"ไอ้เบส" ปืนโหด ชักลูกซองยิงเพื่อนดับคาหน้าบ้าน หลังเกิดปากเสียง แล้วผู้ตายถาม "รู้ไหม กูเป็นใคร" จากนั้นซิ่งจยย.หลบหนี พบว่าผู้ตายไปทวงเงินค่าประกันตัวที่ถูกจับเรื่องปืน
เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 5 ส.ค. 66 ร.ต.อ.วินัย เกิดสุวรรณ รอง.สว.สอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบนถนนภายในซอยการุณราษฎร์ 33 เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.ยศ ชาวเรา รอง ผกก.สส., เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุอยู่หน้าทาวน์เฮาส์ ตรงข้ามบ้านเป็นพื้นที่ว่างถูกปิดล้อมด้วยรั้วสังกะสี พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายศุภชัย หรือ บอย หลีเจี้ยง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.8 ต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี สวมเสื้อยืดสีดำ คลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตพรรครวมไทยสร้างชาติ นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น ใส่รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าคาดอก ภายในกระเป๋ามีกระสุนปืนลูกซอง 1 นัด ในมือถือแก้วใส่น้ำกระท่อม มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่กลางหน้าผากเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แผล ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ภายในรั้วบ้านพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่แผ่นสังกะสีตรงข้ามบ้านพบร่องรอยกระสุน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นทราบว่า หน้าบ้านที่เกิดเหตุมีนายอาทิตย์ หรือ เบส อายุ 27 ปี เป็นผู้เช่า ก่อนเกิดเหตุเพื่อนบ้านได้ยินเสียงคนทะเลาะกันที่หน้าบ้าน เข้าใจว่านายศุภชัย ผู้เสียชีวิต ได้มาหานายเบส และมีการโต้เถียงทวงถามปืน โดยชาวบ้านอ้างว่าได้ยินเสียงผู้ตายถามนายเบสว่า "รู้ไหม กูเป็นใคร" กูขับรถให้ สจ. (ปัจจุบันเป็น สส.) จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนเสียงโต้เถียงจะเงียบลง และไม่นานก็ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับออกไปจากที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีใครออกมาดู เนื่องจากที่บ้านหลังดังกล่าวมักจะมีเหตุทะเลาะวิวาทหรือโต้เถียง ส่งเสียงดังกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งมีผู้มาพบศพนายศุภชัย เสียชีวิตอยู่บนถนนดังกล่าว
...
อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า นายศุภชัย ผู้เสียชีวิต กับนายเบส ผู้ต้องสงสัยเป็นเพื่อนกัน และทำงานเป็นพนักงานรับรถที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งด้วยกัน และก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา นายเบส ถูกตำรวจจับกุมในข้อหาครอบครองอาวุธปืน และนายศุภชัย ผู้ตายเป็นผู้นำเงินไปประกันตัวนายเบส จึงคาดว่าสาเหตุการโต้เถียงน่าจะมาจากการทวงถามเงิน และเชื่อว่าขณะเกิดเหตุผู้ตายและผู้ก่อเหตุน่าจะอยู่ในอาการเมาอัลปราโซแลม เนื่องจากทั้งคู่มีประวัติใช้สารออกฤทธิ์ต่อประสาทดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนเร่งรวมรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับนายเบส ผู้ก่อเหตุ และติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป