ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองตบหน้าตำรวจนครบาล บุกจับร้านลาบเป็ด “เจ๊นิ่ม” ย่านปทุมวัน ดัดแปลงตึกแถว 3 ชั้นทำเป็นร้านอาหารและผับ พบนักเที่ยวราตรีดื่มกินเต้นรำสนุกสนาน 250 คน มีเยาวชนเข้ามาใช้บริการ 25 คน เป็นคนไทย 4 คน ลาว 21 คน จับ “เจ๊นิ่ม” เจ้าของพร้อมลูกน้องชาวลาวดำเนินคดี ส่วนนักเที่ยวที่เหลือทำประวัติแล้วปล่อยตัว ไม่ต้องตรวจฉี่เพราะที่เกิดเหตุไม่พบยาเสพติด เผยชาวบ้านร้องเรียนเปิดยันเช้าทุกวัน ทั้งที่ตั้งอยู่ใกล้วัดถึง 3 แห่ง ส่วน 5 เสือ สน.ปทุมวันไม่รอด ผบก.น.6 สั่งย้ายเข้า ศปก.บก.น 6 ไม่มีกำหนด

ปกครองตบหน้าตำรวจนครบาล บุกจับร้านลาบเป็ดปทุมวันดัดแปลงเป็นผับเปิดยันเช้า เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 1 ก.ค. นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครองพร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกว่า 30 นาย บุกตรวจค้น “ร้านลาบเป็ดยโส เจ๊นิ่ม รองเมือง ปทุมวัน” เลขที่ 185 ถนนพระรามที่ 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดเป็นสถานบันเทิงแอบแฝงและผิดกฎหมาย หลังชาวบ้านร้องเรียนว่า มีร้านลาบลักลอบเปิดผับบนอาคารชั้น 2 ให้บริการถึงเช้าเกือบทุกวัน ซ้ำตั้งอยู่ใกล้กับวัดชำนิหัตการหรือวัดสามง่าม ตรงข้ามวัดสระบัว และปากซอยเข้าวัดบรมนิวาส เสียงดังรบกวนทั้งวัดทั้งบ้านเรือนประชาชนโดยรอบ

ร้านดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดขายอาหารอีสานติดแอร์มีการ์ดคอยดูแลความเรียบร้อย พบนักเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างด้าว 100 คน เปิดเพลงเสียงดังลั่น ส่วนชั้น 2 ถูกดัดแปลงให้เป็นผับ มีทั้งที่เก็บเสียง เครื่องเสียง ไฟแสงสี ยิงไฟเลเซอร์เปิดเพลงสนั่น มีการ์ดดูแลอย่างแน่นหนาเช่นกัน มีนักเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างด้าวประมาณ 150 คน กำลังเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่แจ้งให้ปิดเครื่องเสียงและเปิดไฟในร้าน ท่ามกลางความแตกตื่นของนักเที่ยวราตรี พากันแตกฮือพยายามหลบหนี แต่ไม่สามารถหลบหนีออกไปได้ ส่วนชั้น 3 เปิดเป็นห้องน้ำ

...

ตรวจค้นภายในร้านคัดกรองนักเที่ยวพบวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี 25 คน เป็นคนไทย 4 คน ลาว 21 คน พนักงานเสิร์ฟชาวลาวไม่มีบัตรทำงาน 8 คน ในร้านมีเพียงสุราไม่พบยาเสพติด จับกุมนางใยบัว หรือเจ๊นิ่ม วิเศษวุฒิ อายุ 49 ปี เจ้าของร้านส่งดำเนินคดีที่ สน.ปทุมวัน ข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ หัวหน้าชุดตรวจค้นจับกุมเผยว่า ทุกครั้งที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองตรวจจับสถานบันเทิงในที่ต่างๆจะมีคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปีเสมอ สำหรับร้านดังกล่าวฝ่าฝืนกฎหมายชัดแจ้ง ตั้งอยู่ใกล้เคียงศาสนสถาน เปิดมาได้ประมาณ 3 ปี ส่งเสียงดังรบกวนวัดทั้ง 3 วัด แถมยังเปิดถึงเช้า ร้านนี้ตั้งอยู่เชิงสะพานยศเส ชาวบ้านที่ขับรถออกไปทำงานช่วงเช้ามืดเกิดอุบัติเหตุขับรถชนนักเที่ยวที่มึนเมาตายบ่อยครั้ง นักเที่ยวมีเรื่องทะเลาะกัน แทงกันออกไปตายนอกร้านเมื่อไม่นานมานี้ แถมอาคารดังกล่าวยังดัดแปลงเป็นผับจุนักเที่ยวได้มากกว่า 300 คน ไม่ได้ทำทางหนีไฟฉุกเฉิน หากเกิดเพลิงไหม้อาจสูญเสียครั้งใหญ่ จากนี้จะเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งปิดถาวร ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 และจะประสานกับกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบการใช้อาคารผิดประเภทตามกฎหมายควบคุมอาคารด้วย

มีรายงานว่าจากการตรวจค้นอย่างละเอียดไม่พบยาเสพติด เจ้าหน้าที่ได้ทำประวัติตักเตือนนักท่องราตรีทั้งหมดก่อนปล่อยตัวไปโดยไม่ได้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด อย่างไรก็ตาม สถานบริการแห่งนี้สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านละแวกนี้มานาน พยายามร้องเรียนไปที่ สน.ปทุมวัน และสำนักงานเขตปทุมวันหลายครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้า

ต่อมาช่วงสายวันเดียวกัน พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมออกคำสั่ง 5 เสือ สน.ปทุมวัน ไปช่วยราชการที่ ศปก.น.6 โดยขาดจากตำแหน่งเดิมไม่มีกำหนด ส่วนคนที่จะมารักษาการแทน อยู่ระหว่างพิจารณารายชื่อตัวบุคคลพร้อมกับตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว พร้อมระบุที่ผ่านมาได้กำชับให้พื้นที่มีการตรวจตรา ยอมรับว่าอาจจะมีหย่อนยานจนทำให้มีหน่วยงานอื่นเข้ามาจับกุม สำหรับร้านดังกล่าวเดิมทีเป็นร้านลาบขายอาหารและสุราแต่ได้ลักลอบดัดแปลงชั้น 2 ของร้านเปิดเป็นผับโดยไม่ได้รับอนุญาต

มีรายงานด้วยว่า ก่อนนี้เมื่อเที่ยงคืนเศษวันที่ 28 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพิ่งเข้าตรวจจับร้านตุ๊กตาคาราโอเกะ ย่านพุทธบูชา แอบแฝงขายบริการทางเพศเด็ก ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้ 4 เสือ สน.บางมด ถูกย้ายเข้ากรุ ศปก.บก.น.8

วันเดียวกัน พ.ต.อ.เกียรติกุล สนธิเณร รอง ผบก.น.6 รรท.ผบก.น.6 มีคำสั่งที่ 297/2566 ให้ข้าราชตำรวจไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (ศปก.บก.น.6) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม 5 นาย ได้แก่ พ.ต.อ.นพดล เทียมเมธา ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ณัฐกิตต์ ปิ่นทองดี รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ปรีชากรณ์ เหมาอำพมาตร์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.พิชัย รักษาคม สว.ป.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.สน.ปทุมวัน จากนั้นให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทนในตำแหน่ง ดังนี้ พ.ต.อ.ภัทรพงศ์ อินวรรณา ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 รักษาราชการแทน ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ทรงพล วอทอง สวป.สน.ปทุมวัน รักษาราชการแทน รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล รอง ผกก.สส.บก.น.6 รักษาราชการแทนรอง ผกก. สส.สน.ปทุมวัน พ.ต.ต.ปรีชา ไชยรังศรี สว.อก.สน. พลับพลาไชย 2 รักษาราชการแทน สวป.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.คชภพ คงสมบูรณ์ สว.สส.กก.สส.บก.น.6 รักษาราชการแทน สว.สส.สน.ปทุมวัน และ พ.ต.ท.รัชพล บัวย้อย สว.อก.บก.น.6 รักษาราชการแทน สว.อก.สน.พลับพลาไชย 2

...

นอกจากนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมี พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รอง ผบก.น.6 เป็นประธานกรรมการ พ.ต.อ.กระเษียร สุดตา ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ทองธานี สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 ร.ต.อ.ธนวัฒน์ กมล เลขานุการ รอง สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 เป็นกรรมการ และ ร.ต.อ.หญิง จิรัชญา ยอดคำ รอง สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 เป็นผู้ช่วยเลขานุการ สืบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนมาเพื่อพิจารณาต่อไป