ผบก.น.2 แถลงรวบหนุ่มช่างทำกรอบประตูหน้าต่างกระจกอะลูมิเนียม ที่ก่อเหตุชิงทอง 28 บาท จากร้านเพชรทองออโรร่า ย่านสุขาภิบาล 5 โดยตามรวบตัวได้หน้าอาบอบนวดย่านเพชรบุรี ได้ทรัพย์สินของกลางกว่า 1 ล้าน พรุ่งนี้คุมตัวฝากขัง และจะยื่นค้านประกัน

กรณีเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองรูปพรรณและเงินสด ภายในร้านเพชรทองออโรร่า ห้างบิ๊กซี ฟู้ดเพลส สุขาภิบาล 5 ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดเกือบ 200,000 บาท และทองรูปพรรณน้ำหนัก 28 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 1 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานของศาลอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุคือ นายวินัย ขันอาษา อายุ 40 ปี ข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ก่อนจะจับกุมตัวมาได้ในที่สุด

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ส.ค.2566 ที่ สน.สายไหม พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 แถลงผลจับกุม นายวินัย พร้อมของกลางทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 28 บาท เงินสดจำนวน 6,000 บาท ระเบิดปลอม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และชุดที่ใช้ในการก่อเหตุ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้ที่ใกล้สถานบริการอาบอบนวดแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.

...

พล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมีอาชีพรับทำกรอบประตูหน้าต่างกระจกอะลูมิเนียม มีครอบครัวภรรยา 1 คน ลูก 3 คน แต่ว่าติดการพนันออนไลน์เป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาท จึงนำเงินมัดจำของลูกค้าไปใช้หนี้พนันจนเงินหมุนไม่ทัน เมื่อลูกค้าทวงถามจึงทำให้เกิดความกดดันจึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว ใช้เจลแอลกอฮอล์ผสมทินเนอร์เข้าไปขู่พนักงานในร้านทองว่าจะเผาร้าน หลังก่อเหตุหลบหนีโดยขับรถกระบะนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีเทา-ดำ ทะเบียน 2 ฒษ 9666 กรุงเทพมหานคร ขับรถวนไปในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ก่อนจะขับรถวนกลับมาหาเพื่อนที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ใกล้แฟลตตำรวจ สน.โคกคราม ซอยรามอินทรา 31 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เพื่อขออาศัยนอนค้าง 1 คืน

ผบก.น.2 กล่าวต่อว่า จากนั้นคนร้ายได้อาศัยจังหวะที่ตัวเองเข้าห้องน้ำ นำทองรูปพรรณของกลางบางส่วนที่ชิงทรัพย์ไปได้ ซุกซ่อนไว้ในวงกบประตูพลาสติกห้องน้ำ เช้าขึ้นมาเดินทางโดยรถแท็กซี่จะไปหาป้าย่านเอกมัย ทิ้งรถยนต์พาหนะก่อเหตุไว้ที่ลานจอดรถแฟลตตำรวจ สน.โคกคราม ก่อนจะถูกจับกุมได้ที่ย่านเอกมัย ขณะเอาเงินไปเที่ยวอาบอบนวด เมื่อตรวจค้นพบทองรูปพรรณของกลางอยู่ในกระเป๋าสะพาย และเงินสดของกลางอีกจำนวนหนึ่ง โดยนายวินัยอ้างว่าได้นำเงินสดของกลางไปโอนใช้หนี้ค่าวัสดุทำกระจกอะลูมิเนียมจำนวนกว่า 1 แสนบาท

พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำยังพบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้มีการวางแผนจะก่อเหตุถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ ครั้งแรกจะก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารแห่งหนึ่งย่านถนนรามอินทรา กม.4 โดยเตรียมระเบิดเวลาปลอมไว้ก่อเหตุ แต่ต้องเปลี่ยนใจล้มเลิกไป เพราะแม่โทรศัพท์มาหาพอดี ส่วนครั้งที่ 2 เตรียมก่อเหตุที่ร้านทองในห้างบิ๊กซี ย่านถนนสุขาภิบาล 5 เช่นกัน แต่ในขณะที่เตรียมก่อเหตุนั้น การจราจรติดขัดจึงตัดสินใจล้มเลิกไป จนกระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้

...

ผบก.น.2 กล่าวด้วยว่า สำหรับทองรูปพรรณที่ถูกที่ถูกชิงทรัพย์ไป ผู้ต้องหาอ้างว่าสามารถนำไปได้ 28 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้เจ้าของร้านทองมายืนยันจำนวนทองรูปพรรณว่าได้ครบถ้วนหรือไม่ พนักงานสอบสวนระบุว่าเจ้าของร้านยืนยันว่าคนร้ายได้ทองไป 28 บาท เมื่อสอบสวนผู้ต้องหาแล้วเสร็จก็จะนำตัวส่งฝากขังศาลอาญารัชดาในวันพรุ่งนี้ โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว.