ตำรวจ บก.ปคม. รวบหนุ่มอุซเบกิสถาน 1 ในสมาชิกแก๊งค้ากามสาวเพื่อนร่วมชาติคาสนามบิน หลังร่วมกับพวกออกอุบายพาหญิงสาวชาวอุซเบฯกว่าสิบคนมาทำงานที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี อ้างเป็นผู้ช่วยกุ๊กมีรายได้ดี พอมาถึงกลับถูกบังคับให้ยืนเร่ค้ากามริมชายหาด หากไม่ยอมจะถูกทำร้ายให้อดข้าวอดน้ำ จน 1 ในเหยื่อทนไม่ไหวหนีออกมาขอความช่วยเหลือ เผยตำรวจไทยเตรียมประสานสำนักงานอัยการสูงสุด ออกหมายแดง ตามจับ 2 สาวอุซเบฯหัวหน้าแก๊งและลูกสมุน หลังพาหญิงสาว 17 คน บินไปค้ากามที่ประเทศบาห์เรน ตั้งแต่เดือน มิ.ย.
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) รวบสมาชิกแก๊งค้ากามชาวอุซเบฯคาสนามบิน เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ก.ค. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก. ปคม.พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. นายนูลิดดิน มามัตคูลอฟ กงสุลอุซเบกิสถาน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายนารูสเบก อับดูอาลิเยวิช ทาชริปอฟ อายุ 32 ปี ชาวอุซเบกิสถาน ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2095 /2566 ลงวันที่ 4 ก.ค. 2566 ฐานร่วมกันหรือสมคบกันค้ามนุษย์โดยแสวงผลประโยชน์จากการค้าประเวณี ร่วมกันเป็นธุระจัดหาเพื่อค้าประเวณีภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ จับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศมุ่งหน้าไปประเทศบาห์เรน
สืบเนื่องจากมูลนิธิไนท์ไลท์และองค์กรโอยูอาร์ พา น.ส.โรส (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาวอุซเบกิสถาน มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ว่าถูกน.ส.ดิโลรมคน บาโคเมียน นาชิโรวา อายุ 22 ปี เพื่อนของเหยื่อและเป็น 1 ในแก๊งค้ากาม หลอกให้เดินทางมาทำงานในประเทศไทย อ้างมีรายได้ดี เมื่อมาถึงกลับถูก น.ส.แซมรัต ชุครูลลาเยฟนา โซยิโรวา อายุ 42 ปี หัวหน้าขบวนการ ที่เป็นเพื่อนร่วมชาติ บังคับให้เร่ค้าประเวณีบริเวณริมชายหาดเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ตั้งแต่เดือน พ.ค.66 ถูกบังคับให้รับงานวันละหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้รับเงินส่วนแบ่งซ้ำยังถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย ตัดสินใจหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่สถานทูตอุซเบกิสถาน ก่อนมีมูลนิธิฯเข้าช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจพาผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี
...
ส่วนนายนารูสเบก อับดูอาลิเยวิช ทาชริปอฟ อายุ 32 ปี ร่วมกับพวกชาวอุซเบกิสถานล่อลวงหญิงสาวเพื่อนร่วมชาตินับสิบรายมาบังคับค้าประเวณีในประเทศไทย อ้างว่าจะพาไปทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กร้านอาหารในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี มีรายได้ดีมีที่พักให้ รวมทั้งจะออกค่าเดินทางและค่าทำวีซ่าให้ มีเหยื่อหญิงสาวหลายรายที่ต้องการหาเงินเลี้ยงชีพ บางรายต้องการหาเงินไปเป็นค่ารักษามารดาที่ป่วย หลงเชื่อยอมเดินทางมาทำงานด้วย แต่เมื่อมาถึงกลับถูกแก๊งนี้บังคับให้ค้าประเวณีโดยให้ยืนหาลูกค้าที่ริมชายหาดพัทยา ย่านวอล์กกิ้งสตรีทรวมทั้งขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าที่ติดต่อมา อ้างว่าเป็นการใช้หนี้ค่าเดินทาง ค่าจัดทำวีซ่าในราคา 5,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 175,000 บาท
หากใครไม่เชื่อฟังหรือทำตามจะถูกทำร้ายร่างกายกักขังและไม่ให้กินข้าว จนเหยื่อหญิงสาวต้องจำยอม จากนั้นจะถูกบังคับให้ค้ากามไม่ต่ำกว่า 4 ครั้งต่อวัน ตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 6 โมงเช้าของอีกวัน หากไม่ได้ยอดตามที่ต้องการจะถูกทำโทษด้วยการอดอาหาร แต่ละวันเหยื่อจะได้รับประทานอาหารเพียงวันละ 1 มื้อ เมื่อเหยื่อจะขอเบิกเงินค่าจ้างและขอเดินทางกลับบ้านเกิด คนร้ายจะไม่ยินยอมอ้างว่าต้องทำงานชดใช้หนี้ให้หมดก่อน
ทั้งนี้ หลังจากกลุ่มผู้ต้องหาล่อลวงเหยื่อหญิงสาวชาวอุซเบฯมาค้าประเวณีที่เมืองพัทยาได้ระยะหนึ่งแล้ว ทั้งหมดเตรียมพาเหยื่อนับสิบคนไปค้า ประเวณีต่อที่ประเทศบาห์เรน เนื่องจากได้เงินเยอะกว่า ทำให้ น.ส.โรสทนไม่ไหวตัดสินใจหลบหนีออกมาร้องขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิไนท์ไลท์และองค์กรโอยูอาร์ ก่อนจะพาเข้าแจ้งความกับตำรวจ บก.ปคม. จนนำมาสู่การสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาชาวอุซเบกิสถาน 3 คน ประกอบด้วย น.ส.แซมรัต ชุครูลลาเยฟนา โซยิโรวา อายุ 42 ปี หัวหน้าขบวนการ น.ส.ดิโลรมคน บาโคเมียน นาชิโรวา อายุ 22 ปี เพื่อนของเหยื่อทำหน้าที่เป็นผู้ชักจูง นายนารูสเบก อับดูอาลิเยวิช ทาชริปอฟ อายุ 32 ปี ผู้จัดหาและติดต่อลูกค้า เบื้องต้นพบนางแซมรัตเดินทางไปประเทศมาเลเซียตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. ส่วน น.ส.ดิโลรมคน พาเหยื่อหญิงสาวชาวอุซเบกิสถานอีก 17 คน เดินทางไปที่ประเทศบาห์เรน ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. เหลือเพียงนายนารูสเบก ที่เตรียมเดินทางไปสมทบแต่ถูกชุดสืบสวนจับกุมตัวได้คาสนามบิน พร้อมช่วยเหลือหญิงสาวชาวอุซเบกิสถานได้อีก 2 คน
สอบสวนนายนารูสเบกให้การปฏิเสธ อ้างรู้จักกับนางแซมรัตจริงเนื่องจากอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือได้รับประโยชน์ใดๆจากแก๊งค้ากาม คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. ดำเนินคดีพร้อมประสานสำนักงานอัยการสูงสุด ออกหมายแดง ตามจับกุมผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ยังอยู่ต่างประเทศมาดำเนินคดีในประเทศไทย