"โกศลวัฒน์" รองโฆษกอัยการ เผย ตร.ส่งสำนวนคดี "แอม ไซยาไนด์" วางแผนฆ่า "ก้อย" โดยไตร่ตรอง แล้ว อดีตสามีตำรวจกับทนายโดนข้อหาด้วย อธิบดีอัยการคดีอาญาตั้งคณะทำงานพิจารณาให้ทันก่อน 18 ก.ค. รายงานเป็นคดีสำคัญถึง อสส.

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน ได้นำสำนวน 7 เเฟ้มพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ ในความฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง อดีตสามีของนางสรารัตน์ ในความผิดฐานเพื่อจะช่วยผู้อื่นมีให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหายทำลายซ่อนเร้น  เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด 184,83 น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายของ นางสรารัตน์ ในความผิดฐานเพื่อจะช่วยผู้อื่นมีให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลงเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด 184, 84 ผู้ต้องหาที่ 1-3 ในคดีเกี่ยวกับการฆาตกรรม น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย มาส่งให้ยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 

ซึ่งนายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ได้ตั้งคณะทำงานรายงานขึ้นมาเพื่อรับพิจารณาสำนวน และรายงานไปยัง น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุดตามระเบียบเนื่องจากเป็นคดีสำคัญประชาชนให้ความสนใจ และขั้นตอนดำเนินการหลังจากนี้คณะทำงานจะทำตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่คดีนี้จะมีระยะเวลา ครบขังจนถึงวันที่ 18 ก.ค. ซึ่งคณะทำงานอัยการจะดำเนินการเต็มที่อย่างที่เคยทำมาทุกคดีโดยไม่มีวันหยุดเพื่อให้งานเสร็จก่อนครบกำหนดฝากขัง

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคดีนี้ยังมีอีก 14 สำนวนที่พนักงานสอบสวนจะนำมาส่งพนักงานอัยการในคราวต่อไป 

สำหรับพฤติการณ์คดีนี้ นางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาออกอุบายนัดหมายให้ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย ผู้ตายไปพบที่หมู่บ้าน เพื่อจะพาผู้ตายไปฆ่าแล้วฆ่าเอาทรัพย์สิน โดยต่อมาวันที่ 14 เม.ย. 2566 เวลาประมาณ 06.30 น.ผู้ตายได้ขับรถยนต์ โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน กน2340 กาญจนบุรี ออกจากบ้านที่ จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านพฤกษาการ 1 จ.นครปฐม เมื่อมาถึงหมู่บ้านผู้ตายได้นำรถยนต์มาจอดไว้แล้วเดินมาขึ้นรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน กต 9532 นครปฐม โดยมีผู้ต้องหาเป็นคนขับ จากนั้นผู้ต้องหาได้ขับรถออกจากหมู่บ้านไปกับผู้ตาย ระหว่างที่ผู้ตายและผู้ต้องหาอยู่ในรถ ผู้ต้องหาได้นำสารพิษไซยาไนด์ใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่มให้ผู้ตายบริโภคโดยมีเจตนาฆ่า ในวันเดียวกันเวลา 09.00 น.ผู้ต้องหาและผู้ตายขับรถยนต์มาถึงบริเวณศาลาประชาคมริมแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และได้จอดรถบริเวณนั้น โดยผู้ตายเดินลงบันได เพื่อไปปล่อยปลา ส่วนผู้ต้องหาไม่ได้เดินตามไปด้วยหลังจากที่ผู้ตายปล่อยปลาได้สักพัก ขณะกำลังจะเดินขึ้นบันไดก็หมดสติล้มลง เมื่อผู้ต้องหาเห็นว่าผู้ตายกำลังหมดสติ จึงเดินลงบันไดไป จากนั้นก็เดินกลับขึ้นมาเพียงคนเดียวโดยไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ตาย 

ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุสามารถบันทึกภาพไว้ โดยภายในมือของผู้ต้องหาได้เอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายบางส่วนมาด้วยหลายเครื่อง แล้วขับรถยนต์ออกจากที่เกิดเหตุไป ปล่อยให้ผู้ตายนอนหมดสติอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหาไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ จนผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา.