สลด ตำรวจห้องวิทยุมีปากเสียงกับภรรยาที่เป็นตำรวจเช่นกัน เกิดบันดาลโทสะ ชักปืนจ่อยิงหัว เสียชีวิตคาบ้านพัก ก่อนรอมอบตัวชดใช้กรรม
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 2 ก.ค. 2566 ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจันทบุรี ได้รับแจ้งจาก นายภูวิสิทธิ์ อุตตะโมทย์ชูสกุล ผู้ใหญ่บ้าน 5 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ว่ามีเหตุใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ เหตุเกิดบริเวณบ้านพัก เลขที่ 52 ม.5 บ้านสระทองพัน ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต รับราชการตำรวจ หลังรับแจ้งต่อมา พ.ต.อ.ยอดชาย จำปาทอง รอง ผบก.ภ.จ.จันทบุรี, พ.ต.ท.ปิติ พานิช รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมด้วย ร.ต.ท.ภราดา แหวกกระโทก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน, ตำรวจสืบสวน, แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพระปกเกล้า และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ร่วมเดินทางตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียว ยกโครงหลังคาเหล็ก มีแต่ห้องนอน ส่วนโถ่งบ้านปล่อยโล่งเก็บสิ่งของ โดยที่บริเวณหน้าประตูห้องนอน ใกล้กับตู้เย็น พบศพของ ด.ต.หญิง อำไพวรรณ คงกระจ่าง อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ระยอง นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้น จากการตรวจชันสูตรของแพทย์นิติเวช พบมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่หน้าผาก บริเวณหางคิ้วซ้าย 1 นัด กระสุนทะลุท้ายทอย ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุ ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวอยู่บริเวณซุ้มโต๊ะใกล้กับจุดพบศพ ทราบชื่อต่อมาคือ ร.ต.ต.วุฒิชัย ทองมาก อายุ 53 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ประจำห้องวิทยุสื่อสาร สภ.เมืองจันทบุรี โดยมีทาง พ.ต.อ. ยอดชาย รอง ผบก.ภ.จ.จันทบุรี และ ร.ต.ท.ภราดา รอง สว.(สอบสวน) ร่วมสอบปากคำ
...
ขณะที่ นายภูวิสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ให้ข้อมูลว่า โดยปกติที่ผ่านมา ร.ต.ต.วุฒิชัย ที่เพิ่งได้ยศ ร.ต.ต.มาไม่ถึง 2 เดือน และ ด.ต.หญิง อำไพวรรณ ภรรยา มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง และมีหลายครั้งที่มักใช้อาวุธปืนขึ้นมายิงบริเวณบ้าน จนเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันเกิดความหวาดระแวงและกลัวที่จะโดนลูกหลง ได้แจ้งให้ตนมาตรวจสอบและระงับเหตุ ซึ่งได้พยายามว่ากล่าวตักเตือนและห้ามปราม
ต่อมาทาง พ.ต.อ.ยอดชาย รอง ผบก.ภ.จ.จันทบุรี เปิดเผยข้อมูลว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ร.ต.ต.วุฒิชัย ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยิง ด.ต.หญิง อำไพวรรณ ภรรยาจนเสียชีวิตจริง ซึ่งทั้ง 2 อยู่กินกันมาตั้งแต่ปี 2550 แต่ไม่ได้จดทะเบียนและไม่มีลูกด้วยกัน โดยมีชนวนสาเหตุมาจากประเด็นเรื่องมีปากเสียงทะเลาะกัน จากปัญหาในครอบครัว ก่อนบันดาลโทสะอารมณ์ชั่ววูบ ก่อเหตุสลดขึ้น ซึ่งหลังก่อเหตุได้สำนึกผิดได้โทรศัพท์ไปบอกให้ผู้ใหญ่บ้านแจ้งตำรวจมาจับตัวไปดำเนินคดี ชดใช้กรรมที่ก่อขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของคดี ตำรวจจะได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน และคำให้การของพยานแวดล้อม ในการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ต่อไป