ตม.สุรินทร์ จับหนุ่มเวียดนามวัย 18 พบเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดนโขกสับและเรียกเงินค่าหัวแสนกว่าบาท เพื่อแลกเปลี่ยนอิสรภาพ แต่ไม่มีเงินให้ เลยเผ่นหนี หลงทาง อดข้าวอดน้ำ ซ่อนในป่า 3 วัน กระทั่งให้ชาวบ้านพาส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภายใต้นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.  พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ท.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4  พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวาลกุล  พ.ต.อ.มนูวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม.4 ให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมาย

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 8 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สุรินทร์ บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานสังกัดกองร้อยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ฐานภูหลวง จับกุมนายโง ตงห่าว อายุ 18 ปี สัญชาติเวียดนาม ไม่มีหนังสือเดินทาง 

จากการสอบถามนายโง ตงห่าวให้การว่า ตนเองเป็นชาวเวียดนาม มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัด ตราวินห์ (Tra Vinh) ประเทศเวียดนาม ลักลอบเดินทางเข้ามาทำงานเกี่ยวกับแอดมินหน้าคอมฯ (Call Center) ในประเทศกัมพูชา หัวหน้าแก๊งเป็นชาวจีน เรียกเงินค่าหัวแสนกว่าบาทเพื่อแลกกับอิสรภาพ ตนเองไม่มีเงินให้ เลยหลบหนีฝ่าความมืด หนีฝ่าป่าชายแดนเข้าไทย 

...

ซึ่งหลังจากได้ทำงานประมาณ 2 เดือน ตนเห็นว่าไม่สามารถทำงานต่อไปได้ อีกทั้งไม่มีเงินจ่ายเป็นค่าหัวให้แก่หัวหน้าแก๊งคนจีน จึงหลบหนีออกมาเพื่อหาทางกลับประเทศเวียดนาม เดินหลงทาง อดข้าวอดน้ำ และหลบซ่อนในป่าชายแดนประมาณ 3 วัน จนกระทั่งพบชาวบ้านที่พามาส่งให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าว   

จากการตรวจสอบข้อมูลและเปรียบเทียบใบหน้าด้วยระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) ของ สตม. ไม่พบข้อมูลการเดินทางหรือข้อมูลใดๆ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ทราบว่าการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่มีหนังสือเดินทาง ไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้คนต่างด้าวทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงบันทึกจับกุมและควบคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.กาบเชิง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.