หลานชายเมาโหด ขอเงินยาย 100 บาท เพื่อเติมน้ำมัน จยย. แต่ไม่ได้ จึงเกิดโมโห คว้ามีดแทง 4 แผล ก่อนนำศพไปทิ้งสวนผักตรงข้ามบ้านพัก
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ก.ค. 66 พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4, นายแพทย์นิรุต คุณกิตติ แพทย์เวรโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าตรวจสอบศพ นางเภา แสนโคตร อายุ 79 ปี นอนเสียชีวิตในสวนริมลำน้ำพอง บ้านท่าแก ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน โดยจากการตรวจสภาพศพพบว่าถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่คอ 1 แห่ง และบริเวณหน้าอกอีก 3 แห่ง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานจากศพผู้เสียชีวิต
จากการตรวจสอบบริเวณบ้านเลขที่ 59 บริเวณหลังบ้านใกล้ที่ล้างจาน พบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 20 เซนติเมตร อยู่ในอ่างล้างจาน ใกล้กันพบกองเลือดและรองเท้าแตะของผู้เสียชีวิตตกอยู่ ส่วนที่บริเวณชั้นล่างพบมีการนำถังสี เก้าอี้ พร้อมขวดเหล้าขาวจำนวน 6 ขวด ขวดเบียร์ 1 ขวด เครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด และกระติกใส่น้ำ 1 ใบ ตำรวจได้กันพื้นที่ไว้ ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นหลานชายของผู้เสียชีวิตได้หายตัวไป
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น จึงได้ไปที่แท่นปูนแห่งหนึ่งริมถนนเลี่ยงเมือง เพื่อไปติดตามตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะก่อเหตุ โดยได้ไปพบตัว นายสุรวิทย์ เหวสูงเนิน อายุ 28 ปี ซึ่งกำลังอยู่ในอาการเมา ขณะที่กำลังเตรียมจะหนีตำรวจ จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ โดยที่ นายสุรวิทย์ ไม่ได้พูดอะไรมาก บอกเพียงว่า เป็นคนที่อยู่บ้านลำพัง และไม่ค่อยมีเพื่อนคบหา ที่บ้านจะอยู่กันกับน้องชายและพ่อ เงินที่ได้มาก็จะนำมาใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนสาเหตุนั้นเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น
ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ ตำรวจจึงได้มีการประสานกับญาติว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ทำงานที่ไหน จนกระทั่งทราบว่าคนก่อเหตุคือ นายสุรวิทย์ ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆ ของผู้ตาย ก่อนที่ตำรวจชุดสืบสวนจะติดตามตัวได้ ซึ่งนายสุรวิทย์เดิมเคยมีภรรยาและลูก 2 คน อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ต่อมาได้แยกทางกัน ก่อนที่จะกลับมาทำงานอยู่ที่ขอนแก่น จนกระทั่งในวันนี้ นายสุรวิทย์ ได้นั่งดื่มสุราต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 และจะไปทำงาน แต่รถน้ำมันไม่มี ก่อนที่จะไปขอเงินจำนวน 100 บาทกับยาย แต่ถูกยายปฏิเสธ ทำให้เกิดความโกรธขึ้นมาเนื่องจากความเมาและขาดสติจึงได้ใช้มีดปลายแหลมในบ้านแทงยายจนเสียชีวิต ก่อนที่จะอุ้มยายไปทิ้งในสวนผักฝั่งตรงข้ามบ้าน และจะไปที่ทำงาน แต่ถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ พร้อมกับรับสารภาพว่ารู้สึกผิดและมีอาการทุกข์ใจจากการแยกกับครอบครัว และต้องหาเงินเลี้ยงคนในบ้าน ก่อนที่จะดื่มสุราจนเมาและก่อเหตุขึ้น
...
นายยืนยง อิ่มนาง อายุ 57 ปี เล่าว่า เป็นน้องชายของผู้เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตเป็นยายแท้ๆ ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งยายเป็นคนรักหลานมาก โดยจะเป็นเกราะกำบังปกป้องหลานมาโดยตลอด และจะคอยให้เงินใช้มาโดยตลอด ซึ่งนายสุรวิทย์เคยเข้ารับการบำบัดอาการทางประสาทมาก่อน จากการที่เคยเสพยาเสพติด และเมื่ออยู่บ้านก็จะมักโวยวายอยู่เพียงคนเดียว พร้อมกับชอบซื้อสุรามาดื่มเป็นประจำ โดยที่บ้านหลังนี้ก็จะอาศัยเพียง 3 คน กับพ่อและน้องชาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” ก่อนจะให้ตำรวจได้มีการสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อจะได้ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.