เกิดเหตุสลดนักเรียน ม.2 ที่ อ.พิมาย โคราช แทงรุ่นพี่ ม.4 ดับ คาดปมหึงหวง หลังเลิกกับแฟนสาว แล้วฝ่ายหญิงไปคบกับรุ่นพี่ ทำใจไม่ได้ พกมีดมาโรงเรียนเข้าประชิดตัวแทงทรุดหน้าห้องเรียนดนตรี ถูกนำส่งไป รพ.มหาราชฯ ก่อนจะเสียชีวิต

วันที่ 22 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายรายได้แชร์ภาพแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นที่ โรงเรียนมัธยมดังแห่งหนึ่งใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เป็นเหตุเด็กนักเรียนชายชั้น ม.2 ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงรุ่นพี่ ม.4 ที่หน้าห้องเรียนดนตรีของโรงเรียน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (21 กรกฎาคม 2566) เวลาประมาณ 18.30 น. ท่ามกลางความตื่นตกใจของเพื่อนนักเรียน

จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า น่าจะเป็นเหตุหึงหวนกัน ซึ่งนักเรียน ม.2 หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ได้รีบวิ่งไปเรียกอาจารย์มาช่วยเหลือนักเรียน ม.4 ที่ถูกแทง และเมื่ออาจารย์ผู้สอนมาถึง เห็นเด็กที่ถูกแทงอยู่ในสภาพล้มคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ที่พื้น จึงช่วยกันพลิกตัวขึ้นมา พบว่าตัวเกร็ง ไม่มีสติแล้ว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน รพ.พิมายให้มาช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่รพ.ได้ตรวจสอบบาดแผล พบว่า ชีพจรอ่อนมาก ถูกมีดแทงเข้าที่บริเวณใต้ลิ้นปี่ และใบมีดหักคาอยู่ภายใน มีอาการเลือดตกใน จึงรีบปฐมพยาบาลก่อนเร่งนำรักษาที่ รพ.พิมาย แต่เนื่องจากอาการหนักมาก จึงส่งรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมาเป็นการเร่งด่วน ซึ่งต่อมา พบว่า นักเรียน ม.4 ที่ถูกแทงทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้เสียชีวิตลงในที่สุด

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า เด็กนักเรียน ม.2 ที่ก่อเหตุ อายุ 13 ปี เป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเด็ก ม.4 อายุ 15 ปี ที่เสียชีวิต ซึ่งช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเย็นหลังเลิกเรียนและฝนเพิ่งหยุดตก เด็ก ม.2 จู่ๆ ก็เดินมาหาเด็ก ม.4 แล้วลงมือก่อเหตุด้านนอกห้องซ้อมดนตรีของโรงเรียน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิมาย จะได้เชิญอาจารย์และผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้ปากคำ ส่วนเด็กนักเรียนที่เป็นเพื่อนของทั้งสองฝ่าย รวมถึงที่เห็นเหตุการณ์จะได้ให้สหวิชาชีพมาร่วมสอบถามเพิ่มเติมเพื่อนำมาประกอบสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่า ปมที่เด็กก่อเหตุน่าจะมาจากการหึงหวง ทำใจไม่ได้หลังจากเห็นแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกรากันไป ไปพูดคุยกับรุ่นพี่ ม.4 อย่างสนิทสนม จึงคิดว่าสาเหตุที่เลิกกับตนเพราะไปมีแฟนใหม่ที่เป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนเดียวกัน จึงวางแผนก่อเหตุไม่คาดคิดครั้งนี้ขึ้น

...

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยรายละเอียดจาก พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ พรหมหมื่นไวย ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ว่าได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.ก้องภพ อาสานอก สว.(สอบสวน) สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากช่วงเย็นวานนี้ได้รับแจ้งมีเหตุเด็กนักเรียนทะเลาะวิวาทและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณด้านข้างอาคารเรียนดนตรีโรงเรียนพิมายวิทยา ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา 

ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายวิศวจักษ์  สุดาเดช หรือน้องเต้ย อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ถูกแทงด้วยอาวุธมีดบริเวณใต้ลิ้นปี่นอนจมกองเลือด ไม่รู้สึกตัว หน่วยกู้ภัยรีบนำส่ง รพ.พิมาย และส่งรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ ด.ช.วี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2  หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งให้ผู้ปกครองของเด็กทราบ   และจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าสาเหตุที่ทำให้เด็ก ม.2 ก่อเหตุในครั้งนี้คือหึงหวงที่แฟนสาวไปสนิทสนมกับ พี่ม.4 จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

นายชูชีพ แรงใหม่ ผู้อำนวยการโรงเรียนพิมายวิทยา กล่าวว่า  เมื่อวานตนไปราชการนอกพื้นที่ แต่ได้รับแจ้งจากครูในโรงเรียนว่าเกิดเหตุเด็กทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุเป็นเวลาหลังจากเลิกเรียนแล้ว และมีเด็กบางส่วนได้ซ้อมดนตรีอยู่ในห้องดนตรีแต่ออกมาก่อเหตุที่ด้านนอกห้องดนตรี ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด รวมทั้งบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่มีกล้องวงจรปิด  ทางโรงเรียนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องสอบสวนผู้ก่อเหตุอีกครั้ง เพราะยังเป็นเยาวชน

เวลา 18.00 น. วันที่ 22 ก.ค. 66 ที่ศาลาการเปรียญวัดวังหิน ต.ในเมือง อ.พิมาย  มีพิธีรดน้ำศพของนายวิศวจักษ์ สุดาเดช หรือน้องเต้ย บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า จากการสอบถาม น.ส. รัตนาภรณ์ วารีศรี อายุ 35 ปี  อยู่หมู่ 8 ต.ในเมือง อ.พิมาย และนายวรวุฒิ สุดาเดช พ่อแม่ชองน้องเต้ยผู้เสียชีวิต เล่าว่าตนมีลูกชาย 2 คน น้องเต้ยเป็นลูกคนโต น้องเต้ยเป็นเด็กดี ช่วยงานพ่อแม่ตลอด เสียใจมากกับการสูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับ  สำหรับศพของลูกชายจะทำการฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 24 ก.ค. 66 เวลา 16.00 น.ส่วนสาเหตุที่ลูกถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตนั้นพ่อกับแม่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายสอบสวน.