สุดเหี้ยม หนุ่มป่วยจิตหลอน คิดว่าเพื่อนบ้านจะทำร้าย เกิดความเครียดไม่พอใจส่วนตัว บุกใช้มีดจ้วงแทงดิ้นตายต่อหน้าคาบ้านพัก ญาติผู้ตายเศร้า สูญเสียเสาหลักครอบครัว เป็นคนขยันทำงานสร้างครอบครัว ช่วยเหลือพ่อแม่มาตลอด ส่วนผู้ก่อเหตุลั่นขอรับกรรม สารภาพเครียดไม่พอใจผู้ตายส่วนตัว ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

 

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 66 ที่ จ.นครพนม เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง เป็นเหตุให้ นายอุดมโชค เดชทรงศิลป์ อายุ 48 ปี หรือนายแหล้ เสียชีวิตหน้าบ้านเลขที่ 202 หมู่ 2 บ้านดอนแดง ต.นาทม อ.นาทม จ.นครพนม พ.ต.อ.เชาว์ ป้อมงาม ผกก.สภ.นาทม พร้อมตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ เก็บหลักฐาน ชันสูตรศพ ผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดบริเวณหน้าบ้านพัก พบมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดหลายจุด มีจุดสำคัญบริเวณลำคอซ้าย และตรงหน้าอก 1 จุด ตามลำตัวอีก 2 จุด เลือดอาบทั่วตัว เสียชีวิตขณะนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาทม ส่วนผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์หลบหนี 

ต่อมาทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายต่อศักดิ์ เขืองเชียงขวาง หรือต้น อายุ 36 ปี เป็นชาวเกษตรกร อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 2 บ้านดอนแดง ต.นาทม อ.นาทม จ.นครพนม ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกัน โดยตำรวจได้เข้าจับกุมได้ที่บ้านพัก พร้อมอาวุธมีดของกลางปลายแหลม ยาว ประมาณ 40 ซม. เจ้าตัวสารภาพไม่พอใจส่วนตัว เนื่องจากเคยมีปากเสียงกันเพราะมีที่นาติดกัน โดยทราบว่าส่วนหนึ่งเกิดจากสาเหตุความเครียด เพราะผู้ก่อเหตุเคยมีอาการป่วยจิต กินยาระงับประสาท แต่ไม่ได้กินยามานานถึง 2 ปี คาดว่าอาการกำเริบจึงก่อเหตุ เพราะคิดว่าผู้ตายจะทำร้าย 

...

ด้าน พ.ต.ท.ประวัติ พลสุวรรณ์ สว.สอบสวน สภ.นาทม ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เตรียมนำตัวขอฝากขังศาลจังหวัดนครพนมในวันพรุ่งนี้

ด้าน นางทองสา เดชทรงศิลป์ อายุ 71 ปี แม่ผู้ตายเปิดเผยว่า ทำใจไม่ได้ ไม่คิดว่าลูกชายคือ นายแหล้ จะมาเสียชีวิตกะทันหันแบบนี้ ปกติเป็นคนขยัน ไปทำงานต่างประเทศมากว่า 10 ปี ส่งเงินมาให้ครอบครัว เป็นเสาหลักครอบครัว เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 3 คน แต่ไม่มีภรรยา อยู่ตัวคนเดียว แม่เก็บเงินสร้างบ้านไว้ให้ ยังรับไม่ได้กับการกระทำผู้ก่อเหตุ ถึงจะรู้ว่าตำรวจจับกุมตัวแล้ว แต่ยังไม่คุ้มค่ากับชีวิตลูกชายตน ไม่รู้จะเอาอะไรมาชดเชย ไม่ขอให้อภัย

ส่วน นายลิขิต เดชทรงศิลป์ อายุ 53 ปี พี่ชายผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายไปกินข้าวกับเพื่อนบ้าน ขากลับบ้าน คนก่อเหตุได้ตามมาไม่ทราบว่าไม่พอใจอะไร เนื่องจากผู้ตายไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร แต่เป็นคนพูดตรงไปตรงมา โดยทั้ง 2 คนรู้จักกันดี มีที่นาติดกัน ส่วนไม่พอใจการพูดจาเป็นธรรมดา แต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุสุดเหี้ยมขนาดนี้ ตามมาแทงถึงหน้าบ้าน และแทงด้วยความโหดเหี้ยมบริเวณจุดลำคอ หน้าอกตรงหัวใจ ถือว่าโหดมาก 

สอบถาม นางเนียม อายุ 65 ปี แม่นายต้นผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าลูกชายเคยมีประวัติติดยาเสพติดเมื่อ 4-5 ปีก่อน และเคยป่วยจิตไปรักษา กินยากับแพทย์จิตเวช และหายเป็นปกติ ทำอาชีพเกษตร ดูแลพ่อแม่มาตลอด มีลูก 2 คน ส่วนน้องสาวไปทำงาน กทม. ปัจจุบันไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่คิดว่าจะก่อเหตุลักษณะนี้ เพราะไม่เคยบอกว่าไม่พอใจใคร มีเพียงบ่นตามประสาว่ามีปากเสียงกันกับผู้ตายธรรมดา เรื่องวัวควายไปเหยียบนาข้าวของผู้ตาย ไม่คิดว่าจะเป็นสาเหตุจนฆ่ากันตาย หลังก่อเหตุยังมากราบลาแม่ และขอชดใช้กรรม ไม่ได้หลบหนี ยังทำใจไม่ได้เช่นกัน ไม่รู้จะเอาอะไรไปชดใช้การสูญเสียของครอบครัวผู้ตาย ส่วนลูกชายก็ขอให้ชดใช้กรรมในคุก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังได้เดินทางไปที่ สภ.นาทม พบผู้ต้องหาถูกคุมขังไว้ที่ห้องขังชั่วคราว หลังถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา สอบถามยังสามารถพูดคุยได้ปกติ และยอมรับในการกระทำที่เกิดขึ้น สอบถามว่าสำนึกผิดและยอมรับว่าทำจริง ส่วนสาเหตุมาจากไม่พอใจส่วนตัว แต่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เป็นอารมณ์ชั่ววูบ นอกจากนี้ยังมีน้องสาวผู้ต้องหาเดินทางมาเยี่ยมพูดคุยสอบถาม ส่วนผู้ต้องหาไม่มีอาการเครียด

...

ด้าน นายไชยศักดิ์ ชาแสน อายุ 45 ปี เพื่อนบ้านผู้ตาย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตนและเพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้องครวญครางผู้ตาย บริเวณหน้าบ้าน ก่อนนี้ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์คนก่อเหตุขับเข้าไปจอด ขณะที่ผู้ตายกำลังเดินเข้าบ้าน เชื่อว่าผู้ตายไม่ได้เตรียมใจว่าคนก่อเหตุจะมาฆ่า และไม่ทันตั้งตัว คาดว่าผู้ก่อเหตุประชิดตัวล็อกคอแทงด้วยมีดแหลม ก่อนล้มลงกับพื้น โดยตนเข้าไปช่วยเหลือยังพบคนก่อเหตุอย่างเยือกเย็นยืนใช้เสื้อเช็ดเลือดในมีด และบอกกับชาวบ้านว่า ให้ตำรวจมาจับเลย ดูพฤติกรรมแล้วโหดมาก.