สืบสวนภูธรภาค 1 และตำรวจปทุมธานี บุกรวบตัว 3 สมาชิกแก๊งสังหารเสี่ยโก้ โดยมือปืนรับค่าจ้าง 3 แสนบาท ปมเรื่องชู้สาว ผู้ต้องหาไม่สมัครใจทำแผนที่เกิดเหตุ โดยนายอภิชาติมีปัญหากับผู้ตายในเรื่องหญิงสาวที่ติดพัน ที่มากับผู้ตายวันเกิดเหตุ

จากกรณีมือปืนรัวยิงนายอภิชัย อุดมผล อายุ 40 ปี หรือ เสี่ยโก้ ราชบุรี อาชีพเลี่ยงวัวและไก่ชน ชาวบ้าน หมู่ 5 ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี คารถเบนซ์ สปอร์ต รุ่น AMG eLc สีดำ หมายเลขทะเบียน ฆฆ 5454 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดหน้าสนามไก่ชน ดีดีอนันตชัย หมู่ 1 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 เวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหลุมแก้ว คาดคนร้ายเป็นมือปืนรับจ้างมุ่งสาเหตุหลายประเด็น ชู้สาว และขัดแย้งเรื่องส่วนตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 18 สิงหาคม 2566 พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 พ.ต.อ.ธงรบ แจ้งจิต ผกก.สส.บก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.วรยุทธ พงษ์ต้น ผกก.สภ.ลาดหลุมแก้ว พ.ต.ท.ปัญญา เหล็กดี รอง ผกก.สอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว พ.ต.ต.อนุส วิทธาภรณ์ สว.สส.สภ.ลาดหลุมแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 พร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อม 3 จุด หมู่ที่ 6 ต.สระพัฒนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อจับกุมมือปืนรับจ้างยิงเสี่ยโก้ ราชบุรี 

จุดแรกเป็นบ่อกุ้ง ในพื้นที่หมู่ที่ 6 จับกุม นายอภิชาติ พัชรการ อายุ 35 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.สระพัฒนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาเป็นคนดูแลบ่อกุ้ง และเป็นพ่อค้าคนกลางส่งกุ้งไปประเทศเมียนมา ตำรวจได้เข้าจับกุมตามหมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 257 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2566 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควรจำเป็นเร่งด่วน

...

จุดที่สองจับกุม นายณัฐวุฒิ กำมะณี อายุ 37 ปี ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ห้วยม่วง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พฤติกรรมเป็นคนชี้เป้า มีอาชีพเปิดคาร์แคร์และเป็นสมาชิก อบต.กำแพงแสน ตามหมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 256 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2566 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควรจำเป็นเร่งด่วน

จุดที่สามจับกุม นายวิจักษ์ สระทองอ่อน อายุ 49 ปี เป็น ชาว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นมือปืนรับจ้างจับกุมพร้อมของกลาง อาวุธปืน ยี่ห้อนอริโก้ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของ นายวิจักษ์ พบว่ามีฉายา "โต้ง บ้านสระ" เคยก่อคดียิง รองนายก อบต.ดอนมะนาว เสียชีวิต นายแหลม ศรีนุ้ย อายุ 44 ปี นายก อบต.ดอนมะนาว บาดเจ็บสาหัส ผู้ต้องหาเพิ่งโทษออกจากคุกได้ 4 ปีสอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพ ได้รับการค่าจ้าง 300,000 บาท ปมสาเหตุเรื่องชู้สาว ผู้ต้องหาไม่สมัครใจทำแผนที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. กระตีบ จับกุมโดยมียาบ้าไว้ในครอบครอง 365 เม็ด พร้อมด้วย อาวุธปืน 1 กระบอก

ทางด้าน พ.ต.อ.ธงรบ แจ้งจิต ผกก.สอบสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า ทั้งสามคนเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน โดยก่อนที่จะมาก่อเหตุ มีสาเหตุโกรธเคืองกันกับผู้ตาย แล้วมีการตกลงกันว่าจะเอาปืนมายิงผู้ตาย โดยทางมือปืนหาจังหวะที่จะมายิงหลายครั้งแล้ว แต่ก็มาสามารถก่อเหตุได้ในพื้นที่ของ สภ.ลาดหลุมแก้ว ซึ่งทั้งสามคนนั้นมีมือปืน 1 คน และมีคนคอยโทรบอกต้นทาง 1 คน ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ร่วมรวบพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด จนพบรถต้องสงสัย แล้วติดตามจนทราบ ว่าคนร้ายคือผู้ต้องหาทั้งสามคน

...

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าที่ทำไปเพราะโกรธแค้นเรื่องผู้หญิง โดยเรื่องเริ่มมาจากนายอภิชาติ ที่มีปัญหากันมาก่อน เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง โดยผู้หญิงที่มีปัญหากันนั้น คือ ผู้หญิงที่นั่งรถมาด้วยกับผู้ตายในคืนวันที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจากคำให้การของนายอภิชาติ ว่ารู้จักกันมาก่อน ด้านผู้หญิงไม่ได้บอกเกี่ยวกับเรื่องนายอภิชาติ ส่วนอาวุธปืนที่สามารถตรวจยึดได้นั้น เป็นปืนยี่ห้อ นอริโก้ ขนาด 9 มม. โดยการวางแผนนั้นก็ไม่มีได้มีอะไรมาก เพราะทั้งสามคนเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ก็ได้นั่งคุยวางแผนกันตามปกติ

...

โดยการเข้าจับกุมนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการแบ่งพื้นที่กันเข้าค้นเป็นจุดๆ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ โดยการจ้างวานนั้นยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยทางผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้รับเงินจ้างวานจากผู้ต้องหาอีกคนหนึ่ง ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยนายวิจักษ์ มือปืน เคยก่อเหตุฆ่าคนตายมาก่อนหน้านี้แล้ว ที่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยพึ่งพ้นโทษมาประมาณ 1 ปี แล้วก็มาก่อเหตุอีก 

หลังจากนี้ก็จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำการฝากขัง แล้วก็จะนำตัวไปขยายผล หาข้อมูลเพิ่มเติมที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้หลักฐานมา ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับทั้งหมดว่า ร่วมกันถ้าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควรจำเป็นเร่งด่วน.