ขบวนการขนไม้เถื่อน ซัด "ดาบน้อม" สภ.จุน ขับรถนำเคลียร์ทางผ่านทุกด่าน ทั้งด่านตรวจนางฟ้า ด่านตรวจห้วยไร่ จากน่านไปจนถึงอยุธยา แถมยังใช้มวลชนกดดันชุดจับกุม จนต้องเปลี่ยนเส้นทาง ขนไม้ของกลางกลับโรงพัก
เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด/จับกุม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงสา จ.น่าน, ตำรวจ ตชด.324 บ้านผาสิงห์ (น่าน) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน อำนวยการโดย นายสงคราม ขาวสะอาด ผอ.สจป.สาขาแพร่ ร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน 13 น้ำสา จ.น่าน, เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้น่าน
ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุรินทร์ หมูนิล อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 142 ม.7 ต.ต้นสะเม็ด อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมด้วยของกลาง 1. ไม้ประดู่ท่อน จำนวน 10 ท่อน ปริมาตร 5.95 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ เป็นเงินจำนวน 201,250 บาท 2. รถบรรทุก 10 ล้อ สีขาว ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 70-1981 ลำปาง โดยกล่าวหาว่ากระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 69 ฐาน "มีไม้กระยาเลยหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" มาตรา 70 "ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ใดได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการ" โดยจับกุมที่ถนนสายนาก้า-บ้านฟ้า บริเวณบ้านนาก้า ม.1 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน
...
หลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลังสกัดจับได้เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 19 สิงหาคม 2566 บริเวณรอยต่อบ้านป่าหุ่งกับบ้านห้วยหลอด ตำบลยาบหัวนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน และพบว่ามีการนำมวลชน มีการระดมมวลชนมาสกัดรถของกลาง ทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางนำรถของกลางขับอ้อมไปอำเภอบ้านหลวง และกลับเข้าอำเภอเมือง นำมาที่สถานีตำรวจภูธรเวียงสา โดยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการเดินทาง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 เวลา 00.20 น. นายสงคราม ขาวสะอาด ผู้อำนวยการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ได้สำกำลังสกัดจับ นายจักรพรรดิ์ รินทร์ป้อ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 179/1 หมู่ที่ 5 ตำบลขึ่ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน บริเวณบ้านผาหมู ตำบลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ พร้อมของกลาง รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-0895 น่าน และไม้ประดู่ 14 ท่อน ปริมาตร 6.51 ลูกบาตรเมตร โดยผู้ต้องหาให้การว่า รับจ้างขนไม้ดังกล่าวเพื่อนำไปส่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปลายทางคือลักลอบนำออกไปต่างประเทศทางเรือ และยังมีไม้ประดู่ท่อน จะมีการขนย้ายอีกครั้งในวันที่ 19 สิงหาคม หลังทราบข้อมูลแล้ว จึงได้สนธิกำลังออกติดตาม จนพบว่ามีการลักลอบขนไม้จริง จึงสนธิกำลังเข้าสะกัดจับ ได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายสุรินทร์ หมูนิล พร้อมของกลางดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพรับจ้างขนไม้ไปส่งที่อยุธยา ได้ค่าจ้าง 20,000 บาท โดยได้รับค่าจ้างมาแล้ว 10,000 บาท
จากการสอบปากคำ นายสุรินทร์ รับสารภาพว่า ตนรับจ้างขับรถบรรทุกยางพาราก้อนถ้วย แต่ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ไม่ค่อยมีงานให้วิ่งรถ พอดีได้รับการติดต่อในกลุ่มงานรถสิบล้อ ว่ามีงานขนไม้จากจังหวัดน่านไปอำเภอจุน จังหวัดพะเยา ในราคา 10,000 บาท โดยผู้ว่าจ้างบอกว่าเป็นไม้บ้านเก่า มีเอกสารขนย้าย ตนจึงรับงาน โดยมีผู้ว่าจ้างเป็นตำรวจ ชื่อว่า ดาบน้อม สังกัด สภ.จุน เป็นคนว่าจ้าง และดาบน้อมได้ขับนำทางมายังที่ขนไม้ แต่เมื่อมาถึงได้ขนไม้ขึ้นรถเสร็จ ดาบน้อม ได้บอกว่า ไม้ดังกล่าวจะให้นำไปส่งที่โรงเลื่อยแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเพิ่มค่าจ้างจาก 10,000 บาท เป็น 20,000 บาท
โดยดาบน้อม แจ้งว่าได้ทำการเคลียร์ด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทั้งด่านตรวจนางฟ้า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ด่านตรวจห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ และจะขับนำเคลียร์ด่านรายทางให้จากจังหวัดน่าน จนถึงจังหวัดอยุธยา รับรองว่าผ่านทุกด่าน เพราะทำประจำ และดาบน้อม ยังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย ตนจึงรับงาน แต่ขณะขับรถออกจากบริเวณที่นำไม้ขึ้นรถ โดยมีดาบน้อมขับนำ เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าสกัดจับรถตน และดาบน้อมได้ขับหนีไป
...
ด้านข้อมูลของเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวเป็นกลุ่มขบวนการลักลอบส่งออกไม้เศรษฐกิจไปยังต่างประเทศทางตู้คอนเทนเนอร์โดยผิดกฎหมาย โดยจะมีนายทุนมารับซื้อไม้จากชาวบ้าน โดยใช้ช่องโหว่ของกฎหมายตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยกลุ่มชาวบ้านจะไปตัดไม้จากป่า และชักลากมาปล่อยจมไว้ในสระน้ำ หรือขุดดินฝัง เพื่อทำให้ไม้ดูเก่า แล้วกลุ่มนายทุนจะมารับซื้อไม้ท่อน ท่อนละ 2,000-5,000 บาท และลักลอบนำไปขายที่โรงเลื่อย เพื่อสวมสิทธิเป็นไม้มาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยราคาขายให้โรงเลื่อย ราคาท่อนละ 20,000-50,000 บาท และหากนำไปขายต่างประเทศ จะตกกิโลกรัมละ 700 บาท หรือประมาณ 100 เท่า ของราคาที่รับซื้อจากชาวบ้าน
ด้าน นายสงคราม ขาวสะอาด ผู้อำนวยการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 กล่าวว่า ขอฝากถึงกลุ่มขบวนการลักลอบค้าไม้เศรษฐกิจไม้มีค่า นำออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบขั้นตอนทุกกระบวนการของท่าน ขอให้ท่านหยุดการกระทำของท่าน เนื่องจากเป็นการทำร้ายทรัพยากรธรรมชาติที่ควรเป็นมรดกของชาติ และจากการตรวจสอบพบว่า ไม้ท่อนทั้งหมดเป็นไม้ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงได้ร่วมกันตรวจวัดปริมาตร และตรวจยึดไม้ของกลาง โดยใช้ดวงตรา ต.8334 ย.1114 ปี ย่อ ตีประทับไว้หน้าตัดของไม้ทุกท่อน จึงได้นำตัวนายสุรินทร์ พร้อมของกลาง ส่ง ร.ต.อ.นัธทวัฒน์ สมแสง พงส.สภ.เวียงสา จ.น่าน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
...