สาววัย 25 ปี มีคู่กรณีเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยที่เคยทำงานด้วย ไปทวงเงินเกิดวิวาทกันขึ้น คู่กรณีโทรบอกแฟนหนุ่มที่มีตำแหน่งเป็นมาร์แชล ดูแลนักท่องเที่ยวในเทศบาลนครหาดใหญ่มาช่วย หวดด้วยกระบองเหล็กหัวแตกเย็บ 12 เข็ม ต่างคนต่างแจ้งความ ข้องใจผ่านมานานจนแผลแห้งแล้วทำไมยังเงียบ ด้านพ่อบอกครั้งแรกที่เห็นสภาพลูกสาวเกือบจะไป "จัดเอง" อยู่แล้ว แต่ยั้งใจไว้ได้
วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากหญิงสาวรายหนึ่ง ว่า น้องสาวของตนเองได้ถูกเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ใช้เหล็กติ้วหรือกระบองเหล็กตีศีรษะและร่างกายหลายสิบครั้ง จนศีรษะแตกเลือดไหลอาบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ต้องเย็บถึง 12 เข็ม และทั่วทั้งร่างบอบช้ำจากการถูกทุบตี สาเหตุมาจากคนก่อเหตุไม่พอใจน้องสาวบุกทวงเงินค่าแรงจำนวน 5,130 บาท กับเจ้าของร้านเสริมสวย ซึ่งคนก่อเหตุและเจ้าของร้านเสริมสวยเป็นแฟนกัน เหตุเกิดภายในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง ซอยยิ่งศักดิ์ ถนนจันทร์นิเวศ 2 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 183/88 ซอย 2 จุฑากาญจน์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้พบกับนางสาวสุนิษา มิรัมย์ หรือ มาย อายุ 25 ปี ผู้บาดเจ็บ พร้อมมอบหลกฐานคลิปวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ กำลังใช้เหล็กติ้วทุบตี และหลักฐานภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นทราบชื่อคนก่อเหตุ คือ นายศุภวรรษ บุญชู หรือ โอ อายุประมาณ 27 ปี ทำงานอยู่เทศบาลนครหาดใหญ่ ตำแหน่งหาดใหญ่มาร์แชล เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่
จากการสอบถาม นางสาวสุนิษา มิรัมย์ หรือ มาย เล่าว่า เงินที่ไปทวงนั้นเป็นเงินค่าเปอร์เซ็นต์ซึ่งตนได้ทำงานกับเขา (เจ้าของร้าน) ตนเป็นลูกน้อง ออกแรง ส่วนเขาออกค่าซื้อสินค้า ปัจจุบันตนทำงานเป็นช่างต่อขนตา ส่วนเขาจะเป็นช่างทำเล็บ และจะมีช่วงเวลาที่มีนักเรียนมาเรียนต่อขนตาซึ่งมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าสอนจึงได้มีการทวงเงินกัน แต่ยอดเงินที่ได้ไม่ได้ตามที่ตนต้องการ ทำให้มีปากเสียงกัน ซึ่งปกติจะทวงเงินทางแชตข้อความส่วนตัว ส่วนเงินที่ค้างนั้น ทางเจ้าของร้านได้ค้างมาตั้งเริ่มทำงาน จาก 1,000 บาท ค้างแบบดินพอกหางหมูจนเป็น 5,130 บาท
...
"ก่อนเกิดเหตุนางสาวเนตรชนก (เจ้าของร้าน) ได้คุยโทรศัพท์กับแฟนเค้าอยู่ พร้อมกับบอกแฟนว่า พี่โอ มันมาแล้ว ซึ่งเขาพูดแบบนี้เพราะเค้าคุยเปิดกล้องกัน ซึ่งวันนั้น หนูได้ไปกับเพื่อนอีก 3 คนรวมเป็น 4 คน ไปที่ร้านของนางสาวเนตรชนก และพูดคุยเรื่องเงินซึ่งหนูพูดว่าจะเอาเงินคืนจากนั้นได้เกิดทะเลาะวิวาทกับนางสาวเนตรชนก แล้วก็หยุดทะเลาะกันซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่แฟนของนางสาวเนตรชนกเข้ามาที่ร้าน"
นางสาวมายเล่าต่อว่า เมื่อแฟนน.ส.เนตรชนก เดินมาถึงในร้านก็เดินปรี่ตรงมาที่ตน ก่อนจะพูดขึ้นว่า มึงทำแฟนกู จากนั้น แฟนของนางสาวเนตรชนกได้ใช้เหล็กติ้ว ตีมาที่ศีรษะของตนแบบรัวๆ จนมีอาการมึนหัวซึ่งเป็นจังหวะแฟนของนางสาวเนตรชนกนั่งคร่อมบนตัว และบอกให้ตนปล่อยมือจากผมของนางสาวเนตรชนก ซึ่งตอนนั้นตนรู้สึกว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว ส่วนอาการบาดเจ็บตอนนี้ อย่างแรกมีอาการมึนงง ถ้านั่งที่มืดๆ รู้สึกจะอ้วกทันที แล้วจะเวียนหัว เจ็บตรงศีรษะ ที่ท้ายทอย แต่จะเจ็บมากที่สุดตรงนิ้วมือ ล่าสุดทางนางสาวเนตรชนกและแฟนหนุ่มยังไม่มีการติดต่อเข้ามา มีแต่น้าสาวของนางสาวเนตรชนกคนเดียวโทรมาถามอาการล่าสุด ส่วนเรื่องแจ้งความนางสาวเนตรชนกได้เข้าแจ้งความก่อนหน้าตนเสียอีก ในข้อหาบุกรุกและข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานล่าช้า ตั้งแต่ช่วงแผลสดๆ จนตอนนี้แผลแห้งไปแล้ว แต่คดีก็ยังไม่คืบหน้าจึงอยากฝากทางผู้หลักผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิดด้วยเพราะคดีนี้มันร้ายแรง ถ้าเกิดว่าตนไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ตนอาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็ได้และที่สำคัญยังมีลูกน้องที่ต้องดูแล ถือว่ายังโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมากเพราะว่าโดนเน้นแต่ศีรษะ
จากการสอบถาม พ่อของนางสาวสุนิษา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นกระทำเกินกว่าเหตุ จริงๆ แล้ว เขาทะเลาะกันคนก่อเหตุเป็นบุคคลที่สามน่าจะเข้าไปห้ามได้ไม่ต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือแต่กลับไปทำร้ายร่างกายชาวบ้านเสียเอง รู้ว่าเขาผัวเมียกัน แต่เราเป็นผู้ชายเราสามารถเข้าไปห้าม เข้าไปแยกได้ ช่วงที่เห็นหน้าลูกสาวครั้งแรกถึงกับโมโห อารมณ์ขึ้น จะจัดการเองด้วยซ้ำ แต่ไม่จัด และอีกอย่างเราคิดว่ากระบวนการการทำงาน เรามีพร้อมทั้งหลักฐานทั้งบุคคลทั้งหลักฐานคลิป เรามีอยู่แล้วแต่เรื่องไม่น่าจะล่าช้าแบบนี้ ส่วนข้อหาที่เขา (ตำรวจ) ตั้งไว้มันไม่สมเหตุสมผล ถามว่าทำร้ายร่างกาย คุณต้องเน้นจากส่วนไหน นี่เน้นเล่นหัวอย่างเดียว มันอันตรายแล้ว