หนุ่มอุดรฯ เสพยาบ้าแล้วเกิดหลอนไม่หลับไม่นอน 3 คืน เดินถือมีดแหลมกระหน่ำแทงน้าเขย 18 แผลจนไส้ทะลักนอนตายคากระท่อม แม่จับตัวรอส่งตำรวจนายูงดำเนินคดี ก่อนนำเข้าห้องขังให้อารมณ์เย็นลงค่อยสอบสวน

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2566 พ.ต.ต.สมิง โถทอง สว.(สอบสวน) สภ.นายูง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนคลุ้มคลั่งใช้มีดแทงคนเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านเพิ่ม ต.นาแค จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประลอง พรหมศร ผกก.สภ.นายูง นำกำลังตำรวจ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.บ้านยูง อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาจุดนายูง รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเป็นบ้านสองชั้นไม้ครึ่งปูน ที่กระท่อมหลังบ้าน เป็นกระท่อมไม้ไผ่ยกพื้นสูงประมาณ 50 ซม. เปิดโล่งมุงด้วยหญ้าคา

จนท.พบศพ นายคำแว่น แขงเขา อายุ 75 ปี เจ้าของบ้านนอนหงายจมกองเลือดอยู่บนที่นอน สภาพสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ พบมีดแหลมสำหรับเดินสนาม ยาวประมาณ 1 ฟุต วางอยู่บนกระท่อมจากการชันสูตรพบถูกแทงตามร่างกาย จำนวน 18 แผล ทั้งลำคอ หัวไหล่ซ้าย ราวนมซ้าย หน้าท้องหลายแผลจนไส้ทะลัก ข้อมือทั้งสองข้าง หน้าแข้งซ้าย ส่วนมือมีด คือ นายพิทักษ์ ไชยนนท์ อายุ 33 ปี หลานชายเมียผู้ตาย ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน หลังก่อเหตุได้เดินหลบหนีไปบ้าน โดยมี นางกงจักร ไชยนนท์ อายุ 57 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ ได้ควบคุมตัวลูกไว้ไม่ให้หลบหนี ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว

...

โดยนายพิทักษ์ให้การไม่รู้เรื่อง ถามหาสาเหตุที่แทงนายคำแว่น ก็ไม่ยอมบอก ได้แต่บ่นพึมพำจับใจความไม่ได้ ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ควบคุมตัวพร้อมมีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุ ไปโรงพัก และนำตัวเข้าห้องควบคุมเพื่อสงบสติอารมณ์ เมื่ออาการดีขึ้นจะได้นำตัวมาสอบสวน

นางหนูรัก แขงเขา อายุ 55 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายกลับมาจากกรีดยาง จึงอาบน้ำและนอนพักอยู่ในกระท่อม ส่วนตนกำลังนึ่งข้าวหุงหาอาหาร เสร็จแล้วจะปลุกผู้ตายมากิน ต่อมานายพิทักษ์ ซึ่งเป็นลูกพี่สาวตน มีบ้านอยู่ติดกัน ได้เดินมาถามหาผู้ตาย ตนจึงบอกว่านอนอยู่บนกระท่อม นายพิทักษ์ได้เดินขึ้นไปกระท่อม จากนั้นก็คร่อมแทงผู้ตายขณะนอนหลับไม่ยั้ง ตนเห็นเหตุการณ์ก็ได้แต่ร้องให้คนมาช่วย แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้ พอแทงจนหนำใจ นายพิทักษ์ก็ทิ้งมีดแล้วเดินกลับไปบ้าน ส่วนสามีของตนก็ตายคาที่

“ทั้งผู้ตายและผู้ก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน รักใคร่กันดี ทำให้ไม่รู้ว่าโกรธแค้นกันเรื่องอะไร ส่วนสาเหตุ เชื่อว่านายพิทักษ์เสพยาบ้าและไม่หลับไม่นอนมา 3 คืนแล้ว กระทั่งมาก่อเหตุแทงสามีตน” จากนั้นได้ไปจุดธูปบอกผู้ตายให้ไปสู่สุคติ ให้หมดเวรกรรมต่อกัน ไม่ต้องไปจองเวรกับหลาน ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย” ภรรยาของผู้ตาย กล่าว

ด้าน นางกงจักร ไชยนนท์ อายุ 57 ปี แม่นายพิทักษ์ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ผู้ตายเป็นน้องเขยตน ส่วนนายพิทักษ์เป็นหลาน นายพิทักษ์มีอาชีพทำสวนยาง เคยแต่งงานและมีลูก 1 คน ซึ่งครอบครัวกำลังอยู่ในช่วงสร้างฐานะ แต่เมื่อ 2 ปี ก่อนนายพิทักษ์จับได้ว่าภรรยาปันใจให้ชายอื่น และขอแยกทาง ทำให้นายพิทักษ์เสียใจ คิดมาก เก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่ยอมสุงสิงกับใคร ต่อมามีเพื่อนมาชวนไปกินเหล้าเพื่อคลายเครียด ต่อมาเพื่อนก็ชวนเสพยาบ้า ทำให้ลูกชายมีอาการหลอน ตนจึงโทรบอกลูกสาวซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัดให้มาเกลี้ยกล่อมให้พี่ชายไปบำบัดรักษา แต่นายพิทักษ์ไม่ไป และพยายามฆ่าตัวตาย แต่ตนก็ดูแลลูกไม่ยอมห่างจนสงบ ไม่มีอาการหลอน คลุ้มคลั่ง หรืออาละวาด

...

แม่ของผู้ต้องหา กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนให้นายพิทักษ์เอากล้วยไปให้ยาย แต่นายพิทักษ์หายไปนานผิดปกติ พอกลับมาบ้าน ก็ไม่ยอมหลับยอมนอน 3 วัน 3 คืน และบอกว่าอยากตาย พอตนคาดคั้นนายพิทักษ์โดยบอกว่าเสพยาบ้ามาก่อน เช้าวันนี้นายพิทักษ์จะกินข้าว ได้เดินไปเก็บมะนาวที่บ้านผู้ตาย 2 ลูกกลับมาบ้าน แต่ได้ถือมีดแหลมเดินออกไปจากบ้านอีก โดยตนไม่รู้ว่าถือออกไปทำไป ต่อมาได้ยินเสียงน้องสาวร้องขอความช่วยเหลือ จึงวิ่งเข้าไปดูเห็นนายพิทักษ์แทงนายคำแว่น และเดินออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุ ตนก็วิ่งไปกอดนายพิทักษ์ไว้ให้เข้าบ้าน เพราะเกรงว่าจะไปก่อเหตุทำร้ายคนอื่นอีก พร้อมกับแจ้งตำรวจให้มาจับกุมตัวไปดำเนินคดี

...

“ผู้ตายเป็นน้องเขย ซึ่งไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับลูกตนเลย ทั้งสองพูดจาถูกคอกันดี นอนดูมวยตู้ด้วยกันตลอด อีกทั้งน้องสาวของตนก็รักหลานซึ่งเป็นลูกนายพิทักษ์ ตนอยากขอโทษน้องสาวและน้องเขย ได้พยายามจะพาลูกไปโรงพยาบาลเพื่อบำบัดรักษา แต่ลูกไม่ยอมไป พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร นอกจากเสียใจ เพราะเป็นญาติพี่น้องกัน” นางกงจักร กล่าว

ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านนางกงจักร ที่เปิดเป็นร้านขายของชำ สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่นายพิทักษ์ เดินถือมีดออกจากบ้านไปก่อเหตุ สักพักก็ได้สินเสียงนางหนูรักร้องโวยวาย นางกงจักร และชาวบ้านวิ่งเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ ต่อมานายพิทักษ์ได้เดินออกมา นางกงจักรจึงเดินประคองนายพิทักษ์ไปนั่งที่หน้าร้านขายของชำ.