สลด แม่แท้ๆ บังคับลูกสาว 2 คน ให้ผู้ชายกระทำอนาจาร เพื่อแลกเงินซื้อยาบ้าเสพ พี่สาวต้องร้องเพจสายไหมฯ ลุยถึงบ้านพร้อมตำรวจ จนท.พม. ก่อนคุมตัวมาสอบปากคำ ส่วนเด็กทั้ง 2 มอบให้สหวิชาชีพเข้าพูดคุย ก่อนรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับแม่รายนี้ ที่เข้าข่ายค้ามนุษย์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ก.ค. 66 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และ พ.ต.ท.กสิณสุข ไชยโคตร สวป.สน.ประชาชื่น ลงพื้นที่ชุมชนป่ากล้วย ถนนเลียบทางรถไฟ แขวงและเขตจตุจักร กทม. กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าช่วยเหลือเด็กสาว 2 พี่น้อง อายุ 11 ปี และ 16 ปี ที่ถูกแม่ อายุ 52 ปี มีพฤติกรรมเสพยาบ้า บังคับและทำร้าย เพื่อให้ผู้ชายมากระทำอนาจารแลกกับเงิน นำไปซื้อยาบ้าเสพ โดยทางเพจสายไหมต้องรอดได้รับร้องเรียนจากหญิงสาวอายุ 19 ปี พี่สาวของเด็กสาวผู้เสียหายทั้งสอง เพื่อขอให้ไปช่วยเหลือ 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเพิงสังกะสี พบ น.ส.ดี (นามสมมติ) อายุ 52 ปี พักอาศัยอยู่กับลูกสาว 2 คน ด.ญ.ซี (นามสมมติ) อายุ 11 ปี  และ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี แจ้งเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวให้ทราบ ก่อนเข้าควบคุมตัว น.ส.ดี มีอาการขัดขืนและโวยวาย พร้อมแยกเด็กหญิงทั้ง 2 คน ออกมาจากการดูแล เมื่อทั้ง 3 พี่น้องพบเจอกัน ต่างก็กระโดดเข้าโผกอดร่ำไห้ด้วยความดีใจที่มีคนมาช่วยเหลือ

...

ขณะเดียวกัน น.ส.จี (นามสมมติ) พี่สาวของ น.ส.ดี เมื่อทั้งคู่ได้เจอกันต่างเริ่มมีปากเสียงพูดถึงเรื่องเก่าที่เคยมีปัญหากัน โดยด้านพี่สาวได้มีการต่อว่าว่าทำไมถึงต้องทำเรื่องแบบนี้กับลูกสาว แต่ น.ส.ดี มีการตอบกลับไม่ตรงคำถาม และพูดถึงพ่อของทั้งคู่ที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ทั้งนี้ น.ส.ดี มีอาการพูดจาไม่อยู่กับร่องรอย และปฏิเสธว่า ไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าวที่บังคับลูกให้ผู้ชายกระทำอนาจาร เพื่อแลกกับเงินแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง

น.ส.เอ (นามสมมติ) พี่สาว อายุ 19 ปี คนที่ไปร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า แม่มีลูกทั้งหมด 8 คน จาก 3 สามี ตนและน้องอีก 2 คน เป็นลูกของพ่อคนที่ 3 เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อก่อนตอนที่ตนยังพักอาศัยอยู่กับแม่ ก็ถูกบังคับให้กระทำในลักษณะดังกล่าวตั้งแต่อายุ 11 ปี จนทนไม่ไหว ต้องหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่ก็ไปมาหาสู่ติดต่อกับน้องสาวอยู่ตลอด จึงรู้พฤติกรรมของแม่ที่ทำกับน้องสาวคนที่ 2 อายุ 16 ปี มาอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับที่ตนถูกกระทำ คือให้ผู้ชายมากระทำอนาจารแล้วให้เงินกับแม่ เพื่อนำไปเสพยาบ้า ผู้ชายส่วนใหญ่ก็เป็นคนในชุมชนนั่นเอง โดยชาวบ้านในชุมชนก็รับรู้เรื่องราวที่น้องสาวของตนถูกแม่กระทำมาตลอด แต่ก็ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือแต่อย่างใด น้องสาวอายุ 16 ปี อยากฆ่าตัวตาย ตนจึงต้องหาหนทางเพื่อรีบช่วยเหลือน้องทั้งสองออกมาให้ได้

น.ส.จี พี่สาวของ น.ส.ดี กล่าวว่า น้องสาวตนมีพฤติกรรมเกี่ยวกับยาเสพติดมาตั้งแต่อายุ 20 กว่าปีแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยทำงานเป็นหลักแหล่ง มีช่วงหนึ่งเคยเลิกยาเสพติดตอนช่วงที่ลูกชายคนโตบวช ซึ่งช่วงนั้นตนก็แอบดีใจว่าน้องสาวจะกลับมาเป็นผู้เป็นคน เพราะเริ่มกลับมาพูดจารู้เรื่องแต่ไม่นานนักเมื่อเจอกับเพื่อนๆ ก็มีการกลับมารวมตัวกันมั่วสุมเสพยาอีกเช่นเคย แล้วก็กลับมามีพฤติกรรมความรุนแรงแบบนี้ 

ที่ผ่านมาครอบครัวเหลือแค่เพียงตนที่เป็นพี่สาว เพราะพี่ชายอีกสองคนก็เสียชีวิตไปแล้ว ตนเคยพยายามเข้ามาช่วยเหลือหลานสาว แต่ก็มักจะมาทะเลาะ จึงไม่มีใครอยากยุ่ง เพราะ น.ส.ดี จะมีพฤติกรรมความรุนแรงขว้างปาสิ่งของ หรือบางครั้งที่เคยได้ยินคือมีการใช้อาวุธมีดไล่ฟันคนที่ไม่พอใจ  

"ยอมรับว่าตนเสียใจที่น้องสาวเพียงคนเดียวมาอยู่ในสภาพแบบนี้ และยังมาทำกับหลานสาวที่เป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง ตอนเด็กมองว่าถ้าหากไม่สามารถเป็นแม่คนได้ เขาไม่ควรมาทำกับลูกแบบนี้ ตนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพาหลานสาวทั้งสองออกไป ดูแลเพื่อความปลอดภัยของตัวเด็กเอง ส่วนตัวน้องสาวของตน อยากให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน เพราะไม่อยากให้กลับมาก่อเหตุกับลูกอีก ซ้ำพฤติกรรมน้องสาวก่อนหน้านี้เวลามีลูก เมื่อคลอดแล้วก็ทิ้งไว้ตามโรงพยาบาล ตนต้องไปรับกลับมาดูแล รวมถึงลูกอีกหลายคนก็มีคนรับดำเนินการดูแลไปแล้ว เพราะน้องสาวตนไม่สามารถดูแลได้"

ขณะที่ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน รู้สึกดีใจที่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะเมื่อมีการเข้าไปยุ่งพูดคุย หรือให้ข้อมูลกับใคร น.ส.ดี จะออกมาอาละวาด ไปทำร้ายชาวบ้านอยู่เป็นประจำ จนเป็นเหตุให้คนในละแวกพื้นที่ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย รวมถึงตัวป้าของเด็กที่เดินทางมา มีปากเสียงกับ น.ส.ดี วันนี้ ก็เคยจะมารับหลานสาวคนโตไปดูแล แต่ก็มีปากเสียงกัน จนไม่มีการอยากยุ่งกันอีก

...

ด้าน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 มาติดตามคดีนี้ด้วยตนเอง เปิดเผยว่า จะเชิญสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหาย ส่วนแม่เด็กผู้เสียหายนั้น จะต้องสอบปากคำเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป อาจเข้าข่ายความผิดข้อหาค้ามนุษย์ อีกทั้งยังได้ส่งไปให้แพทย์ตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติดต่อไป

ขณะที่ นายเรืองศักดิ์ กลับเนียม พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก จากบ้านพักเด็กและครอบครัว ระบุว่า เบื้องต้นจะมีการนำเด็กทั้งสองคนไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวก่อน ซึ่งในขั้นตอนการตรวจสภาพร่างกายและจิตใจของตัวเด็ก แต่เข้าสู่การคุ้มครองเด็ก การดำเนินการจะสามารถดำเนินการในวันนี้ได้ทันที พร้อมกันนี้จะให้พนักงานสอบสวนดำเนินการทำใบเอกสารส่งตัว และสอบถามวิชาชีพให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะนำเด็กไปดูแล

ส่วน นายเอกภพ เหลืองประเสิรฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า ตนให้ตำรวจดำเนินการตรวจสอบผู้ที่ร่วมกระทำความผิดต่อเด็ก เพราะถือว่าเป็นเรื่องรุนแรงกับเด็กที่มีอายุเพียงเท่านี้ และให้ดำเนินการกับแม่ให้เด็ดขาด ส่วนตัวมองว่าจากการที่ได้เข้าไปดูและรับฟังปัญหาจากคนในพื้นที่ รวมถึงตัวพี่สาว เชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เพราะทันทีที่เด็กทั้งสองเห็นพี่สาว ได้เข้ากอดและร้องไห้กันด้วยความดีใจ เพราะมีการพูดว่าไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้แล้ว ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่มีการเล่ามาเป็นข้อเท็จจริง 

...

ขอฝากถึงชาวบ้านในพื้นที่อื่นๆ ตามชุมชนต่างๆ หากพบเห็นพฤติการณ์ลักษณะที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์แบบนี้ แม้ว่าผู้ทำความผิดอาจจะเป็นแม่หรือคนในครอบครัว ก็ขอให้ดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดำเนินการจับกุมตัว และช่วยเหลือแยกย้ายเด็กไปอยู่ในที่ปลอดภัย อย่าปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเด็กเป็นระยะเวลานาน.