อัยการยื่นฟ้องศาล คดีแรก “แอม ไซยาไนด์” รอง ผกก. อดีตสามี พ่วง “ทนายพัช” ในคดีวางยาฆ่าชิงทรัพย์ “ก้อย-ศิริพร ขันวงษ์” ขณะที่จำเลยทั้งหมดแถลงปฏิเสธขอสู้คดี ศาลนัดตรวจหลักฐาน 2 ต.ค. พร้อมอนุญาตให้อดีตสามีแอมและทนายพัชประกันตัวชั่วคราวตามคำร้องตีราคาประกันคนละ 1 แสนบาท ขณะที่ แอมไม่ยื่นขอประกันตัว

คดี “แอม ไซยาไนด์” ถึงศาลแล้วเป็นคดีแรกเมื่อ วันที่ 19 ก.ค. ที่ศาลอาญา พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ อายุ 35 ปี พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 39 ปี อดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อดีตสามี และ น.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช เอกสุวรรณวัฒน์ อายุ 35 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพ หรือใช้และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย, เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด

อัยการฟ้องว่า วันที่ 14 เม.ย.66 นางสรารัตน์จำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่า น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ อายุ 32 ปี ด้วยการนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 เป็นสารพิษที่ส่งผลให้สมองและหัวใจขาดพลังงานและออกซิเจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย และชีวิตของผู้เสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย ปลอมปนใส่ลงในอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภค ชนิดใด และปริมาณเท่า ใดไม่ปรากฏชัดให้ น.ส.ศิริพรดื่มหรือรับประทานหรือเสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีใดไม่ปรากฏชัด แต่เป็นปริมาณที่มากพอที่ทำให้สารโพแทสเซียมไซยาไนด์ดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย น.ส.ศิริพรจนหมดสติและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา จากนั้นจำเลยที่ 1 ชิงทรัพย์ อาทิ เงินสด กระเป๋าแบรนด์เนม รวมทรัพย์สิน 9 รายการ มูลค่า 154,630 บาท ของ น.ส.ศิริพรผู้ตายไป เหตุเกิดที่ ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และ ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี

...

คำฟ้องระบุอีกว่าเมื่อวันที่ 19 เม.ย. หลังเกิดเหตุแล้วจำเลยที่ 3 ให้จำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง โดยทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์สินของ น.ส.ศิริพร ผู้ตายอันเป็นพยานหลักฐานในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 เพื่อมิให้จำเลยที่ 2 นำทรัพย์ดังกล่าวส่งมอบให้ทายาท น.ส.ศิริพร ผู้ตาย หรือเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา ยึดไว้เป็นของกลางในคดี อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ต่อมาวันที่ 22 เม.ย.66 ตรวจยึดขวดยาบรรจุสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) 1 ขวด ที่จำเลยที่ 1 มีไว้ และได้ใช้ปลอมปนเพื่อฆ่าและชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร ไว้เป็นของกลาง และตรวจยึดทรัพย์สินผู้ตายรวม 6 รายการ เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กระทั่งจำเลยที่ 1 ถูกจับและถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.66

ต่อมาวันที่ 16 พ.ค.66 พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาคดีนี้แก่จำเลยที่ 2 และในวันที่ 26 พ.ค.66 พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาคดีนี้แก่จำเลยที่ 3 ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการโจทก์ระบุด้วยว่าคดีนี้จำเลยที่ 1 กระทำผิดซึ่งข้อหาที่มีอัตราโทษสูง ขอคัดค้านการประกันตัวของจำเลยที่ 1 เกรงว่าจำเลยที่ 1 จะหลบหนี และไป ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ศาลอาญาประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.2084/2566 ศาลสอบคำให้การจำเลยที่ 1 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังทัณฑสถานหญิงกลางตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.และไม่ยื่นขอประกันตัว ส่วนจำเลยที่ 2-3 มาศาล โดยจำเลยทั้งสามแถลงให้การปฏิเสธต่อสู้คดี นัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายวันที่ 2 ต.ค. เวลา 09.00 น.

ต่อมา พ.ต.ท.วิฑูรย์ จำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตโดยตีราคาประกันคนละ 100,000 บาท