โจรเมืองคอนมาเหนือเมฆ ปฏิบัติการกลางดึกใช้แก๊สเผา-ตัด ตู้เอทีเอ็ม ธ.กรุงไทย อยู่ห่างจากป้อมตำรวจแค่ 100 กว่าเมตร ขโมยเงินสดไปเกือบ 4 แสน หนีลอยนวล 

เวลา 10.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ได้มี นางสาวจันทิรา แซ่หลิ่ม รองผู้จัดการธุรกิจการขาย ธนาคารกรุงไทย เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.จิตรกร คงเหลือ สว.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีเหตุคนร้ายงัดแงะและใช้แก๊สตัดเผาตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย บริเวณสี่แยกบ้านหน้าทัพ หน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 8 ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี หมู่ 15 บ้านหน้าทัพ ต.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งติดตั้งไว้ให้บริการคณะครู อาจารย์ ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปภายในรั้วโรงเรียนดังกล่าว  

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตู้เอทีเอ็มดังกล่าว พบติดตั้งริมกำแพงด้านหน้าโรงเรียน ด้านข้างเป็นรั้วอิฐบล็อก สามารถปีนเข้าไปได้ ด้านริมฟุทปาทหน้าโรงเรียน ตู้ยังอยู่ในสภาพปกติ ส่วนด้านหลังพบร่องรอยคนร้ายปีนกำแพงด้านข้างเข้าไปใช้แก๊สตัดกุญแจจำนวน 2 ตัวออก แล้วคนร้ายซึ่งมีความชำนาญในการตัดแก๊ส ได้เข้าไปตัดกล่องเหล็กบรรจุเงินสด ทำการโจรกรรมเงินสดไปได้จำนวนหนึ่ง

เบื้องต้นพบร่องรอยการงัดแงะและตัด โดยใช้แก๊สที่เตรียมมาเผาตัดอุปกรณ์ชิ้นส่วนของตู้เอทีเอ็ม จนสามารถแยกยกออกมาจากฐานที่ติดตั้งและเอาเงินในตู้ก่อนหลบหนีไป ทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ถ่ายรูปและเก็บลายนิ้วมือของคนร้ายอย่างละเอียด ก่อนจะนำอุปกรณ์ชิ้นส่วนตู้เอทีเอ็มกลับมาที่ สภ.ท่าศาลา และเชิญพนักงานเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทยมาสอบปากคำ พร้อมกับตรวจกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และตามเส้นทางในละแวกใกล้เคียง เพื่อรวบรวมหลักฐาน ติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป

จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ธนาคาร ให้การว่า เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ธนาคารได้นำเงินมาใส่ในตู้เอทีเอ็ม โดยรถนิรภัยของธนาคารจำนวน 6,240,000 บาท คาดว่าในเวลาประมาณ ตี 1-2 วันที่ 17 ส.ค. 2566 คนร้ายได้ปีนข้ามรั้วกำแพงโรงเรียนด้านข้างเข้ามาปฏิบัติการงัด ใช้แก๊สตัดเผาด้านหลังตู้โจรกรรมเงินสดในตู้เอทีเอ็มและหลบหนีไป ทิ้งอุปกรณ์ชิ้นส่วนตู้เอทีเอ็มไว้ให้ตำรวจดูต่างหน้า  

...

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ายังมีเงินในตู้เหลือ 4,588,800 บาท ถูกประชาชนกดถอนไปก่อนหน้า 1,254,200 บาท สรุปเงินที่คนร้ายนำเงินสดได้ไป 397,000 บาท ส่วนราคาตู้เอทีเอ็มเสียหาย 250,000 บาท รวมค่าเสียหายเบื้องต้น 647,000 บาท  ทาง พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับรายงานเหตุการณ์ สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสอบสวนสืบสวนแกะรอยติดตามคนร้ายและจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พร้อมมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สส.บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จัดกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดี และติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ กล้าลงมือก่อเหตุแม้จะอยู่ริมถนนสายหลักและอยู่ห่างจากป้อมตำรวจสี่แยกหน้าทัพเพียง 100 เมตรเศษเท่านั้น 

ล่าสุด ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง พบว่าคนร้ายมาด้วยกัน 2-3 คน ใช้รถกระบะ 4 ประตู ไม่ทราบสีและยี่ห้อ.