นนทบุรี ผกก.บางบัวทองยัน ชายฉกรรจ์ 3 คนตรวจร้านนวด เป็นตำรวจจริง อยู่หน่วย บก.ปคม. น่าจะมาช่วยกันทำงานในพื้นที่ ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ ชี้มีอำนาจตรวจสอบตามกฎหมาย ด้านเจ้าของร้านวอนเห็นใจ ยอมรับรู้สึกไม่ดี ตกใจมาก อยากให้มีมาตรการที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่มาพูดจาเสียงดัง บอกมาหาจับต่างด้าว

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานนี้ เมื่อช่วงเย็นสี่โมงวานนี้ (28 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านสบายสบายนวดไทย นวดเพื่อสุขภาพ หมู่ 3 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีร้านดังกล่าวถูกชายฉกรรจ์ 3 คน ขับรถกระบะตราโล่ ข้างรถแปะสติกเกอร์ บก.ปคม. โทร. 1191 โดยชายทั้ง 3 คน แต่งกายคล้ายตำรวจเข้าไปขอตรวจใบอนุญาตและตรวจสอบเเรงงานต่างด้าวภายในร้าน แต่ไม่มีเอกสารทางราชการใดๆ มาเเสดง จึงทำให้เจ้าร้านรู้สึกไม่ปลอดภัย เกรงว่าจะเป็นพวกมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหาผลประโยชน์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.30 น.

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 1 คูหา ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ชายฉกรรจ์ 3 คน ตัดผมเกรียนแต่งกายคล้ายตำรวจ ขับรถกระบะตำรวจติดสติกเกอร์ บก.ปคม. เดินเข้ามาภายในร้านนวด จากนั้นได้พูดคุยกับเจ้าของร้านและขอดูเอกสารใบอนุญาตต่างๆ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงพากันเดินออกไป 

...

ขณะเดียวกัน พ.ต.ต.สีน้ำ นิยมพลอย สวป.สภ.บางบัวทอง ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด และได้แนะนำเจ้าของร้านหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกให้รีบแจ้งตำรวจในพื้นที่ทันที 

น.ส.ปนัตตา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เจ้าของร้านนวด กล่าวว่า เขามากัน 3 คน มาขอดูใบอนุญาตเปิดร้าน ซึ่งที่ร้านมีใบอนุญาตทุกอย่าง ตนก็เลยถามกลับไปว่าพี่มีใบที่จะขอเข้ามาตรวจร้านหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่จำเป็นไม่ต้องใช้หรอก ซึ่งตอนนั้นเขาก็บอกว่ามาจากหน่วยไหน แต่จำชื่อไม่ได้ว่ามาจากหน่วยไหน ที่ร้านเปิดมานานกว่า 10 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเรามีใบอนุญาตทุกอย่าง จ่ายค่าภาษีป้าย ภาษีต่างๆ และมีใบอนุญาตนวดถูกต้องตามกฎหมาย แต่คุณมาในรูปลักษณ์แบบนี้แล้วบอกว่า มาหาจับต่างด้าว ซึ่งมันไม่ใช่ แล้วมาตอนเที่ยงหรือบ่าย แล้วให้คิดยังไง พวกคุณมากัน 3 คน แต่ไม่มีบัตรแสดงตัวหรือเอกสารอะไรมาเเสดงเลย และไม่มีการโทร. บอกล่วงหน้า 

“คือถ้าเป็นตำรวจจริงก็อยากให้มีมาตรการอะไรที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่มาในลักษณะแบบนี้ แล้วพอเข้ามาในร้านก็พูดจาเสียงดัง ลูกค้าที่มาใช้บริการเขาก็ต้องการความเงียบ ความสงบ แล้วจะให้เราทำงานได้อย่างไร”

นอกจากนี้ยังมาขอดูบัตรประชาชนพนักงานในร้าน มาขอตรวจต่างๆ นานา ตนจึงบอกว่าไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร อยู่ดีๆ ก็มาขอบัตรประชาชน ถ้าพวกคุณเป็นตำรวจจริงก็ขอให้คุณทำให้ถูกต้อง ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก คุณจะขอตรวจทำไมไม่โทร. มาแจ้งล่วงหน้าก่อน คุณทำกับเราเหมือนเราเป็นผู้ร้ายเลย ดูจากในกล้องคุณเป็นตำรวจแต่ด้อมๆ มองๆ มา เหมือนเราเป็นคนต่างด้าวหรือทำอะไรผิดกฎหมาย แล้วมาบอกขอตรวจอย่างนี้มันไม่ใช่ 

อยากฝากถึงผู้ประกอบการให้ระวังตัวและไปลงทะเบียนให้ถูกต้อง ตนเรียนนวดแผนโบราณมา ทราบดีว่าแรงงานต่างด้าว ไม่สามารถทำงานเกี่ยวกับการนวดได้ ชายฉกรรจ์ที่มาทั้ง 3 คนเขาก็ไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์อะไร แต่ตนก็ต้องระวังตัวเพราะเดี๋ยวนี้มีมิจฉาชีพมาในรูปแบบต่างๆ เยอะมาก ตนทำมาหากินสุจริต ค่านวดชั่วโมงละแค่ 200 บาท จะเอาอะไรกับเรา ช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก 4 ปี ตนก็ไม่ได้เปิดร้านทำให้ขาดรายได้ พอเปิดร้านก็มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ สังคมไทยทุกวันนี้หากินลำบากมาก อยากให้เห็นใจกันหน่อย 

ทางด้าน พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ว่าชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน เป็นตำรวจ สภ.บางบัวทอง นั้น เบื้องต้นได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว พบว่าชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน เป็นตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจน จึงขอให้เจ้าของร้านสบายใจได้ว่าเป็นตำรวจจริง คาดว่าน่าจะมาช่วยกันทำงานในพื้นที่ ไม่มีการเข้าไปเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด เพียงแต่เจ้าของร้านอาจจะตกใจ เพราะช่วงนี้มีข่าวทางโซเชียลออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ 

...

ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวอีกว่า ซึ่งการเข้าไปตรวจสอบดังกล่าวเป็นการปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย จากการเข้าไปตรวจสอบก็ไม่พบการใช้แรงงานผิดกฎหมายหรือการค้ามนุษย์ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบ ว่าตำรวจในพื้นที่ไม่ทราบว่าแต่ละวันจะมีหน่วยงานไหนเข้าไปตรวจสอบที่ไหนบ้าง แต่ถ้ามีการจับกุม ก็จะส่งมาดำเนินคดีที่ สภ.บางบัวทอง หรือถ้าผู้ประกอบการท่านใดสงสัยว่าใช่เจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ให้โทรศัพท์แจ้งสถานีตำรวจในพื้นที่ได้เลย หรือโทร. เเจ้งที่ 191 เราจะส่งตำรวจสายตรวจไปตรวจสอบให้ทันที.