หนุ่มวัย 20 ก่อเหตุใช้มีดแทงหญิงสาวจนเสียชีวิตคาอาคารที่พัก ก่อนตัดสินใจกระโดดลงมาจากตึกเพื่อจบชีวิตตัวเองหนีความผิด ตอนนี้อาการสาหัส

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. 2566 พ.ต.ต.ประสิทธิ์ สายตรง สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้กระโดดลงมาจากตึกได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย เหตุเกิดที่อาคาร 21 โครงการเอื้ออาทรมีนบุรี ถนนรามอินทรา แขวงและเขตมีนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูและกู้ภัยร่มไทรมีนบุรี

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในโครงการเอื้ออาทรมีนบุรี อาคารที่ 21 บริเวณทางเดินระหว่างชั้น 3 และชั้น 4 พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงทราบเพียงชื่อเล่นว่า กิ๊ฟ อายุประมาณ 19 ปีมีบาดแผลถูกแทงที่หน้าอกและช่องท้อง มีบาดแผลถูกฟันที่ลำคอ ใบหน้าด้านซ้าย เสียเลือดเป็นจำนวนมาก สวมชุดเสื้อกีฬามีปก กางเกงขายาวลายสก็อต ใกล้กันพบอาวุธมีดพกแหลม ที่ด้ามมีการพันผ้าเทปสีแดงไว้กันลื่น ตกอยู่บริเวณบันได 1 เล่ม

ขณะเดียวกันผู้ที่ก่อเหตุเป็นชายทราบชื่อต่อมาว่า นายณัฐชนน งั่งสัมฤทธิ์ อายุ 20 ปี ได้กระโดดลงมาที่บริเวณแท็งก์เก็บน้ำบริเวณด้านข้างของตัวอาคารดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเสรีรักษ์

จากการสอบถาม น.ส.รัศษุภา เทพสา อายุ 51 ปี เป็นผู้จัดการนิติบุคคล 1 ที่ดูแลอาคาร 21 ทราบว่า ขณะเกิดเหตุพบชายคนดังกล่าวกำลังกระโดดตึกเพื่อจะจบชีวิตตัวเอง ตนพยายามเกลี้ยกล่อมว่า ให้ใจเย็นๆ ทุกอย่างมีทางออก แต่ผู้ก่อเหตุบอกกับตนว่าผมอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะฝ่ายหญิงตายแล้ว ก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงมาจากด้านข้างตึกตกลงไปที่แท็งก์น้ำดังกล่าว จากนั้นตนก็เห็นร่างของผู้หญิงนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณทางเดินระหว่างบันไดชั้น 3 และ 4

...

สำหรับผู้ก่อเหตุทราบว่าเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี โดยเป็นหลานของเจ้าของห้องพักที่ชั้น 4 โดยที่ห้องดังกล่าวผู้ก่อเหตุอยู่กับญาติหลายคน ส่วนฝ่ายหญิงจะไปมาหาสู่เป็นประจำ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบจากทางญาติของฝ่ายชาย ว่าฝ่ายหญิงอาจมีผู้ชายมาติดพัน ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความหึงหวงขึ้นได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณอาคารดังกล่าว เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน โดยทางกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุ รวมถึงอาวุธมีดไว้ประกอบสำนวน ส่วนศพส่งให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปสอบสวนภายหลังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป