ชาวนาที่บ้านโป่ง ชอบกินทุเรียน ซื้อต้นพันธุ์หมอนทองมาปลูก ท่ามกลางคำปรามาส ปลูกไปก็ไม่ได้กินหรอก เฝ้าดูแลทะนุถนอม ผ่านไป 4 ปี ทุเรียนที่รอดตายตกลูก ตั้งใจจะเอาไปถวายพระทำบุญให้บรรพบุรุษ ถูกคนมาขโมยตัดเอาไป 4 ลูก ทั้งท่ีทุเรียนยังอ่อน กินไม่ได้ ชาวบ้านรุมแช่ง ขอให้ท้องอืดร้อนในตาย 


วันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สวนทุเรียนลุงเสกสรร หมู่ 9 ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีหัวขโมยแอบย่องลักตัดผลทุเรียนหมอนทองต้นแรกของหมู่บ้าน ทำให้เจ้าของและชาวบ้านต่างรุมสาปแช่ง พบต้นทุเรียนดังกล่าวปลูกอยู่ริมถนนในซอยหมู่บ้าน ความสูงประมาณ 3 เมตร ที่กิ่งพบคนร้ายตัดผลทุเรียนไปจำนวน 4 ลูก เหลือแต่ขั้วไว้ให้ดูต่างหน้า โดยมี นายเสกสรร สันทอง อายุ 58 ปี เจ้าของต้นทุเรียน พร้อมชาวบ้าน กำลังคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายเสกสรร เจ้าของต้นทุเรียน เผยว่า ปกติมีอาชีพทำนา แต่ด้วยความชื่นชอบรับประทานทุเรียนมาก ประกอบกับมีที่ดินว่างเปล่า ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 100 เมตร จนเมื่อ 4 ปีก่อน เริ่มทำสวนไม้ผลไว้กินในครัวเรือน โดยเฉพาะทุเรียน จึงนำเงินไปซื้อกิ่งพันธุ์ทุเรียนหมอนทองจาก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ราคาต้นละ 300 บาท  มาปลูกไว้ 10 ต้น แต่เนื่องจากสภาพทั่วไปของ ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง มีความแตกต่างจากพื้นที่ปลูกทุเรียนในแหล่งอื่นๆ จึงต้องศึกษาและดูแลต้นทุเรียนเป็นพิเศษ แต่ทุเรียนก็ตายไปถึง 7 ต้น กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ต้นทุเรียนที่เหลือเริ่มออกดอก ติดผล สร้างความดีใจให้กับตนเป็นอย่างมาก ตั้งใจจะนำทุเรียนผลแรกไปทำบุญถวายพระ และอุทิศกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ส่วนที่เหลือจะแบ่งให้กับครอบครัวและญาติได้ชิม ซึ่งจะเก็บผลชุดแรกจำนวน 4 ลูก ได้ในเดือนกรกฎาคมนี้ 

...

แต่ความหวังกลับพังทลายลง หลังเมื่อคืนวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนออกไปดูแลต้นทุเรียน ถึงเวลาประมาณ 21.00 น. ก่อนกลับมานอนพัก เช้าวันต่อมาออกไปดูทุเรียนอีกครั้ง พบว่าผลทุเรียนทั้ง 4 ลูก ถูกคนร้ายตัดขโมยไป รีบเดินไปสำรวจดูอีกต้นหนึ่ง ซึ่งติดผลขนาดเล็กอยู่ 2 ลูก คนร้ายไม่ได้ตัดไป หลังจากนี้ตั้งใจจะมานอนเฝ้าป้องกันไม่ให้ใครมาขโมยอีก 

นางเสาวลักษณ์ ประภาพัฒนพงษ์ ชาวบ้าน เปิดเผยว่า ช่วงแรกที่นายเสกสรรซื้อต้นทุเรียนมาปลูก ทั้งภรรยาของนายเสกสรรและชาวบ้านทุกคน ต่างก็ไม่มีใครเชื่อว่าจะปลูกทุเรียนได้ และยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ปลูกไปก็ไม่ได้กินลูก” แต่ตลอด 4 ปี ทุกวันนายเสกสรรจะมาคอยรดน้ำ ใส่ปุ๋ย เก็บหนอน และจับแมลง เรียกได้ว่าดูแลเสมือนลูก กระทั่งทุเรียนออกผลใหญ่ จากคำสบประมาท กลับกลายมาเป็นคำชม และเป็นความหวังของหมู่บ้าน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ล้ิมลองเนื้อทุเรียน กลับถูกโจรมาขโมยตัดผลทุเรียนไปเสียก่อน และยิ่งเจ็บใจมากขึ้นไปอีก เมื่อรู้ว่าทุเรียนที่ถูกตัดไปยังอ่อนอยู่ กินก็ไม่ได้ เอาไปขายก็ไม่ได้ ชาวบ้านที่รู้ข่าวถึงกับพากันรุมสาปแช่งโจรด้วยความโกรธแค้น ที่มาทำลายความหวังของหมู่บ้านว่า “ถ้ากินทุเรียนไปแล้ว ขอให้ท้องอืดเป็นร้อนในตาย”.