น้า-หลานหยิบมีดมาดวลกัน ก่อนน้าเพลี่ยงพล้ำถูกแทงเสียชีวิต ต้นเหตุจากความเมา สั่งหลานไปเซ็นเหล้าในหมู่บ้านมาดื่มเพิ่ม แต่หลานบอกร้านไม่ให้เซ็น น้าโมโหจนมีปากเสียง
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2566 เวลาประมาณ 17.00 น. ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ หลานชายใช้มีดสปาต้าแทงน้าชายจนเสียชีวิต ที่บ้านป่าเป้าน้อย หมู่ที่ 6 ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุ จึงประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง และอาสากู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธาธรรม จุดอำเภอบ้านดุง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณข้างบ้านปูนขั้นเดียวยกสูงทรงโมเดิร์น ห่างจากบ้านไปทางทิศตะวันออก 40 เมตร พบศพนายเกียรติชัย หรือ เซียง อายุ 47 ปี นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ ไม่สวมรองเท้า มีแผลถูกแทงที่หน้าอกซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์จนเห็นหัวใจ และพบมีดทำครัวยาวประมาณ 30 ซม. ตกอยู่ข้างศพ
ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป ทราบชื่อภายหลังคือ นายเทิดทูล หรือ กุ้ง อายุ 38 ปี มีศักดิ์เป็นหลานชายของผู้ตาย โดยมีนายมรกต หรือ โต้ อายุ 38 ปี หลานชายอีกคน ที่เป็นพยานในที่เกิดเหตุเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายมรกตเล่าว่า นายเกียรติชัย หรือ เซียง น้าชายเป็นช่างไม้ ทำเฟอร์นิเจอร์ส่งขายตามร้านทั่วไป อยู่บ้านคนเดียวส่วนคนก่อเหตุเป็นหลานชาย บ้านอยู่ใกล้กัน คือ นายเทิดทูล หรือ กุ้ง มีหน้าที่เป็นลูกมือน้า ที่น้าจ้างเป็นรายวันเพื่อมาช่วยงาน ทั้งคู่มีบ้านอยู่ติดกัน น้าได้จ้างนายกุ้งมาช่วยงานได้ประมาณปีกว่า แต่ก็มีเรื่องระหองระแหงกันมาประจำ เพราะน้าชอบดุด่านายกุ้งว่าช่วยงานไม่เต็มที่ กินแต่เหล้า
ตอนเกิดเหตุประมาณ 14.00 น. ทั้งคู่ซื้อเหล้าขาวมานั่งดื่มด้วยกันที่บ้านน้า ส่วนตนเองมาช่วยต่อไฟฟ้าที่บ้าน จึงมานั่งร่วมวงด้วย ไม่นานเหล้าที่กินก็หมด น้าจึงใช้นายกุ้งไปซื้อเหล้าที่ร้านค้าในหมู่บ้าน โดยใช้ชื่อของน้าเซ็นไว้ก่อน นายกุ้งจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกไป แต่ไปนานมาก น้าอยากดื่มเหล้าต่อ จึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไป พอไปถึงที่ร้านค้า นายกุ้งบอกว่าเซ็นเหล้าไม่ได้ น้าจึงโมโหว่าให้ทำแค่นี้ก็ไม่ได้ จึงมีปากเสียงกัน และเกิดทะเลาะกันก่อนผู้ตายจึงใช้เงินสดซื้อกลับมากินเอง
...
ประมาณ 16.30 น. พอทั้งคู่กลับมาถึงบ้าน ก็มีการตะโกนด่าท้าทายกันไปมา ทำให้น้าโมโหที่ถูกหลานด่าทอและเถียง จึงถือมีดทำครัวมาที่จุดเกิดเหตุ ควงมีดท้าทายนายกุ้งให้ออกมาเคลียร์ปัญหากัน นายกุ้งจึงคว้ามีดสปาต้าออกมาจากบ้าน ยืนเถียงกันสักพัก ก่อนดวลมีดต่อสู้กันประมาณ 1 นาที หลังจากนั้นตนก็ได้ยืนเสียงน้าตะโกนบอกว่าถูกแทง ตนจึงรีบวิ่งดู ขณะที่นายกุ้งบาดเจ็บที่มือขวาถือมีดวิ่งหลบหนีไป พอไปถึงก็เห็นน้านอนหายใจรวยริน ก่อนจะแน่นิ่งไป ตนจึงวิ่งไปบอกญาติให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยได้
ด้านนางอนุชรา ชาวยศ ผญบ. กล่าวว่า ผู้ตายและผู้ก่อเหตุ อยู่บ้านคนเดียว มีบ้านอยู่ใกล้กัน เนื่องจากเป็นญาติพี่น้องกัน คือผู้ตายมีศักดิ์เป็นน้า ส่วนคนก่อเหตุมีศักดิ์เป็นหลาน ผู้ตายไม่มีเมีย เนื่องจากได้หย่าร้างกันกับเมียคนแรก มีลูกด้วยกัน 1 คน ลูกชายได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่งเงินมาให้พ่อปลูกบ้าน ทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นปกติ คาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะรุนแรงถึงขนาดนี้
พ.ต.ท.จำลอง ทับสีแก้ว รอง ผกก.สอบสวนหลังออกสืบสวนแล้วมอบหมายให้ชุดสืบสวนระดมกำลังติดตามจับกุมนายกุ้ง ผู้ก่อเหตุ แต่ยังไม่สามารถจับกุมได้ เนื่องจากพื้นที่เป็นที่ไร่นา เป็นเขตรอยต่อระหว่าง จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร ผู้ก่อเหตุมีความชำนาญพื้นที่ แต่คาดว่าคงจะหนีไปได้ไม่ไกลมากนัก ซึ่งจะได้เร่งติดตามจับกุมมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป