์เกิดความไม่พอใจจึงเปิดกระจกมาต่อว่าพร้อมชูนิ้วกลางให้ แล้วขับมาจอดขวางถนน ก่อนจะลงมาปรี่ชกต่อยกับวิน จยย.จนเกิดเหตุชุลมุน เนื่องจากมี จยย.จำนวนมากมาช่วยห้ามและปกป้อง ซึ่งทางฝั่งคนขับรถเบนซ์ได้ชักอาวุธปืนมาข่มขู่บรรดาวิน จยย.ด้วย ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ในคลิป หลังจากตำรจ สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุจึงได้ส่งชุดปราบปรามเข้าไประงับเหตุและตรวจค้นรถยนต์

ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นปรากฏพบว่ามียาไอซ์จำนวน 200 กรัม อยู่ด้านท้ายของรถเบนซ์ พบอาวุธปืนขนาด.25 ไม่มีทะเบียน ซุกซ่อนใต้เบาะหน้าที่นั่งฝั่งซ้าย มีผู้ชาย 2 คน สาวประเภทสอง 2 คน และผู้หญิง 2 คน จากการนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาล พบสารเมตแอมเฟตามีนในร่างกายทุกคน จึงนำตัวมาดำเนินคดีที่ สน.ทุกคน นอกจากนี้จากการตรวจค้นรถเบนซ์คันดังกล่าวพบว่าได้ติดป้ายทะเบียนปลอม เนื่องจากตรวจสอบป้ายทะเบียนในระบบของกรมการขนส่งทางบกไม่พบหมายเลขทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว

...

พ.ต.อ.พันษา กล่าวอีกว่า ขณะที่การสอบปากคำคนขับรถเบนซ์ เบื้องต้นยังให้การสับสน เพราะตอนแรกคนขับรถเบนซ์บอกว่ารถคันนี้เป็นรถของเพื่อน แต่ภายหลังกลับให้การกลับกันว่าตนได้นำรถคันนี้มาซ่อมที่อู่ แล้วตอนเช้าเอารถมาลองขับ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าตัวคนขับรถเบนซ์ประกอบอาชีพธุรกิจเสื้อผ้า ไม่เกี่ยวข้องกับการซ่อมรถยนต์แต่อย่างใด จึงยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนขับรถเบนซ์ ซึ่งก็ต้องสอบปากคำโดยละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่ารถยนต์คันนี้เจ้าของตัวจริงอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของรถยนต์ทราบหรือไม่ว่าติดป้ายทะเบียนปลอม

...

สำหรับผู้โดยสารทั้ง 6 ราย ถูกแจ้งข้อหาดังต่อไปนี้
1) คนขับรถเบนซ์ แจ้งข้อหาครอบครองและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ/ใช้ป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม/ร่วมครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 เพื่อจำหน่าย/เสพยาเสพติดประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน และข้อหาตาม พ.ร.บ.การจราจร
2) ผู้โดยสารนั่งข้างคนขับ แจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 และร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้เพื่อจำหน่าย
3) น.ส.น้ำ อายุ 34 ปี แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 1
4) นายปัด อายุ 21 ปี ผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 1
5) น.ส.น้ำ อายุ 36 ปี ผู้โดยสารนั่งเบาะท้าย แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 1
6) นายหนึ่ง อายุ 21 ปี ผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง แจ้งข้อหาเสพและครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1

และยังพบว่า นายหน่อง คนขับรถเบนซ์มีประวัติต้องโทษในคดีอาชญากรรมหลายคดี ได้แก่ คดีทำให้เสียทรัพย์ และข่มขู่ผู้อื่น ท้องที่ สน.สุทธิสาร ปี 2556 / คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ท้องที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ปี 2555 / คดีบุกรุกที่ดิน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ปี 2553 ขณะที่ประเด็น นายหน่อง อ้างว่าเป็นตำรวจ และรู้จักกับตำรวจระดับสูงนั้น เป็นการกล่าวอ้างมากกว่า และจากการตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง โดยนายหน่องให้การว่า ตนไม่ได้กล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจ และไม่รู้จักกับตำรวจระดับสูงแต่อย่างใด ส่วนเพื่อนที่ถูกระบุว่าเป็นบุตรชายของตำรวจนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นลูกของตำรวจจริง แต่เป็นเป็นตำรวจชั้นประทวนยศดาบตำรวจใน จ.พระนครศรีอยุธยา และเกษียณอายุราชการแล้ว

...

หลังจากนี้จะนำตัวทั้ง 6 รายไปฝากขังต่อศาลอาญาได้ในวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค. 66) เวลา 10.30 น. อีกทั้งจะต้องเรียกทั้งวิน จยย.ที่เห็นเหตุการณ์ กับคนที่ได้รับบาดเจ็บ และเจ้าของรถเบนซ์มาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนประเด็นที่กลุ่มวิน จยย.กลัวว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะเป็นพวกผู้มีอิทธิพลนั้น ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยไม่สนใจว่าใครจะมีอิทธิพล จากนั้นเมื่อเวลา 15.10 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาตรวจค้นหาพยานหลักฐานและลายนิ้วมือแฝงในรถเบนซ์ของกลางเพิ่มเติม ส่วน 6 ผู้ต้องหานั้นจนถึงเวลา 16.20 น. ยังอยู่ในระหว่างการบันทึกการจับกุม.