"บิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก." สั่งทางหลวงสอบ ผกก.กก.2 ทล.นครปฐม อ้างพาลูกน้องรายงานตัว ไม่อยู่ประจำสถานี ยันพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วน 40 นาย หากพบผิดวินัย ย้ายไปหน่วยงานอื่นได้ทันที ฮึ่ม 13 บก.ไม่แอ็กชั่น ส่ง ฉก.เข้าไปช่วยดูแล
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 มิถุนายน 2566 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยถึงกรณี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาส่วยสติกเกอร์บรรทุก ก่อนเข้าตรวจสอบที่ตั้งของ กก.2 บก.ทล.นครปฐม แต่ไม่พบทั้ง ผกก./รอง ผกก./สารวัตร พบเพียงตำรวจระดับชั้นประทวนประจำประจำสถานี 3 นาย ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาให้อำนาจผู้บังคับการในการบริหารงาน รวมถึงนโยบายในการกำกับดูแลอย่างเต็มที่ โดยให้สอบคำให้การของ ผกก.ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เมื่อรักษาการผู้การทางหลวงได้ข้อสรุปแล้วต้องส่งรายงานมาให้ตนดูอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร โดยจะทำให้เร็วที่สุดและพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนบทลงโทษขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า ส่วนการโยกย้ายตำรวจทางหลวง 40 นายก่อนหน้านี้ หากพบการกระทำผิดวินัยนั้นสามารถโยกย้ายให้ไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่นได้ทันที โดยไม่ต้องรอวาระโยกย้ายประจำปี ทางกองบังคับการ หรือกองบัญชาการมีอำนาจอยู่แล้ว แต่ถ้าทำไม่ได้คงต้องเสนอ ผบ.ตร.สั่งการอีกที
ทั้งนี้ในส่วนการทำงานของตำรวจทางหลวงได้เน้นย้ำให้ทำตามนโยบายของรัฐบาลที่กำชับให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการมาที่ ผบช.ก.ให้เข้มงวดตรวจสอบการทุจริตในหน้าที่อยู่แล้ว โดย บช.ก.มี 13 กองบังคับการ ตนให้อำนาจดูแลกันเองภายในอย่างเต็มที่ สำหรับตำรวจทางหลวงได้มอบนโยบายกำชับไปแล้วว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎบังคับของกฎหมายร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้ามีผู้ร้องเรียนเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งตามถนน ให้ตรวจจับอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการจับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ต่อไปจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดถ้าพบความผิดต้องออกใบสั่งปรับอย่างชัดเจน ไม่มีปรับซึ่งหน้า ไม่มีการปรับซึ่งหน้าอีกต่อไป แต่ถ้าหากเหนือบ่ากว่าแรง หรือยังทำไม่ได้จะส่งหน่วยเฉพาะกิจเข้าไปช่วยดูแล
...
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจเรตำรวจฯ ลงพื้นที่กรณีดังกล่าว ได้สั่งการให้มีการเขียนชี้แจงรายงาน ซึ่งทางผู้กำกับสถานีได้ชี้แจงว่า ติดภารกิจพาลูกน้องจำนวน 7 นาย ที่มีคำสั่งให้เข้าช่วยราชการที่กองบังคับการทางหลวงเข้ารายงานตัว ส่วน รอง ผกก.ไปราชการที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์.