ทหารหนุ่มสุดช้ำ ฝากบิ๊กไบค์ราคาเฉียดล้านให้ญาติดูแล แต่กลับถูกแอบเอาไปจำนำไว้กับ "สิบตำรวจเอกขาใหญ่" ในจังหวัดเชียงราย พอไปถามไถ่คืนกลับบ่ายเบี่ยง อ้างรถอยู่ที่นายทุนชาวมาเลย์ ให้ไปตามเอาเอง หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังขึ้นโรงพักไปแจ้งความ กลับถูกนายตำรวจคนดังกล่าวไปสร้างเรื่องให้กลายเป็นผู้ร้าย พัวพันแก๊งธุรกิจมืด จนถูกต้นสังกัดเรียกสอบ
วันที่ 7 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีที่มีผู้นำเรื่องราวของนายทหารรายหนึ่งที่ถูกญาตินำเอารถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่ฝากไว้ แอบนำไปวางจำนำไว้กับนายตำรวจของโรงพักแห่งหนึ่ง โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบ พอมารู้ทีหลังและไปตามรถคืน กลับถูกบ่ายเบี่ยง อ้างรถไปอยู่กับนายทุนกลุ่มอื่น และให้ไปติดตามเอาเอง ล่าสุดนายตำรวจรายดังกล่าวได้โยกย้ายเข้ามาในเมือง ก็หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม และอยากได้รถคืน จึงนำเรื่องราวไปเผยแพร่ และมีผู้นำไปโพสต์ลงโซเชียลดังกล่าว
ขณะที่ข้อมูลจากโพสต์ต้นเรื่องระบุว่า #ตำรวจยศสิบตำรวจเอกใหญ่ค้ำฟ้าในจังหวัดเชียงราย# เรื่องมีอยู่ว่า น้องทหาร เอารถไปฝากจอดไว้กันน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ในจังหวัดเชียงราย รู้จักและสนิทกัน แล้วเข้าค่ายไปเป็นทหารรับใช้ชาติ ตอนที่อยุ่ในค่าย น้องผู้หญิงคนนี้ได้แอบ เอารถไปจำนำกับ สิบตำรวจเอก สภ.เวียงชัย 5 หมื่น เพราะสิบเอกคนนี้รับจำนำรถ และปล่อยเงินกู้รายใหญ่ ในจังหวัดเชียงราย มาหากินในเชียงราย ไม่มีใครกล้าแตะ พอน้องทหารออกจากค่าย ถามหารถ น้องผู้หญิงก็บอกว่าเอารถไปจำนำกับสิบตำรวจเอกคนนี้ น้องก็ไปขอไถ่รถออก สิบตำรวจเอกบอกว่า เขาไม่ได้อยุ่กับแก๊งนี้แล้ว เขาออกจากแก๊งนี้มาแล้ว มาตั้งแก๊งใหม่ บอกรถไปใหนก็ไม่รู้
รถราคา 5-6 แสนครับตัวท๊อป สิบตำรวจเอก บ่ายเบี่ยงอย่างเดียว น้องผู้หญิง เลยไปแจ้งความจับสิบตำรวจเอกคนนี้แล้ว ที่ สภ.เชียงราย แต่เรื่องก็เงียบ ผมมีคลิปเสียง และคลิปVDO ของสิบตำรวจเอกที่ใหญ่ค้ำฟ้า ในจังหวัดเชียงราย คนนี้หมด ผมจะดูว่า ถ้าน้องไม่ได้รถคืน เรื่องถึงผู้ใหญ่และถึงผู้บัญชาการแน่นอน .น่าสงสาร พ่อแม่ ที่ส่งลูกไปเรียนในจังหวัดเชียงราย คือลูกบางคนติดการพนัน บ้างคน ติดเที่ยวบ้าง ก็เอารถไปจำนำกับสิบตำรวจเอกคนนี้ ดอกร้อยละ10 พอไม่มีเงินมาไถ่คืน สิบตำรวจคนนี้ก็ยึดรถ เอาไปขายต่อ ลาวบ้าง พม่าบ้าง โดยไม่สนใจว่ารถมาจากใหน คนที่เดือดร้อนคือผู้ปกครอง เพราะรถบางคัน เป็นชื่อพ่อแม่หมด และเด็กก็หมดอนาคต ที่ติดหนี้ติดสิน ถูกไฟแน้นฟ้อง เป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทำตัวเป็นมาเฟีย ยศสิบตำรวจเอก ถ้ามึงใหญ่ขึ้นมาเป็นนายดาบเป็นนายร้อย ธุรกิจมึงต้องใหญ่ค้ำฟ้าแน่ๆ ผมว่าเรื่องนี้ ถ้าถึงผู้บัญชาการภาค5 ต้องเรียกประชุมเอาเรื่องแน่ครับ ผมมีหลักฐานและคลิปเสียงสิบตำรวจเอกคนนี้หมดครับ สงสารเด็กและผู้ปกครองในจังหวัดเชียงราย ที่ต้องมาติดหนี้ติดสิน ที่ลูกเอารถไปจำนำและไปกู้เงินมา พ่อแม่ต้องมาทำไร่ทำนาใช้หนี้ครับ แต่ในเชียงราย ตำรวจดีๆคนดีก็มีเยอะครับ เพื่อนผมหลานผม ก็เป็นตำรวจในเชียงราย แต่ไม่เคยขูดรีดประชาชนและไม่เคยทำผิดแบบนี้ อย่าปล่อย โจรในเครื่องแบบลอยนวล งานนี้ขอให้เข้าหูผู้การเชียงรายด้วยครับ...?
...
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับ ส.อ.ณรงค์ชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาว อ.เมือง จ.เชียงราย ได้เล่าว่า เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ย. 65 ตนต้องไปทำธุระตามหน้าที่ที่ จ.พิษณุโลก จึงนำเอารถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อคาวาซากิ นินจา ZX 636 ซีซี. สีเขียวดำ ทะเบียน 1 กบ 9955 พิษณุโลก ราคาประมาณ 7 แสนบาท ไปฝากไว้กับญาติชื่อ น.ส.กันต์สินี ศรีสุวรรณ อายุ 32 ปี ที่อยู่ 252 ม.5 ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ซึ่งเปิดร้านขายอาหารตามสั่งอยู่ที่ชุมชนบ้านน้ำลัด ม.3 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพราะที่ตนพักอยู่มีแมวอยู่เยอะ ไม่อยากจอดทิ้งไว้ และต่อมาหลังจากเสร็จภารกิจก็ได้กลับมาเอารถ แต่ลูกพี่ลูกน้องที่ตนเอารถไปฝากไว้กลับนำรถไปจำนำไว้กับ ส.ต.อ.สิวธีร์ จิตร์ตรง ซึ่งขณะนั้นเป็นตำรวจ สภ.เวียงชัย โดยทีแรกบอกว่าไปจำนำไว้ในราคา 20,000 บาท แต่มารู้ในภายหลังว่าจำนำในราคา 50,000 บาท
เมื่อไปติดต่อสอบถามเพื่อขอดูรูปรถ ก็พบว่ามีการนำรถไปขี่ เพราะก่อนไปตนจำได้ว่าเลขไมล์รถอยู่ที่ 400 กม. แต่ที่เขาถ่ายให้ดูเลขมันขึ้นไปเกือบ 1,000 กม. แสดงว่ามีการนำรถไปขับขี่ และพอนานๆ ไป ตนต้องการไถ่ถอนรถคืน ก็กลับถูกบ่ายเบี่ยง อ้างว่ารถถูกนายทุนอีกรายซึ่งเป็นชาวมาเลเซียเอาไปแล้ว ให้ไปตามเอาเอง ตนเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตำรวจนายดังกล่าวเป็นผู้มีอิทธิพล ขับรถบีเอ็ม ทั้งที่มียศแค่นายสิบตำรวจ ปัจจุบันยังย้ายมาอยู่ที่ สภ.เมืองเชียงราย และหลังจากตนไปแจ้งความ กลับถูกนายตำรวจคนดังกล่าวไปอ้างว่าตนพัวพันกับแก๊งธุรกิจมืด จนถูกต้นสังกัดเรียกสอบ จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรม และต้องการรถคืน เพราะยังผ่อนไปได้ไม่กี่เดือน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปสอบถามกับตำรวจเจ้าของคดีที่ สภ.แม่ยาว ระบุว่าคดีนี้นานมากแล้ว และอ้างว่าผู้เสียหายไปเคลียร์กันไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่จากที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายทหารที่เป็นเจ้าทุกข์เกี่ยวกับข้อเท็จจริงดังกล่าว พบว่าคดีนี้ยังไม่จบ ผู้เสียหายยังไม่ได้รถบิ๊กไบค์คืน และยืนยันว่าก่อนเกิดเรื่องไม่เคยรู้จักกับ ส.ต.อ.คนดังกล่าวมาก่อน
ส่วนรถบิ๊กไบค์ก็ดาวน์มาในราคา 30,000 บาท ใช้เงินจากน้ำพักน้ำแรง และยืนยันว่าไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับขบวนการสีเทาแต่อย่างใด ตนเชื่อว่าคดีนี้ ส.ต.อ.น่าจะเป็นนายทุน หรือนกต่อในแก๊งปล่อยเงินกู้และรับจำนำรถหรือไม่ จึงทำให้ ส.ต.อ.คนดังกล่าวยังคงลอยนวล ไม่มีใครสามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ และทราบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อเงินกู้รายนี้ที่ได้รับความเดือดร้อน.