พ่อแม่ระทมทุกข์ พาลูกชายวัย 18 ปี บุกร้องกองปราบ ถูกยิงบาดเจ็บจนต้องตัดแขน แจ้งความท้องที่นาน 2 เดือน คดีไม่คืบ หวั่นถูกตามมาทำร้ายซ้ำ จึงอยากให้ "บิ๊กตำรวจ" ที่รับผิดชอบเร่งรัดจับคนร้ายมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ส.ค. 66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พาครอบครัวผู้เสียหายวัย 18 ปี ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จนต้องถูกตัดแขน เข้าร้องขอความเป็นธรรมตำรวจกองปราบปราม
พ่อแม่และพี่สาวผู้เสียหาย เล่าว่า ลูกชายได้ไปนั่งดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน ร้านอาหารแถวสายไหม นั่งคุยกันในกลุ่ม ซึ่งมีคำด่าคำหยาบระหว่างคุยกัน พอคนที่ยิงได้ยิน เขาคิดว่าไปด่าเขา ระหว่างทางกลับบ้านตรงแยกตลาดวงศกร คนยิงได้ขับรถมาถามกลุ่มผู้เสียหายว่า "มึงด่ากูเหรอ" แต่กลุ่มผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ได้ด่า แต่ทางฝั่งคนยิงไม่พอใจ ก็เลยขับรถตามมาประกบแล้วชักปืนมายิงทั้งหมด 5 นัดใส่รถ จากนั้นจึงขับรถไปและย้อนกลับมายิงใหม่อีกครั้ง 3 นัด โดนผู้เสียหายบริเวณแขนขวา 1 นัด และขาขวา 2 นัด
หลังจากเกิดเหตุ พลเมืองดีพาส่งตัวไป รพ.สายไหม ก่อนส่งต่อไป รพ.ภูมิพล จากนั้นได้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเลือดใส่เส้นเลือดเทียม แต่ลิ่มเลือดได้อุดตันในเส้นเลือดเทียมเลยทำให้กล้ามเนื้อตั้งแต่ข้อศอกลงไปถึงมือตาย ต้องตัดแขนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 เดือนกว่า
...
ทางครอบครัวผู้เสียหายได้มีการแจ้งความกับทาง สน.สายไหม ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ที่ผ่านมามีการสอบถามเรื่องคดีความกับตำรวจที่ สน.สายไหม แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ได้แต่คำตอบเดิมๆ ซ้ำๆ ว่ากำลังตามอยู่ทุกครั้งที่โทรไป ตอนนี้จะ 2 เดือนแล้วยังไม่ได้ความคืบหน้าของคดีเลย
ในขณะที่ทางผู้ก่อเหตุยิงยังลอยนวลใช้ชีวิตปกติ แต่ลูกชายตนต้องพิการตลอดชีวิต ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่มีงานทำ แถมยังต้องนั่งเครียดว่าจะถูกทำร้ายซ้ำอีกด้วย ทางครอบครัวหวั่นว่าถ้าเกิดผู้ก่อเหตุเห็นลูกชายตน อาจจะเข้ามาทำร้ายอีก จึงอยากเรียกร้องให้กองปราบช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมกับลูกชายตนด้วย
จ่าทิม กล่าวว่า ฝากถึงนายตำรวจผู้ใหญ่ทั้งของ ตร. บช.ก. และ บช.น. ที่รับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมคนยิงจนเด็กอายุ 18 ปี ที่ต้องร่ำเรียนหนังสือ กศน.ใช้เวลาว่างรับจ้างเป็นช่างไฟฟ้า หารายได้ช่วยครอบครัวต้องมาพิการ ถูกตัดแขนเพราะถูกคนยิง เอาตัวมาดำเนินคดีโดยไวเพื่อครอบครัวเขาจะได้สบายใจไม่หวาดระแวงอันตรายแบบนี้
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายเพื่อประสานด้านคดีกับท้องที่ สน.สายไหมต่อไป