ตำรวจส่งผู้ต้องหาฆ่าโหดเด็กหญิง 3 ขวบ ทิ้งบึงน้ำที่นราธิวาสฝากขัง ยังให้การปฏิเสธ พ่อเด็กเชื่อตำรวจมีหลักฐาน ด้านญาติผู้ต้องหายืนยันวันเกิดเหตุ ชายที่ถูกกล่าวหา ยืม จยย.ขี่ไปซื้อน้ำกระท่อมและยาบ้ามาเสพที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน
เวลา 10.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. 66 พ.ต.ต.ณัฎฐ์ธนิน อณุภาบุณยวัทน์ สารวัตรสอบสวน สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส ควบคุมตัว นายมะยาการียา ลอตันหยง อายุ 46 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.นราธิวาส ที่ 495/2566 ลงวันที่ 12 มิ.ย. 66 ในคดีฆ่า “น้องณาดา” อายุ 3 ขวบ บุตรของนายอัมรันทร์ แนฆามา และ น.ส.ซารีปะ มะแอ แล้วอำพรางศพทิ้งในแอ่งน้ำ บริเวณทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ม.5 ต.กะลุวอเหนือ สภาพสวมเสื้อตัวเดียว ส่วนท่อนล่างเปลือย จนชาวบ้านพบศพ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 66
โดย มะยาการียา ถูกแจ้งข้อหา พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ส่งฝากขังยังศาล จ.นราธิวาส หลังจากพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหา ซึ่งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ทราบจากผู้เกี่ยวข้องในการคลี่คลายคดีนี้ว่า หลักฐานที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไปตรวจสอบด้วยกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ คือหน้ากากอนามัยที่พบอยู่ในกระเป๋ากางเกงของ นายมะยาการียา ผู้ต้องหา มีคราบอสุจิจำนวนหนึ่งปนเปื้อนติดอยู่ รวมทั้งหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องทางคดี ได้รวบรวมไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับ
ด้าน พ.ต.อ.มะตอฮา มูหนะ ผกก.สภ.ตันหยง กล่าวว่า ตอนนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาไปขอฝากขังต่อศาลจังหวัดนราธิวาส ส่วนจะมีหลักฐานอะไรมัดตัวคนร้ายนั้น ถือว่าเป็นหลักฐานในทางคดี ซึ่งพยานหลักฐานส่วนหนึ่งที่มีทำให้ตำรวจสามารถขอหมายจับจากศาลจังหวัดนราธิวาส และตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับศาล
...
นายอัมรันทร์ บิดาน้องณาดา กล่าวว่า “ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว คนร้ายคนนี้ก็สงสัยอยู่ แกเดินผ่านหน้าร้านเป็นประจำ พอน้องหายตัวไปก็ไม่เห็นหน้าแก ซึ่งก่อนหน้านี้ ก่อนที่ลูกสาวจะหายตัว แกจะเดินมาซื้อข้าวแถวนี้เป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้เล่นกับลูกเรา” ส่วนข้อซักถามถึงกรณีญาติผู้ต้องหา ระบุว่า “จับแพะ” เพื่อปิดคดี มีความคิดเห็นอย่างไร นายอัมรันทร์ กล่าวว่า อยากให้ตำรวจจับคนร้ายที่ก่อคดีจริงๆ ตำรวจคิดว่าเขาเป็นคนทำ มีพยานหลักฐานมัดตัวได้
ขณะที่ นายมูหามะ ยาราวี ซึ่งเป็นน้องเขยของผู้ต้องหา กล่าวว่า เมื่อวานตำรวจได้เชิญตัว นายมะยาการียา ไปในฐานะของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย และก็ได้ไปฟังที่ตำรวจได้ซักถาม ซึ่งหลักฐานที่ตำรวจมีสามารถออกหมายจับได้ แต่ถึงแม้ว่าศาลจะออกหมายจับแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า นายมะยาการียา จะเป็นคนทำ สาเหตุที่เชื่อว่าไม่ได้ทำ เพราะ นายมะยาการียา เองก็ไม่ชอบไปสุงสิงกับใคร นอกจากว่าจะออกไปซื้อข้าว และอีกอย่าง นายมะยาการียา ก็ไม่รู้จักเด็ก ไม่เคยเห็นหน้าเด็กด้วยซ้ำ เพราะปกติแล้ว นายมะยาการียา จะทำงานอยู่ประเทศมาเลเซีย เป็นกุ๊กทำอาหาร 2-3 เดือนจะกลับมาครั้งหนึ่ง แต่วันนั้นเขากลับมาเพื่อมาเลือกตั้ง
“ตอนนี้ทางครอบครัวได้หาทนาย เพราะมั่นใจว่า นายมะยาการียา ไม่ได้เป็นคนทำ ซึ่งในวันเกิดเหตุ นายมะยาการียา มาเอารถมอเตอร์ไซค์ของผมออกไปข้างนอก ตั้งแต่บ่าย 3 จากนั้นก็ไปซื้อน้ำกระท่อมที่หมู่บ้านใกล้เคียง กลับถึงบ้านก็ประมาณ 5 โมงเย็น ตอนกลางคืนก็ออกไปซื้อยาบ้าเพื่อมาเสพอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปไหน”.